ne191 - page 21

13
การบริ
การสั
งคมส่
งผลให้
การขยายตั
วของอํ
านาจรั
ฐเข้
าแทรกแซงและ
ควบคุ
มสั
งคมเป็
นไปอย่
างเหนี
ยวแน่
นขึ
น แม้
ในระบบการศึ
กษาก็
ไม่
มี
การ
พู
ดถึ
งสิ
ทธิ
ของประชาชนไว้
ไม่
มี
การส่
งเสริ
มให้
ประชาชนตระหนั
กถึ
สิ
ทธิ
ของตนในด้
านต่
าง ๆ อย่
างจริ
งจั
ง นอกจากสิ
ทธิ
การลงคะแนน
เลื
อกตั้
งเท่
านั้
นที่
ได้
รั
บการส่
งเสริ
มมองในอี
กด้
านหนึ่
งการส่
งเสริ
มแต่
สิ
ทธิ
การเลื
อกตั้
งโดยละไม่
พู
ดถึ
งสิ
ทธิ
ด้
านอื่
นๆของพลเมื
องเลยทํ
าให้
เกิ
ดการ
ครอบงํ
าโดยปริ
ยายให้
ประชาชนสํ
านึ
กตั
วเองในฐานะผู
ถู
กปกครองที่
ต้
อง
ปฏิ
บั
ติ
ตามรั
ฐอย่
างไม่
ต้
องขั
ดขื
นดั
งนั้
นในขณะที่
รั
ฐมี
อํ
านาจมากขึ
นเรื่
อย
ๆ สั
งคมก็
กลั
บอ่
อนแอลงเรื่
อยๆด้
วยเช่
นกั
น”
จากแนวคิ
ดการควบคุ
มและครอบงํ
าของภาครั
ฐผ่
านระบบการศึ
กษาCallewaert (1999
: 118-121) (อ้
างในสุ
ลั
กษณ์
ศิ
วลั
กษณ์
สั
งคมศาสตร์
การศึ
กษา 2551 : 50-52) ได้
เสนอแนวคิ
การศึ
กษาที่
เป็
นขนบทางความคิ
ดและเป็
นฐานในการปฏิ
บั
ติ
คื
1)
เป็
นกระบวนทั
ศน์
เรื่
องการศึ
กษา กล่
าวคื
อ เห็
นว่
าเป็
นการศึ
กษาในระบบที่
รั
ฐจะ
ชี
นํ
า จั
ดการ รั
บรองวุ
ฒิ
การศึ
กษากระบวนทั
ศน์
ดั
งกล่
าวจะพบทั
งในการดู
แลเลี
ยงดู
เด็
กอนุ
บาลและ
การฝึ
กอบรมต่
างๆ ในระดั
บที่
แตกต่
างกั
นประเด็
นนี
เราจะเห็
นชั
ดในสั
งคมไทยปั
จจุ
บั
2)
กระบวนทั
ศน์
การศึ
กษาเป็
นการครอบครองทางความคิ
ดที่
นั
บว่
ามี
บทบาทต่
การศึ
กษาในเวที
อื่
นๆความคิ
ดจะแบ่
งเป็
น “ความคิ
ดที่
ทํ
าให้
อยู
ในกรอบ”ซึ
งเป็
นจุ
ดขั
นต้
นของทุ
ๆคนก่
อนที่
จะกระทํ
าและคิ
ดซึ
งเด็
กๆและเยาวชนจะรั
บความคิ
ดนี
ติ
ดตั
วไปจนโตอี
กความคิ
ดคื
“ความคิ
ดเรื่
องความชํ
านาญการ”ที่
ได้
มาจากการศึ
กษาอย่
างเป็
นทางการ
การศึ
กษาเป็
นเรื่
องของมนุ
ษย์
เป็
นเรื่
องของการโอนถ่
าย/ ถ่
ายทอดทางวั
ฒนธรรมชี
วิ
ทางสั
งคม สิ
งประดิ
ษฐ์
ทางวั
ฒนธรรม การผลิ
ตสั
ญลั
กษณ์
และสั
มพั
นธ์
กั
บรั
ฐเสมอๆอย่
างไรก็
ตาม
การศึ
กษาเป็
นเรื่
องการผลิ
ตซํ
าทางวั
ฒนธรรมและชี
วิ
ต ดั
งนั
นเวที
ทางการศึ
กษาจึ
งอยู
ในเวที
ของ
อํ
านาจสร้
างขึ
นในอํ
านาจกล่
าวให้
ชั
ดๆก็
คื
อ เวที
การศึ
กษาเป็
นเวที
ย่
อยของการผลิ
ตทางวั
ฒนธรรม
อย่
างไรก็
ตามเวที
การศึ
กษาดู
จะมี
หน้
าที่
ในเชิ
งนั
ยสํ
าคั
ญมากกว่
าหน้
าที่
ในการสร้
างสรรค์
หรื
ประดิ
ษฐ์
สร้
าง ระบบการศึ
กษาจึ
งไม่
ได้
สร้
างวั
ฒนธรรมเพี
ยงแต่
ถ่
ายทอดเท่
านั
นอกจากนี
สุ
ลั
กษณ์
ศิ
วลั
กษณ์
(สั
งคมศาสตร์
การศึ
กษา, 2551 : 53) ได้
เสนอว่
กระบวนการรู
และคิ
ด เป็
นกระบวนการทางวั
ฒนธรรมที่
สํ
าคั
ญของสั
งคม การสร้
างวั
ฒนธรรมของ
ชาติ
ผ่
านการศึ
กษาเป็
นกระบวนการที่
รั
ฐดํ
าเนิ
นการด้
วยตนเองหรื
อนั
กคิ
ดสายทางการศึ
กษาสาย
ทฤษฎี
เชิ
งวิ
พากษ์
บางคนใช้
คํ
าว่
า “ผู
กขาด” เนื่
องจากรั
ฐต้
องการให้
ประชาชนสามารถอ่
านออก
1...,11,12,13,14,15,16,17,18,19,20 22,23,24,25,26,27,28,29,30,31,...244
Powered by FlippingBook