bk129 - page 17

9
การศึ
กษานอกระบบโรงเรี
ยนเชิ
งพั
ฒนาว่
า การวิ
เคราะห์
สถานการณ์
ของปั
ญหาและความต้
องการ
ของผู
เรี
ยนพิ
จารณาสิ่
งที่
เกี่
ยวกั
บกลุ่
มบุ
คคลที่
มี
ความต้
องการตามสภาพจริ
งและสามารถนํ
าไปแก้
ไข
ปั
ญหาได้
ดั
งนั
นจึ
งต้
องมี
การสํ
ารวจหาความต้
องการการเรี
ยนรู
อย่
างชั
ดเจน และนํ
าไปกํ
าหนด
แนวทางในการพั
ฒนาผู
เรี
ยนให้
บรรลุ
เป้
าหมายตามที่
ต้
องการอย่
างแท้
จริ
Boyle (1981) กล่
าวว่
า การพั
ฒนาโปรแกรมการศึ
กษานอกระบบโรงเรี
ยนเชิ
งพั
ฒนา
เป็
นกระบวนการช่
วยส่
งเสริ
มและพั
ฒนาความสามารถทั
กษะ ความรู
เพื่
อช่
วยให้
บุ
คคลสามารถ
แก้
ปั
ญหาต่
างๆด้
วยตนเองและกลุ่
มได้
ให้
สามารถปรั
บตั
วให้
ทั
นต่
อการเปลี่
ยนแปลงของสั
งคม
เป็
นขั
นตอนในการพั
ฒนาโปรแกรมทั
งหมด 8ขั
นตอนดั
งนี
1. การกํ
าหนดพื
นฐานสํ
าหรั
บพั
ฒนา
โปรแกรม เป็
นการกํ
าหนดพื
นฐานความต้
องการของผู
เรี
ยนตามแนวคิ
ดการศึ
กษาตลอดชี
วิ
ตและ
การศึ
กษานอกระบบโรงเรี
ยน 2. การวิ
เคราะห์
สถานการณ์
ของชุ
มชนและกลุ่
มผู
รั
บบริ
การ โดยการ
สํ
ารวจความต้
องการของผู
เรี
ยนที่
ต้
องรั
บการแก้
ไขและพั
ฒนา 3. การพิ
จารณาผลที่
พึ
งประสงค์
เป็
การกํ
าหนดผลการเรี
ยนรู
ที่
ผู
เรี
ยนควรได้
รั
บรวมถึ
งระยะเวลาในการเรี
ยนรู
4. การกํ
าหนดแหล่
ทรั
พยากรและการสนั
บสนุ
น เป็
นการเตรี
ยมเนื
อหา วิ
ทยากร เงิ
นทุ
นสนั
บสนุ
นรวมถึ
งอุ
ปกรณ์
ใน
การเรี
ยนการสอน 5. การสร้
างแผนกิ
จกรรม เป็
นการนํ
ากระบวนการเรี
ยนรู
ผู
ใหญ่
และกิ
จกรรมการ
เรี
ยนรู
ที่
เหมาะสมกั
บผู
เรี
ยน 6. โปรแกรมการปฏิ
บั
ติ
งานผู
เรี
ยนเข้
าร่
วมโปรแกรมตามระยะเวลาที่
จั
ด 7. ความน่
าเชื่
อถื
อของการใช้
ทรั
พยากร เป็
นการประเมิ
นผลการเรี
ยนรู
ก่
อนและหลั
งการเรี
ยนรู
8. การรายงานค่
าของโปรแกรม เป็
นการสรุ
ปภาพรวมของการจั
ดโปรแกรมทั
งหมดที่
ต้
องปรั
บปรุ
และนํ
าไปพั
ฒนาให้
เป็
นโปรแกรมที
เหมาะสมกั
บผู
เรี
ยนได้
ครอบคลุ
มมากยิ
งขึ
นซึ
งมี
ความ
สอดคล้
องกั
บKnowles (1980) กล่
าวถึ
งผู
ใหญ่
จะมี
การเรี
ยนรู
โดยอาศั
ยปั
ญหาเป็
นศู
นย์
กลางซึ
งเป็
ผลมาจากความต้
องการในการเรี
ยนที่
มุ่
งหวั
งจะให้
เกิ
ดการนํ
าไปปฏิ
บั
ติ
ได้
ผลจริ
งในปั
จจุ
บั
นนั
น เป็
การเรี
ยนรู
เพื่
อตอบสนองการแก้
ไขปั
ญหาในชี
วิ
ตประจํ
าวั
นดั
งนั
นการเรี
ยนการสอนจึ
งควรมุ่
งเน้
ประโยชน์
ที่
จะนํ
าไปใช้
ได้
จริ
ง รวมทั
งในการจั
ดประสบการณ์
การเรี
ยนรู
ของผู
ใหญ่
จึ
งควรยึ
ดปั
ญหา
และกระบวนการแก้
ปั
ญหาเป็
นหลั
กผู
ใหญ่
จะมี
รู
ปแบบการศึ
กษาและการเรี
ยนรู
ที่
เกิ
ดขึ
นจากความ
ต้
องการและความสนใจของตนเองมี
การวิ
เคราะห์
ประสบการณ์
และสถานการณ์
ที่
เกี่
ยวข้
องกั
บชี
วิ
มาใช้
ประกอบการศึ
กษาตลอดจนเกิ
ดความรู
สึ
กที่
ต้
องการนํ
าตนเองและเรี
ยนรู
เพื่
อสนองตอบความ
แตกต่
างของภาวะปั
จเจกในตน
โดยการนํ
ากระบวนการเรี
ยนรู
ของผู
ใหญ่
มาใช้
ในกิ
จกรรมการ
เรี
ยนรู
โดยเน้
นการตอบสนองความต้
องการของผู
เรี
ยน เน้
นการเรี
ยนรู
ที่
ใช้
ประสบการณ์
เดิ
มของ
ผู
ใหญ่
เป็
นทรั
พยากรในการเรี
ยนรู
การจั
ดบรรยากาศเรี
ยนรู
ที่
เหมาะสม การปรั
บเปลี่
ยนบทบาท
ของครู
ผู
สอนเป็
นบทบาทของผู
อํ
านวยความสะดวก ผู
เรี
ยนมี
โอกาสเข้
ามี
ส่
วนร่
วมในการจั
กิ
จกรรมการเรี
ยนรู
มี
ส่
วนร่
วมในการเรี
ยนรู
อย่
างแท้
จริ
งในทุ
กขั
นตอน และเป็
นการส่
งเสริ
มการ
1...,7,8,9,10,11,12,13,14,15,16 18,19,20,21,22,23,24,25,26,27,...409
Powered by FlippingBook