st126 - page 19

๑๑
รู
ปแบบการจั
ดการท่
องเที่
ยวของชุ
มชนลี
เล็
ดนาเที่
ยวเพื่
อการอนุ
รั
กษ์
เป็
นความร่
วมมื
อของชาวบ้
านในพื้
นที่
อาศั
ยชุ
มชนเป็
นฐาน และกระบวนการมี
ส่
วนร่
วม เนื่
องจากชุ
มชนมี
ทุ
นทางสั
งคมและทุ
นทางวั
ฒนธรรม ที่
เป็
นศั
กยภาพสาคั
ญในการจั
ดการท่
องเที่
ยว โดยชุ
มชนได้
จั
ดทาแผนแม่
บท โดยมี
การวางแผนร่
วมกั
ดาเนิ
นการร่
วมกั
น รั
บผลประโยชน์
ร่
วมกั
น และรั
บผิ
ดชอบร่
วมกั
น โดยที่
โครงการ CHARM ได้
เข้
ามา
สนั
บสนุ
นการจั
ดการท่
องเที่
ยวโดยชุ
มชน มี
การกาหนดแผนงานโดยชุ
มชน หลอมความคิ
ดของบุ
คลากรแกนนา
ในชุ
มชนให้
เป็
นไปในทิ
ศทางเดี
ยวกั
น มี
การประชุ
มและกาหนดกรอบแนวทางการพั
ฒนา ๕ แผน ซึ่
ประกอบด้
วยแผนจั
ดการอนุ
รั
กษ์
ทรั
พยากรธรรมชาติ
แผนส่
งเสริ
มอาชี
พคนในชุ
มชน แผนพั
ฒนาการ
ท่
องเที่
ยวโดยชุ
มชน แผนการกาจั
ดขยะแบบบู
รณาการ และแผนการเสริ
มสร้
างความเข้
มแข็
งของสภาที่
ปรึ
กษาชุ
มชนมี
การจั
ดการผลประโยชน์
อย่
างเป็
นธรรม มี
การคั
ดเลื
อกคณะกรรมการเพื่
อทาหน้
าที่
บริ
หารกลุ่
ทุ
กคนแสดงความคิ
ดเห็
นได้
อย่
างเต็
มที่
การตั
ดสิ
นใจใช้
ระบบกลุ่
ม ซึ่
งมี
คณะกรรมการดารงตาแหน่
งวาระ ๑
ปี
ใช้
การบริ
หารแบบแนวราบ การตั
ดสิ
นใจใช้
กรรมการกลุ่
๒. สภาพป๎
ญหาการนาสื่
อมโนราห์
มาใช้
ส่
งเสริ
มการจั
ดการท่
องเที่
ยวของชุ
มชนลี
เล็
ด นาเที่
ยวเพื่
อการ
อนุ
รั
กษ์
ผู้
วิ
จั
ยได้
ใช้
วิ
ธี
การสั
มภาษณ์
และสั
งเกตกั
บผู้
ที่
เกี่
ยวข้
องในชุ
มชน เพื่
อให้
ได้
ข้
อมู
ลในเรื่
องของสภาพ
ป๎
ญหาการนาสื่
อมโนราห์
มาใช้
ส่
งเสริ
มการจั
ดการท่
องเที่
ยว พบว่
า มี
ป๎
ญหาในเรื่
องของผู้
แสดงขาดความรู้
ความชานาญด้
านการแสดงมโนราห์
เนื่
องจากพื้
นที่
ตาบลลี
เล็
ดไม่
มี
คณะมโนราห์
อยู่
ในพื้
นที่
ดั
งนั้
นจึ
งไม่
มี
ผู้
ที่
มี
ความรู้
ความสามารถด้
านการแสดงมโนราห์
ป๎
ญหาด้
านความเชื่
อของผู้
ปกครองและญาติ
ของผู้
แสดง ซึ่
งเชื่
ว่
าการแสดงมโนราห์
เป็
นการแสดงที่
มี
ครู
ผู้
ใดจะแสดงต้
องมี
การครอบครู
จึ
งทาให้
เป็
นอุ
ปสรรคสาคั
ญในการ
พั
ฒนาการนาสื่
อมโนราห์
มาใช้
ส่
งเสริ
มการจั
ดการท่
องเที่
ยว ส่
วนป๎
ญหาด้
านการสนั
บสนุ
นของผู้
เกี่
ยวข้
อง เห็
ว่
าการแสดงมโนราห์
ไม่
สามารถพั
ฒนาไปสู่
การแสดงอย่
างจริ
งจั
งได้
ไม่
มี
ผู้
สอน ไม่
มี
ชุ
ดใส่
ที่
สวยงาม ซึ่
งเมื่
