ne191 - page 29

21
บทที่ 3
วิธีดําเนิ นการศึกษา
ผู ้ วิจัยใช้การศึกษาวิจัยเชิ งคุ ณภาพภาคสนาม เหตุที่ เลือกวิธีการเก็บข้อมูลแบบนี้ เพื่ อให้
เข้าถึงข้อมู ลที่เป็ นมุมมองของคนในซึ่ งคือชาวบรู ในหมู่บ้านท่ าล้ง ผู้วิจัยได้เข้าไปอยู่อาศัยและใช้
ชี วิตมี ส่ วนร่ วมกับกิจกรรมต่ าง ๆ เป็ นเวลานานประมาณ 6 เดือนผู้วิจัยพยายามสังเกตอย่างพินิ จ
พิ เคราะห์ บันทึกภาคสนามและใช้เวลาส่ วนตัวสรุ ปข้อมูลที่ได้เป็ นระยะๆ โดยสมํ่ าเสมอแยกแยะ
ข้อเท็จจริ งจากสิ่ งที่ สังเกตเห็ นกับข้อคิ ดเห็ นอันเกิ ดจากการให้ความหมายของผู ้ วิจัย ผู ้วิจัยหมั่น
ตรวจสอบความถู กต้องของข้อมูลเพื่อให้ได้รายละเอี ยดตรงตามความจริ ง
3.1พื ้ นที่ในการศึ กษาวิจัย
ผู ้ วิจัยได้พิจารณาจากพื้นที่ที่มีความสอดคล้องกับคําถามวิ จัยและประเด็นที่ต้องการจะ
ศึ กษา โดยเลือกศึ กษาในพื้ นที่หมู่บ้านท่ าล้งและโรงเรียนบ้านท่ าล้ง เนื่องจากเด็ กชาติพันธุ ์บรู ส่ วน
ใหญ่ ในหมู่ บ้านท่าล้งจะเข้าศึกษาในโรงเรี ยนบ้านท่าล้งซึ่ งเป็ นโรงเรี ยนระดับประถมศึกษา สอน
ตั้ งแต่ระดั บชั้ นอนุ บาลจนถึงชั้ นประถมศึกษาปี ที่ 6 จัดเป็ นโรงเรี ยนขนาดเล็กที่ตั้ งอยู่ ใกล้หมู่ บ้าน
ท่ าล้งมากที่ สุ ด วิ ถี ชี วิตของเด็กชาติ พันธุ์บรู ที่เข้าศึ กษาในโรงเรี ยนบ้านท่าล้งจึงมี ความสัมพันธ์
ใกล้ ชิ ดกับครอบครั วและเครื อญาติ อยู่ มาก ซึ่ งหมู่ บ้านท่ าล้งก็ถื อได้ว่ าเป็ นหมู่บ้านชาวบรู ที่ มี
วัฒนธรรมประเพณี มายาวนาน แต่ปัจจุบันก็ เริ่มมีการปรับเปลี่ ยนวิถีชี วิตไปตามยุคสมัย และอิทธิ
จากสังคมภายนอกที่เข้ามาสู่ ชุมชนของตนเองมากขึ้ นทุกที
3.2การเข้ าถึงข้ อมูล
เนื่องจากเป็ นงานวิจัยที่ต้องใช้ข้อมูลเชิงลึ กจึงต้องอาศัยการสร้างความไว้วางใจความ
สนิ ทสนมคุ้นเคย และใช้เวลาในการเก็บข้อมูลค่อนข้างนานพอสมควร ในเบื้ องต้นผู ้ วิจัยเข้าไปใน
พื ้นที่หมู่บ้านท่าล้ง ได้ ทําความรู ้จักกับผู้อํานวยการโรงเรี ยนบ้านท่าล้ง และผู ้ ใหญ่ บ้าน โดยแนะนํา
ตัวให้ทราบเกี่ ยวกับตั วผู ้ วิจัยโดยสั งเขป และวัตถุ ประสงค์ของการเข้ามาศึ กษาวิจัยซึ่ งผู้วิจัยก็ได้