bk129 - page 15

7
7. มี
ทั
กษะและประสบการณ์
ในการมองเห็
นความเปลี่
ยนแปลงของสั
งคม
เป็
นการมองเห็
พลวั
ตของขบวนการเปลี่
ยนแปลงสั
งคมในภาพรวมและสามารถประเมิ
นกลั
บมาเป็
นวิ
สั
ยทั
ศน์
และ
ทิ
ศทางการทํ
างานในมุ
มกว้
างขององค์
กรได้
ชั
ดเจนสอดคล้
องกั
บสถานการณ์
นอกองค์
กร ทํ
านอง
เดี
ยวกั
บคํ
าอธิ
บายของพระธรรมปิ
ฎก (ป.อ. ปยุ
ตฺ
โต) (2545) ที่
ว่
า ผู
นํ
าที่
ดี
จะ
รู
ตน
(อั
ตตั
ญญุ
ตา)
ว่
ตนเองมี
คุ
ณสมบั
ติ
มี
ความสามารถอย่
างไร
และต้
องรู
จั
กพั
ฒนาตนเองอย่
างสมํ
าเสมอ
ผู
นํ
าที่
ดี
นั
จะต้
องสํ
ารวจตนเองอยู
เสมอว่
าตนเองมี
จุ
ดอ่
อนจุ
ดแข็
งอะไร
แล้
วดํ
าเนิ
นการปรั
บปรุ
งจุ
ดอ่
อนของ
ตน
ในขณะเดี
ยวกั
นก็
พั
ฒนาจุ
ดแข็
งของตนให้
ดี
ขึ
นเรื่
อย
มี
การพั
ฒนาตนเองอย่
างต่
อเนื่
อง
เพื่
อให้
สามารถรู
ทั
นความเปลี่
ยนแปลงแห่
งโลกอย่
างแท้
จริ
เพื่
อให้
สามารถนํ
าพามวลชนและองค์
กรไปสู
จุ
ดหมายได้
ตามเป้
าหมายที่
วางไว้
8
.
มี
จิ
ตใจที่
เป็
นผู
เริ่
มกระทํ
าก่
อน
เกิ
ดจากสั
มมาสั
งกั
ปปะ
คื
ความคิ
ดที่
ถู
กต้
อง
ความ
ตั
งใจของตนไว้
ในทางที่
จะก่
อให้
เกิ
ดคุ
ณประโยชน์
ทั
งแก่
ตนเองและผู
อื่
และในการต่
อสู
อุ
ปสรรค
เมื่
อผู
นํ
ามี
ความคิ
ดที่
ถู
กต้
องอั
นสื
บเนื่
องมาจากความเห็
นที่
ถู
กต้
อง ผู
นํ
าจึ
งสามารถแก้
ไขปั
ญหานั
นได้
เป็
นความกล้
าหาญที่
จะเผชิ
ญความเป็
นจริ
ง เผชิ
ญอุ
ปสรรคปั
ญหา
การแก้
ไขปั
ญหา
การตั
ดสิ
นใจ
การแสดงออกและการรั
บผิ
ดชอบต่
อทุ
กสถานการณ์
รู
ทั
นปั
ญหาและอุ
ปสรรคอั
นนํ
าไปสู
การแก้
ไข
ปั
ญหาได้
ดี
(พระธรรมปิ
ฎก, 2544) ผู
ที
มี
จิ
ตใจใฝ่
กระทํ
าก่
อนมั
กจะสามารถกํ
าหนดหรื
อปรั
บเปลี่
ยน
เงื่
อนไขปั
จจั
ยต่
างๆ ให้
เกิ
ดทางออกใหม่
ๆของปั
ญหาได้
จิ
ตใจดั
งกล่
าวยั
งเป็
นปั
จจั
ยสํ
าคั
ญในการ
จุ
ดประกายให้
ผู
อื่
นเกิ
ดความสนใจและพร้
อมที่
จะให้
ความร่
วมมื
ทั
งนี
การสนั
บสนุ
นการจั
ดการศึ
กษานอกระบบโรงเรี
ยนเพื่
อพั
ฒนาความสามารถของแม่
ชี
ให้
มี
ความรู
ความเข้
าใจในเรื่
องภาวะผู
นํ
าและหลั
กการปฏิ
บั
ติ
ตนมี
ความสามารถในการเผยแผ่
พระพุ
ทธศาสนาที่
ส่
งเสริ
มการทํ
างานของแม่
ชี
นํ
าไปสู
การพั
ฒนาภาวะผู
นํ
าการเปลี่
ยนแปลงเชิ
งพุ
ทธ
สํ
าหรั
บแม่
ชี
ไทยและสนั
บสนุ
นแนวทางการทํ
างานด้
านพระพุ
ทธศาสนาของแม่
ชี
ให้
เป็
นที่
แผ่
ขยาย
มากขึ
นจึ
งมี
ความสอดคล้
องกั
บแนวทางการพั
ฒนาแม่
ชี
ไทยจากเอกสารแนะนํ
ามู
ลนิ
ธิ
สถาบั
นแม่
ชี
ไทยในพระบรมราชิ
นู
ปถั
มภ์
(2530) กล่
าวถึ
งความเป็
นมาของการก่
อตั
งสถาบั
นแม่
ชี
ไทยและมู
ลนิ
ธิ
สถาบั
นแม่
ชี
ไทยในพระบรมราชิ
นู
ปถั
มภ์
เริ่
มเมื่
อวั
นที่
28 สิ
งหาคม 2512 เมื่
อคณะสงฆ์
ชั
นผู
ใหญ่
คณะแม่
ชี
และคณะนั
กเรี
ยนบาลี
รุ
นแรกที่
มี
ความคิ
ดเห็
นสอดคล้
องกั
นในหลายประเด็
น เช่
น ข้
อวั
ตร
ปฏิ
บั
ติ
ของแม่
ชี
เคร่
งครั
ดบ้
าง ย่
อหย่
อนบ้
าง ประพฤติ
ปฏิ
บั
ติ
ในกรอบของพระธรรมวิ
นั
ยทาง
พระพุ
ทธศาสนา จึ
งได้
ร่
วมกั
นปรึ
กษา โดยมี
สมเด็
จพระอริ
ยวงศาคตญาณ สมเด็
จพระสั
งฆราช
(จวน อุ
ฏฐายี
มหาเถร) วั
ดมกุ
ฏกษั
ตริ
ยาราม เป็
นองค์
ประธานสมเด็
จพระญาณสั
งวร (สมเด็
พระสั
งฆราชองค์
ปั
จจุ
บั
น) ได้
มอบหมายให้
พระญาณวโรดม (ประยู
ร สนฺ
ตงฺ
กุ
โร) วั
ดเทพศิ
ริ
นทร
วาส มี
หนั
งสื
อเชิ
ญแม่
ชี
ไทยทั่
วประเทศในสํ
านั
กต่
างๆและที่
อาศั
ยอยู
ในวั
ดทั่
วประเทศมาประชุ
มที่
1...,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14 16,17,18,19,20,21,22,23,24,25,...409
Powered by FlippingBook