โครงการฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมกระเหรี่ยงภาคตะวันตก - page 43
ทิ
วา คงนานดี
และคณะ ๔๓
ทางด
านภู
มิ
ศาสตร
หมู
บ
านเวี
ยคะดี้
เป
นส
วนหนึ่
งของต
นน้ํ
าบี่
คี่
คื
อ ห
วยตะโก
ซึ่
งไหลมาจากประเทศ
พม
า ผ
านล็
อคกานี
บ
านมอระซ
า บ
านเวี
ยคะดี้
บ
านชู
แหละ บ
านช
องลู
บ
านห
วยมาลั
ย แล
วจึ
งไหลลงสู
ลํ
าน้ํ
า
โด
งปะรวยที่
หมู
บ
านใหม
พั
ฒนา และไหลลงสู
แม
น้ํ
าบี่
คี่
อาณาเขตโดยรอบของหมู
บ
านเวี
ยคะดี้
ทางด
านทิ
ศ
เหนื
อติ
ดกั
บหมู
ที่
๔บ
านห
วยกบ และหมู
ที่
๑๐บ
านปะไรโหนก ทางด
านทิ
ศใต
ติ
ดกั
บหมู
ที่
๖ บ
านห
วยมาลั
ย
ทางด
านทิ
ศตะวั
นออกติ
ดกั
บหมู
ที่
๔บ
านห
วยกบ และหมู
ที่
๖บ
านห
วยมาลั
ย ส
วนทางด
านทิ
ศตะวั
นตกติ
ดกั
บ
บ
านล็
อคกานี
ประเทศพม
า ลํ
าน้ํ
าที่
สํ
าคั
ญในหมู
บ
านคื
อ ลํ
าน้ํ
าห
วยตะโก
ซึ่
งไหลมาจากประเทศพม
า
ด
านประชากร หมู
บ
านเวี
ยคะดี้
เมื่
อประมาณป
พ.ศ. ๒๕๒๗มี
ประชากรเพี
ยง ๕๐ –๖๐หลั
งคาเรื
อน
ซึ่
งถื
อเป
นหมู
บ
านที่
ใหญ
พอสมควร ตอนนี้
ประชากรในหมู
บ
านมี
ทั้
งสิ้
น๑,๒๘๑คน แบ
งเป
นผู
ชายจํ
านวน๖๗๔
คน และผู
หญิ
งจํ
านวน๖๐๗ คนป
จจุ
บั
นหมู
บ
านเวี
ยคะดี
มี
จํ
านวนครั
วเรื
อนทั้
งสิ้
น ๗๐๗ ครั
วเรื
อน เมื่
อก
อนมี
ผู
ใหญ
บ
านมาแล
ว ๒ คนคื
อ นายตะปุ
และนายไมะโพ
ซึ่
งทั้
งสองท
านได
เสี
ยชี
วิ
ตไปแล
ว ต
อมานายมู
ล สี
มา จึ
ง
ได
เป
นผู
ใหญ
บ
านแทน หมู
บ
านเวี
ยคะดี้
ตั้
งอยู
ในหมู
ที่
๕ ตํ
าบลหนองลู
อํ
าเภอสั
งขละบุ
รี
จั
งหวั
ดกาญจนบุ
รี
ป
จจุ
บั
นมี
นายพุ
ทธชายหลวงวิ
เศษ เป
นผู
ใหญ
บ
านส
วนใหญ
ประชากรในหมู
บ
านจะทํ
าอาชี
พเกษตรกรรม เลี้
ยง
สั
ตว
ประมาณร
อยละ ๙๐นอกนั้
นจะมี
อาชี
พค
าขายภายในหมู
บ
าน รั
บจ
างทั่
วไป และอื่
นๆ
การศึ
กษาวั
ฒนธรรมและอั
ตลั
กษณ
ของชาวกะเหรี่
ยง
ชาวกะเหรี่
ยงในอํ
าเภอสั
งขละบุ
รี
ชาวกะเหรี่
ยงมี
อั
ตลั
กษณ
ทางชาติ
พั
นธุ
ที่
มี
ลั
กษณะเฉพาะของตนเอง ที่
สํ
าคั
ญคื
อ ภาษากะเหรี่
ยง และ
วั
ฒนธรรมประเพณี
ของชาวกะเหรี่
ยงที่
ถื
อเป
นระบบทางสั
งคมที่
หล
อหลอม “ความเป
นกะเหรี่
ยง” มาจากรุ
นสู
รุ
น จากการศึ
กษาพบว
า ชาวกะเหรี่
ยงอาศั
ยอย
มานานมาแล
วโดยเฉพาะในพื้
นที่
ชายแดนไทย-พม
า ในบริ
เวณ
ภาคตะวั
นตก ซึ่
งในจั
งหวั
ดกาญจนบุ
รี
พบว
าส
วนมากเป
นกะเหรี่
ยงโปว
การอพยพเข
ามาของชาวกะเหรี่
ยงใน
กาญจนบุ
รี
จะเข
ามาในพื้
นที่
ด
านเจดี
ย
สามองค
ความเป
นมาของหมุ
บ
านใหม
พั
ฒนาเริ่
มก
อร
างขึ้
นมาเมื่
อป
พ.ศ. 2526 โดยทางการไฟฟ
าฝ
ายผลิ
ตแห
ง
ประเทศไทย เขื่
อนเขาแหลมหญ
า อํ
าเภอทองผาภู
มิ
จั
งหวั
ดกาญจนบุ
รี
ใช
พื้
นที่
ในเขตอิ
ทธิ
พลของมอญ ซึ่
งอยู
ในประเทศไทย พื้
นที่
ดั
งกล
าวคื
อ “บ
านโก
งปะรวย” ชาวมอญจํ
านวนมากอาศั
ยอยู
จนต
อมาเจ
าหน
าที่
รั
ฐได
ขั
บ
ไล
พวกเขาออกจากพื้
นที่
นี้
จากนั้
นการไฟฟ
าฝ
ายผลิ
ตฯ จึ
งได
ยึ
ดพื้
นที่
แห
งนี้
มาสร
างเป
นที่
อยู
อาศั
ยให
กั
บ
ชาวบ
านที่
ถู
กผลกระทบสร
างเขื่
อนแทน โดยมี
ระยะทางจากพื้
นที่
ได
รั
บผลกระทบประมาณ 30-40 กิ
โลเมตร
จนป
พ.ศ. 2527 ปรากฏมี
หมู
บ
านที่
ได
รั
บผลกระทบจากการสร
างเขื่
อน 7 หมู
บ
านคื
อ บ
านทุ
งมาลั
ย, บ
านคู
ผาดู
, บ
านโล
งตะโก
ง, บ
านนุ
งลุ
, บ
านกุ
ยจะโถ, บ
านชิ
เด
งเฉ
ง และบ
านหนองไก
ลั
กษณะทางวั
ฒนธรรมของชาวกะเหรี่
ยง เช
น ในด
านภาษา ชาวกะเหรี่
ยงมี
ภาษาใช
ในชี
วิ
ตประจํ
าวั
น
ตั
วอั
กษรของภาษากะเหรี่
ยงได
รั
บอิ
ทธิ
พลมาจากภามอญ โดยผ
านทางด
านของศาสนา เช
น ในบทคํ
าสวดมนต
การแต
งคํ
าเทศน
เพราะจะเขี
ยนด
วยตั
วอั
กษรมอญทั้
งสิ้
น
1...,33,34,35,36,37,38,39,40,41,42
44,45,46,47,48,49,50,51,52,53,...76