ne191 - page 11

3
โดยรวมของเขาให้
เต็
มที่
เริ่
มจากศั
กยภาพทางปั
ญญาความคิ
ด เพื่
อมนุ
ษย์
จะได้
ใช้
ความรู
ความสามารถของเขาอย่
างเต็
มที่
ตามด้
วยศั
กยภาพของเหตุ
ผลเพื่
อที่
มนุ
ษย์
จะได้
ตั
ดสิ
นเลื
อกทางชี
วิ
และสั
งคมด้
วยตนเองได้
และศั
กยภาพทางจริ
ยธรรม เพื่
อมนุ
ษย์
จะได้
อยู
กั
บตั
วเองและคนอื่
นอย่
างมี
ความสุ
ขมี
ความสมดุ
ลดั
งนั
นการปฏิ
รู
ปการศึ
กษาที่
แท้
จริ
งจะต้
องให้
มนุ
ษย์
มี
ศั
กยภาพมี
เสรี
ภาพ
และมี
ประสิ
ทธิ
ภาพที่
จะเลื
อกชี
วิ
ตของเขาอย่
างมี
ค่
ามี
ความหมาย และมี
ความเหมาะสมด้
วยตั
วของ
เขาเองแล้
วสั
งคมและโลกก็
จะมี
ศั
กยภาพ เสรี
ภาพและประสิ
ทธิ
ภาพตามมาเอง
จากปั
ญหาทางการศึ
กษาและแนวคิ
ดการศึ
กษาทางเลื
อกเพื่
อแก้
ไขปั
ญหาดั
งกล่
าว จึ
นํ
ามาสู
คํ
าถามสํ
าคั
ญของงานวิ
จั
ยนี
ที่
ผู
วิ
จั
ยต้
องการจะหาคํ
าตอบว่
า ทํ
าอย่
างไรจึ
งจะทํ
าให้
เกิ
การศึ
กษาเพื่
อชุ
มชน “ท้
องถิ่
น” ได้
อย่
างแท้
จริ
งหรื
ออาจกล่
าวได้
ว่
าเราจะจั
ดการศึ
กษาอย่
างไรจึ
งจะ
ทํ
าให้
คนในชุ
มชนสามารถพั
ฒนาชุ
มชน “ท้
องถิ่
น” ของตนเองได้
โดยพวกเขาสามารถพั
ฒนา
ศั
กยภาพของตนเองและสร้
างทางเลื
อกให้
แก่
ตั
วเองได้
มากขึ
นในการประกอบอาชี
พหรื
อการศึ
กษา
ต่
อตลอดจนการมี
อิ
สรภาพที่
จะเลื
อกดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตในรู
ปแบบที่
ตั
วเองต้
องการได้
อย่
างเสรี
ภายใต้
กฎเกณฑ์
ของสั
งคมและไม่
ทํ
าให้
ผู
อื่
นเดื
อดร้
อน
ในการทํ
างานวิ
จั
ยครั
งนี
ผู
วิ
จั
ยจึ
งเลื
อกพื
นที่
โดยยึ
ดแนวคํ
าถามวิ
จั
ยเป็
นหลั
ก โดยจะ
ศึ
กษาข้
อมู
ลภายในหมู
บ้
านท่
าล้
งซึ
งตั
งอยู
ที่
ต. ห้
วยไผ่
อ. โขงเจี
ยมจ. อุ
บลราชธานี
และเน้
นการทํ
วิ
จั
ยในโรงเรี
ยนบ้
านท่
าล้
งซึ
งตั
งอยู
ภายในหมู
บ้
านท่
าล้
งเป็
นหลั
กโดยหมู
บ้
านนี
มี
ประชากรเป็
นกลุ่
ชาติ
พั
นธุ
บรู
ชาวบรู
หรื
อข่
า เป็
นกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
หนึ
งในพื
นที่
เขตแดนลํ
านํ
าโขงชายแดนลาว-ไทยคํ
ว่
า “ข่
า” เป็
นภาษาในตระกู
ล “ออสโตรเอเชี
ยติ
ค ” (Austroasiatic) แปลว่
า ข้
าทาสชาวบรู
จึ
งมั
กจะ
เรี
ยกตั
วเองว่
า “บรู
”ซึ
งแปลว่
า ภู
เขา
หมู
บ้
านท่
าล้
งปั
จจุ
บั
นตั
งอยู
ที่
หมู
5 ตํ
าบลห้
วยไผ่
อํ
าเภอโขง
เจี
ยมจั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
ที่
ตั
งของหมู
บ้
านอยู
ในหุ
บเขา เขตอุ
ทยานแห่
งชาติ
ผาแต้
มติ
ดกั
บแม่
นํ
าโขง
ชายแดนไทย-ลาวมี
ทรั
พยากรธรรมชาติ
ที่
อุ
ดมสมบู
รณ์
ทั
งป่
าไม้
และแหล่
งนํ
าตามธรรมชาติ
เป็
พื
นที่
ลาดชั
นสลั
บกั
บเนิ
นเขาสู
ง สภาพพื
นที่
ส่
วนใหญ่
เป็
นลานหิ
นกว้
าง จากรายงานรายงานผล
การศึ
กษาสื
บค้
นประวั
ติ
และพั
ฒนาการของวั
ฒนธรรมภู
มิ
ปั
ญญาชนเผ่
าบรู
ในพื
นที่
แหล่
งกํ
าเนิ
สปป.ลาว (มกราคม 2552)พบว่
าชนเผ่
า “บรู
” เป็
นกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
หนึ
งมี
ถิ่
นกํ
าเนิ
ดดั
งเดิ
มอยู
ในแถบฝั่
ซ้
ายของลุ่
มแม่
นํ
าโขงตอนล่
าง ซึ
งอาจสื
บเชื
อสายมาจากขอมโบราณซึ
งมี
ประวั
ติ
ว่
าเคยมี
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมดั
งเดิ
มที่
สู
งส่
งและรุ่
งเรื
องในภู
มิ
ภาคนี
มาก่
อนในอดี
ตแล้
วเสื่
อมอํ
านาจลง นั
มานุ
ษยวิ
ทยาพบชนเผ่
าบรู
ในแขวงจํ
าปาสั
กแขวงสุ
วรรณเขตแขวงสาละวั
นและแขวงอั
ตปื
อของ
สปป.ลาว ซึ
งเมื่
อประมาณร้
อยปี
ก่
อน (ก่
อน พ.ศ. 2436) ยั
งเป็
นดิ
นแดนในการปกครองของ
ราชอาณาจั
กรไทย ในประเทศไทยพบชนเผ่
าบรู
ในเขตท้
องที่
จั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
และจั
งหวั
1...,2,3,4,5,6,7,8,9,10 12,13,14,15,16,17,18,19,20,21,...244
Powered by FlippingBook