โครงการฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมกระเหรี่ยงภาคตะวันตก - page 44
ทิ
วา คงนานดี
และคณะ ๔๔
ชาวกะเหรี่
ยงมี
ความเชื่
อว
า พระแม
โพสพเป
นเทพเจ
าที่
มาสามารถปกป
องดู
แลพื
ชพั
นธุ
อาหารไม
ให
เสี
ยหาย และเพื่
อให
มี
ความอุ
ดมสมบู
รณ
เมื่
อเก็
บเกี่
ยวแล
วเสร็
จ โดยชาวกะเหรี่
ยงจะนํ
าอาหารคาวหวาน และ
รํ
าตงมาถวายแก
บนด
วยกั
บสิ่
งของที่
ใช
ประกอบพิ
ธี
กรรมได
แก
(๑) ข
าวในไร
ที่
ปลู
กในป
นั้
น (๒) เผื
อก มั
น หรื
อ
พื
ชผั
กที่
ปลู
กในป
นั้
น (๓) ข
าวเหนี
ยวป
นคลุ
กมะพร
าวและเกลื
อ (๔) ทองโยะ – ข
าวเหนี
ยวนึ่
งนํ
ามาตํ
าผสมงา
และเกลื
อ (๕) ดอกไม
ที่
ปลู
กในไร
หรื
อในบ
าน (๖) เที
ยนเหลื
องหรื
อเที
ยนขี้
ผึ้
ง ๕ ดอก (๗) น้ํ
าขมิ้
นส
มป
อย ๑
แก
ว (๘) น้ํ
าดื่
ม ๑ แก
ว (๙) ขนมบั
วลอยพื้
นบ
าน – ไม
ใส
ไข
และ (๑๐) กั
บข
าวอื่
นๆ สํ
าหรั
บเลี้
ยงแขกที่
มา
ร
วมงาน
หลั
งจากการเก็
บเกี่
ยวแล
วเสร็
จ หากใครไม
แก
บนตามที่
กล
าวไว
ชาวกะเหรี่
ยงเชื่
อว
า คนนั้
นจะมี
อั
น
เป
นไป เช
น สมาชิ
กในครอบครั
วจะเจ็
บไข
ได
ป
วย ล
มหายตายจาก หรื
อประสบอุ
บั
ติ
เหตุ
จากสิ
งสาราสั
ตว
ครอบครั
วจะเดื
อดร
อน ไม
มี
ความสุ
ข และผี
บ
านผี
เรื
อนจะลงโทษตามความเชื่
อของชาวกะเหรี่
ยงสมั
ยก
อน โดย
การจั
ดแก
บนสามารถจั
ดร
วมกั
นหลายครอบครั
วพร
อมกั
นได
ผ
านการเลื
อกครอบครั
วที่
มี
ความพร
อมด
าน
สถานที่
และอาจจะเวี
ยนเปลี่
ยนรอบแต
ละบ
านในแต
ละป
สิ่
งที่
สํ
าคั
ญคื
อ พิ
ธี
กรรมแก
บนทุ
กครั้
งจะต
องมี
การรํ
า
ตงเพื่
อรํ
าถวายต
อหน
าพระแม
โพสพ เจ
าภาพจะสร
างที่
พั
กหรื
อศาลเพี
ยงตา ทํ
าจากไม
ไผ
สร
างเป
นเรื
อนไม
เล็
กๆ
๑หลั
ง ประดั
บตกแต
งด
วยกระดาษเงิ
นกระดาษทอง และสายสิ
ญจ
เพื่
อนํ
าไปผู
กกั
บกองข
าวที่
ชาวบ
านนํ
ามา
เตรี
ยมไว
หลั
งจากนั้
นผู
อาวุ
โสหรื
อผู
ที่
ชาวบ
านนั
บถื
อจะอั
ญเชิ
ญพระแม
โพสพ รุ
กขเทวดา ผี
บ
านผี
เรื
อนมาสิ
ง
สถิ
ตย
ที่
ศาลหรื
อบ
านที่
เตรี
ยมไว
จากนั้
นชาวกะเหรี่
ยงจะนํ
าเอาอาหารคาวหวานและเครื่
องเซ
นไหว
มาถวาย
ตามด
วยพิ
ธี
กรรมตามความเชื่
อ พิ
ธี
กรรมจะจบด
วยกั
บการแสดงรํ
าตง โดยพิ
ธี
กรรมจะเสร็
จสิ้
นในช
วงก
อนเที่
ยง
วั
น เมื่
อผู
อาวุ
โสนํ
าน้ํ
าขมิ้
นส
มป
อยมาปะพรมที่
กองข
าว และแขกที่
มาร
วมพิ
ธี
ทุ
กคนจะร
วมรั
บประทานอาหารที่
เตรี
ยมมาร
วมกั
น ส
วนข
าวที่
ใช
ในการนํ
าพิ
ธี
จะนํ
าเอาไปถวายวั
ด
อั
ตลั
กษณ
ชาติ
พั
นธุ
และการปรั
บตั
วของกะเหรี่
ยงในประเทศไทย
คนส
วนใหญ
จํ
านวนมากที่
เป
นกะเหรี่
ยงอาศั
ยอยู
ในประเทศพม
าและมี
การศึ
กษากะเหรี่
ยงเป
นครั้
งแรก
เกิ
ดขึ้
นที่
นั่
น โชคไม
ดี
ที่
จากนั้
นมานั
กมานุ
ษยวิ
ทยา ,นั
กภาษาศาสตร
, นั
กประวั
ติ
ศาสตร
และสาขาอื่
นๆไม
สามารถเข
าไปศึ
กษาวิ
จั
ยกะเหรี่
ยงในพม
าได
อี
กตั้
งแต
ช
วงสงครามโลกครั้
งที่
2 เป
นต
นมาสงครามโดยตั
วของมั
น
เองได
นํ
าไปสู
การต
อต
านของกะเหรี่
ยงต
อการสถาปนารั
ฐพม
าขึ้
นใหม
การต
อต
านส
วนหนึ่
งเกิ
ดในพื้
นที่
กะเหรี่
ยง
รวมทั้
งการป
ดประเทศพม
าต
อการศึ
กษาจากภายนอกหลั
งจากที่
ได
สถาปนาการปกครองทหารในป
1962 ใน
ภาคเหนื
อ การเพิ่
มงานวิ
จั
ยในพื้
นที่
ทางมานุ
ษยวิ
ทยาและภาษาศาสตร
ชาติ
พั
นธุ
ผู
เขี
ยนส
วนหนึ่
งได
พยายาม
วิ
จั
ยบนฐานข
อมู
ลทางประวั
ติ
ศาสตร
งานวิ
จั
ยทั้
งหมดได
ไปด
วยกั
นสามารถกล
าวได
ว
าใช
ข
อมู
ลมี
ความสั
มพั
นธ
กั
นกะเหรี่
ยงในไทยกั
บที่
พบในสํ
านั
กงานที่
อิ
นเดี
ย ในบั
นทึ
กสํ
าคั
ญของไทยจดหมายเหตุ
และบั
นทึ
กประจํ
าป
ก็
ถู
ก
นํ
ามาพิ
จารณาด
วย ดั้
งนั้
นการวิ
จั
ยนี้
จึ
งเป
นผลรวมของการวิ
จั
ยทางมานุ
ษยวิ
ทยา, ภาษาศาสตร
, และ
1...,34,35,36,37,38,39,40,41,42,43
45,46,47,48,49,50,51,52,53,54,...76