เติ
บโตก็
จะไปเรี
ยนที่
อื่
นแล้
วเลิ
กแสดงไปในที่
สุ
ด การฝึ
กหั
ดเป็
นช่
วงเวลาสั้
น ๆ ไม่
สามารถพั
ฒนาสู่
ความเป็
เลิ
ศได้
ป๎
จจั
ยเหล่
านี้
จึ
งเป็
นส่
วนสาคั
ญที่
ผู้
เกี่
ยวข้
องไม่
ได้
ให้
การสนั
บสนุ
นคณะเยาวชนที่
แสดงมโนราห์
ในพื้
นที่
ตาบลลี
เล็
ดอย่
างจริ
งจั
ง และป๎
ญหาอี
กอย่
างหนึ่
งที่
ผู้
วิ
จั
ยได้
พบ คื
อ ป๎
ญหาในเรื่
องของงบประมาณในการจั
ดหา
เครื่
องแต่
งกายให้
ผู้
แสดงใช้
สวมใส่
๓. การกาหนดรู
ปแบบแนวทางในการพั
ฒนาการนาสื่
อมโนราห์
มาใช้
ส่
งเสริ
มการจั
ดการท่
องเที่
ยวนั้
คณะวิ
จั
ยได้
ใช้
กระบวนการระดมความคิ
ดเห็
นแบบกลุ่
มย่
อย (Focus group) ทั้
งนี้
ได้
กาหนดแนวทางในการ
แก้
ป๎
ญหา โดยทาความเข้
าใจเรื่
องความเชื่
อในเรื่
องการครอบครู
ให้
แก่
พ่
อแม่
ผู้
ปกครอง นั
กเรี
ยนได้
รั
บทราบ
เพื่
อปรั
บเปลี่
ยนความเชื่
อเหล่
านั้
น จากนั้
น กาหนดให้
มี
การถ่
ายทอดการรามโนราห์
ท่
ามาตรฐาน ๑๒ ท่
า โดย
เชิ
ญผู้
มี
ความรู้
ความสามารถในการนามาสอนให้
แก่
ผู้
แสดง โดยการจั
ดหาชุ
ดฝึ
กซ้
อมมโนราห์
ที่
สามารถสวมใส่
เวลาฝึ
ก ซึ่
งมี
ความสวยงามระดั
บหนึ่
งและให้
ผู้
แสดงได้
มี
โอกาสแสดงให้
คณะนั
กท่
องเที่
ยวที่
มาพั
กโฮมสเตย์
และ
ในงานเทศกาลต่
าง ๆ ในชุ
มชนให้
ประชาชนได้
รั
บชมตามโอกาสอั
นควร
๔. การพั
ฒนาการนาสื่
อมโนราห์
มาใช้
ส่
งเสริ
มการจั
ดการท่
องเที่
ยว คณะวิ
จั
ยได้
ใช้
วิ
ธี
การสั
มภาษณ์
ผู้
เกี่
ยวข้
อง พบว่
า แนวทางการพั
ฒนาการนาสื่
อมโนราห์
มาใช้
ส่
งเสริ
มการท่
องเที่
ยวของชุ
มชนลี
เล็
ด ที่
สามารถดาเนิ
นการได้
ทั
นที
คื
อ การสร้
างความรู้
และเพิ่
มทั
กษะพื้
นฐานการแสดง ทั้
งนี้
ได้
ดาเนิ
นการจั
ดหาชุ
สาหรั
บซ้
อม และใช้
ใส่
ในการแสดงให้
กั
บนั
กท่
องเที่
ยวได้
ชม คณะวิ
จั
ยได้
จั
ดฝึ
กอบรมให้
ความรู้
โดยถ่
ายทอด
การรามโนราห์
ให้
แก่
เยาวชนผู้
ที่
สนใจ และที่
มี
ความสามารถในการรามโนราห์
อยู่
แล้
ว เพื่
อให้
มี
ความสมบู
รณ์
มากยิ่
งขึ้
นพั
ฒนาคณะนั
กแสดงให้
เป็
นคณะมโนราห์
เต็
มรู
ปแบบ โดยมี
ลู
กคู่
มโนราห์
สามารถเล่
นสด และร้
อง
มโนราห์
บทง่
าย โดยเน้
นเนื้
อหาเกี่
ยวกั
บการแสดงความยิ
นดี
แก่
ผู้
มาเยื
อนชมตาบลลี
เล็
ด เพื่
อสร้
างสี
สั
น และ
ความตื่
นตาตื่
นใจ
1...,9,10,11,12,13,14,15,16,17,18 20,21,22,23,24,25,26,27,28,29,...47
Powered by FlippingBook