st126 - page 11

๓
หน่ วยงานหรือองค์ กรภาครั ฐใดเข้ามาบริ หารจั ดการ สนับสนุ นอย่างจริ งจั ง การสู ญหายของมรดกทาง
วั ฒนธรรมชิ้นนี้ก็ อาจจะสูญหายไปในที่สุดเพราะแม้จะมีหน่วยงานองค์ การปกครองส่วนท้ องถิ่นเข้ ามามี ส่วน
ผลักดันในการสืบสานมรดกทางวั ฒนธรรมชิ้นนี้ ภายใต้การร่วมสืบทอดขององค์ กรเยาวชนในพื้นที่ แต่ ก็คงไม่มี
ใครให้คาตอบได้ ว่ าเมื่อกาลเวลาผ่านไปการเปลี่ยนถ่ ายอานาจการปกครองและการเปลี่ ยนถ่ายขององค์ กร
เยาวชนจากรุ่นสู่ รุ่นจะมี ใครยังคงเห็นความสาคั ญของมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นนี้ตลอดไป ทางเดียวคือต้องใช้
การผนึ กกาลังในการมีส่ วนร่วมให้ผู้ คนรักและหวงแหนร่วมกั นให้ดารงอยู่ผ่านกระบวนการจั ดการความรู้ที่
ทรงคุณค่าสืบต่อไป
ดังนั้น โครงการวิจัยนี้จึ งมุ่งเน้ นเพื่อศึกษากระบวนการมี ส่วนร่วมของผู้นาสี่ เสาหลักในการส่ งเสริม
ศิ ลปวัฒนธรรมท้ องถิ่น ศึ กษาประวัติ ความเป็นมาของ “ตารี อี นา” ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมท้ องถิ่น
ตลอดจนเพื่อหาแนวทางในการส่งเสริม ฟื้ นฟู อนุรักษ์ “ตารี อีนา” ให้คงอยู่สืบต่อไป
๑.๒ วั ตถุประสงค์
๑.๒.๑ เพื่อศึกษาประวั ติความเป็นมาของ “ตารีอีนา” ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมท้ องถิ่น
๑.๒.๒ เพื่อศึกษากระบวนการมี ส่วนร่วมของผู้นาสี่เสาหลักในการส่งเสริมในการบริหารจัดการ
ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
๑.๒.๓ เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริม ฟื้นฟู อนุรักษ์ “ตารีอีนา” สืบต่อไป
๑.๓ คาถามหลักในการวิจั ย
ผู้นาสี่เสาหลักจะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการส่งเสริมศิลปวั ฒนธรรมท้องถิ่น (ตารีอีนา) อย่าง
มีประสิทธิภาพ ได้อย่างไร
๑.๔ กรอบแนวความคิดของการวิจัย
ผู้นาสี่เสาหลัก
การเข้ามามีส่วนร่วมในการบริ หารจัดการศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น (ตารีอีนา)
(ส่งเสริม/ อนุรั กษ์/ ฟื้นฟู)
มรดกทางศิ ลปวัฒนธรรเพื่อลูกหลานสืบไป