bk129 - page 14

6
2. ทั
กษะในการติ
ดต่
อสื่
อสาร
เป็
นความสามารถในการอ่
านสถานการณ์
ของกลุ่
มได้
ถู
กต้
อง
แม่
นยํ
าขึ
น เข้
าถึ
งจิ
ตใจของบุ
คคลรอบข้
างอย่
างลึ
กซึ
งและกอปรด้
วยเมตตา ดั
งเช่
นที่
พระธรรมปิ
ฎก
(ป.อ. ปยุ
ตฺ
โต) (2545) ได้
กล่
าวว่
า การกล่
าวคํ
าสุ
ภาพไพเราะอ่
อนหวานสมานสามั
คคี
ให้
เกิ
ดไมตรี
และความรั
กใคร่
นั
บถื
อตลอดถึ
งคํ
าแสดงประโยชน์
ประกอบด้
วยเหตุ
ผลเป็
นหลั
กฐานจู
งใจให้
นิ
ยม
ตามการคื
อ “
ปิ
โย”แปลว่
า “ผู
เป็
นที่
รั
ก”
กล่
าวคื
อผู
ร่
วมงานหรื
อผู
ร่
วมไปด้
วยกั
นหรื
อจะเรี
ยกผู
ตาม
ก็
แล้
วแต่
ก็
จะมี
ความรั
กมี
ความรู
สึ
กสนิ
ทสนมสบายใจต่
อผู
นํ
านั
น เสริ
มความรู
สึ
กอยากร่
วมไปด้
วย
ให้
หนั
กแน่
นมากขึ
นทั
งร่
วมใจและร่
วมมื
3. ทั
กษะในการสั
งเกตเพื่
อมองคนให้
เห็
นลึ
กถึ
งศั
กยภาพภายใน
เป็
นความสามารถที่
เห็
ศั
กยภาพของผู
อื่
นพร้
อมกั
บเอื
อเฟื
อโอกาสดึ
งศั
กยภาพมาให้
ปรากฏออกมา เพื่
อมอบหมายความ
รั
บผิ
ดชอบได้
ตรงกั
บศั
กยภาพและฉั
นทะของแต่
ละคน ผู
นํ
าที่
ดี
จะต้
องรู
บุ
คคล
เรี
ยกว่
ปุ
คคลปโร-
ปรั
ญญุ
ตา
ผู
นํ
าที่
ดี
จะต้
องรู
จั
กเลื
อกบุ
คคลผู
เป็
นคนดี
ผู
เป็
นบั
ณฑิ
เพื่
อก่
อให้
เกิ
ดประโยชน์
แก่
ตนเอง
(พระธรรมปิ
ฎก (ป.อ. ปยุ
ตฺ
โต), 2545)
4. มี
ความสมดุ
ลระหว่
างความกล้
าในการตั
ดสิ
นใจ และการไตร่
ตรองอย่
างรอบคอบ
เป็
การศึ
กษาและวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลต่
างๆด้
วยการพิ
จารณาไตร่
ตรองรอบด้
านตามหลั
วิ
มั
งสา
เมื่
อชั
ดเจน
ดี
แล้
วก็
ไม่
ลั
งเลที่
จะตั
ดสิ
นใจกระทํ
าและกล้
าที่
จะรั
บผิ
ดชอบผลที่
เกิ
ดขึ
นไม่
ว่
าจะออกมาสํ
าเร็
จหรื
ล้
มเหลวก็
ตามแม้
เมื่
อตั
ดสิ
นใจผิ
ดพลาดก็
กล้
าที่
จะยอมรั
บความผิ
ดพลาดนั
น พระธรรมปิ
ฎก (ป.อ.
ปยุ
ตฺ
โต) (2545) อธิ
บายว่
าการหมั่
นใช้
ปั
ญญาพิ
จารณาใคร่
ครวญตรวจตราหาเหตุ
ผลและตรวจสอบ
ข้
อบกพร่
องขั
ดข้
องในสิ่
งที่
ทํ
านั
น คื
วิ
มั
งสา
โดยรู
จั
กทดลอง วางแผน วั
ดผล คิ
ดค้
นวิ
ธี
แก้
ไข
ปรั
บปรุ
ง เพื่
อจั
ดการและดํ
าเนิ
นงานนั
นให้
ได้
ผลดี
ยิ่
งขึ
นไป
5. มี
จิ
ตใจใฝ่
เรี
ยนรู
เพื่
อหาความจริ
งและลึ
กซึ
งยิ่
งขึ
เป็
นการเพิ่
มพู
นคุ
ณสมบั
ติ
ที่
ดี
ให้
แก่
ตน
เนตร์
พั
ณณา ยาวิ
ราช (2537) ได้
กล่
าวว่
า ผู
นํ
าจั
กต้
องศึ
กษาให้
เข้
าใจถ่
องแท้
ในหน้
าที่
ของตนเอง
สามารถปฏิ
บั
ติ
งานได้
และให้
คํ
าแนะนํ
าได้
ซึ
งจะทํ
าให้
ผู
ใต้
บั
งคั
บบั
ญชามี
ความเชื่
อถื
อศรั
ทธา และ
ให้
ความร่
วมมื
อในการปฏิ
บั
ติ
งานอย่
างเต็
มใจสอดคล้
องกั
บธรรมใน
ข้
อครุ
คื
อน่
าเคารพ
พระธรรม
ปิ
ฎก (ป.อ. ปยุ
ตฺ
โต) (2545) อธิ
บายว่
าการมี
ความขวนขวายใฝ่
เรี
ยนรู
และรู
ถ่
องแท้
ในฐานประพฤติ
สมควรแก่
ฐานะ ให้
เกิ
ดความรู
สึ
กอบอุ่
นใจเป็
นที่
พึ
งได้
และปลอดภั
6. มี
ความยื
ดหยุ
นพลิ
กแพลงและไม่
ติ
ดกรอบความคิ
ดตายตั
เป็
นความใจกว้
างพร้
อมที่
จะ
เรี
ยนรู
สิ
งใหม่
บทเรี
ยนใหม่
ด้
วยความรู
สึ
กสนุ
กชวนให้
ท้
าทายกั
บปรากฏการณ์
ที่
เกิ
ดขึ
นใหม่
สอดคล้
องกั
บพระธรรมปิ
ฎก
(ป
.
.
ปยุ
ตฺ
โต) (2545)ที่
ว่
าผู
ที่
พั
ฒนาและปรั
บปรุ
งตนเองอยู
เสมอไม่
ติ
ดยึ
ดตายตั
ว (
ภาวนี
โย)
เป็
นผู
ทรงคุ
ณความรู
และภู
มิ
ปั
ญญาแท้
จริ
งทั
งเป็
นที่
น่
าเจริ
ญใจน่
ายกย่
อง
1...,4,5,6,7,8,9,10,11,12,13 15,16,17,18,19,20,21,22,23,24,...409
Powered by FlippingBook