st126 - page 27

๑๙
และจากการสั
มภาษณ์
ผู้
นาท้
องที่
ซึ่
งมี
บทบาทอย่
างมากในการขั
บเคลื่
อนตารี
อี
นานั่
นก็
คื
อ องค์
กร
เยาวชนโดยการผลั
กดั
นของอดี
ตครู
กศน. ตาบลกายู
คละ ซึ่
งป๎
จจุ
บั
นดารงตาแหน่
งนั
กพั
ฒนากรประจาตาบล
ได้
กล่
าวว่
า ตารี
อี
นาเป็
นการแสดงที่
มี
อยู่
เพี
ยงแห่
งเดี
ยวในประเทศไทย(ตรงกั
บข้
อมู
ลเดิ
มที่
ได้
ศึ
กษาค้
นคว้
าจาก
เอกสาร) ถ้
าไม่
มี
การสื
บทอดอี
กไม่
นานตารี
อี
นาก็
จะหายไปในที่
สุ
ดโดยเยาวชนจากทุ
กหมู่
บ้
านในตาบลกายู
คละ
ทั้
ง ๙ หมู่
บ้
านจะมารวมตั
วกั
นเพื่
อทากิ
จกรรมเหล่
านี้
เพื่
อให้
เยาวชนได้
สื
บสานวั
ฒนธรรมอั
นดี
ของท้
องถิ่
นใช้
เวลาว่
างให้
เกิ
ดประโยชน์
และห่
างไกลจากยาเสพติ
ดโดยการทากิ
จกรรมร่
วมกั
นซึ่
งหลั
งจากที่
ได้
ดาเนิ
นงานมาผล
ที่
ได้
ก็
คื
อเยาวชนเกิ
ดความหวงแหนในศิ
ลปวั
ฒนธรรมพื้
นบ้
านของตนเองเกิ
ดความรั
กใคร่
สามั
คคี
กลมเกลี
ยว
เวลาทากิ
จกรรมอะไรก็
จะทากั
นเป็
นกลุ่
มในนามของกลุ่
มองค์
กรเยาวชนกายู
คละ และจากการสั
มภาษณ์
กลุ่
ประชาชนในพื้
นที่
ต่
อกระบวนการการมี
ส่
วนร่
วมของผู้
นาสี่
เสาหลั
กในการบริ
หารจั
ดการส่
งเสริ
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
น:กรณี
ศึ
กษา “ตารี
อี
นา”ของผู้
นาสี่
เสาหลั
ก พบว่
า ประชาชนมองว่
ามี
ความพึ
งพอใจต่
การทางานในทุ
กภาคส่
วนในการสนั
บสนุ
นตารี
อี
นา อย่
างไรก็
ตามประชาชนในพื้
นที่
ยั
งได้
บอกและชื่
นชม
เยาวชนในพื้
นที่
อี
กด้
วยว่
า เยาวชนสามารถที่
จะรวมกลุ่
มเพื่
อทาการฝึ
กซ้
อมเรี
ยนรู้
การแสดงตารี
อี
นาโดยเฉพาะ
เยาวชนบ้
านสามแยกที่
มี
การสื
บทอดฝึ
กซ้
อมกั
นอย่
างต่
อเนื่
อง ส่
วนอี
ก ๘ หมู่
บ้
านนั้
นจะไม่
ค่
อยมี
คนสามารถสื
ทอดตารี
อี
นาได้
เนื่
องจากไม่
ค่
อยได้
มี
เวลาฝึ
กซ้
อมซึ่
งจะกระทาในช่
วงค่
าของทุ
กๆคื
สรุ
ปได้
ว่
"ตารี
อี
นาเป็
นการแสดงที่
มี
อยู่
เพี
ยงแห่
งเดี
ยวในประเทศไทยถ้
าไม่
มี
การสื
บทอดอี
กไม่
นาน
ตารี
อี
นาก็
จะหายไปในที่
สุ
12
ข้
อค้
นพบจากการทบทวนวรรณกรรมในงานวิ
จั
ยที่
เกี่
ยวข้
องพบว่
า มี
ผู้
ได้
ทาการศึ
กษาเกี่
ยวกั
บประเด็
นการมี
ส่
วนร่
วมในการบริ
หารจั
ดการเรื่
องศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นยั
งไม่
แพร่
หลาย
อี
กทั้
งงานวิ
จั
ยที่
ผ่
านมาโดยส่
วนใหญ่
เป็
นการศึ
กษาเพี
ยงค่
าการมี
ส่
วนร่
วมในการบริ
หารจั
ดการเชิ
งเดี่
ยว ไม่
ได้
มองไปไกลถึ
งการอาศั
ยภาคความร่
วมมื
อที่
เป็
นทุ
นเดิ
มอยู่
แล้
วในท้
องถิ่
น ที่
สาคั
ญยั
งไม่
มี
งานวิ
จั
ยชิ้
นใดที่
ทาการศึ
กษาและให้
ความสาคั
ญต่
อผู้
นาสี่
เสาหลั
กในการส่
งเสริ
ม อนุ
รั
กษ์
ฟื้
นฟู
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
น ซึ่
งถื
เป็
นจุ
ดอ่
อนอย่
างยิ่
งในงานพั
ฒนาพื้
นที่
สามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต้
ในประเด็
นโจทย์
ป๎
ญหาต่
างๆที่
รุ
มเร้
าพื้
นที่
ไม่
เว้
นแม้
แต่
ทางด้
านการส่
งเสริ
มศิ
ลปวั
ฒนธรรม
๕.๒ประเด็
นประวั
ติ
ความเป็
นมาของ “ตารี
อี
นา” ในฐานะมรดกทางวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
จะเห็
นได้
ว่
า ประวั
ติ
การแสดงตารี
อี
นาในอดี
ตกาลที่
ผ่
านมาการเผยแผ่
ขยายของวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
ภาคใต้
ของไทย คื
อ มโนราห์
โดยครู
มโนราห์
คนหนึ่
งได้
นามโนราห์
เข้
าสู่
ดิ
นแดนมลายา(มาเลเซี
ย) และได้
มี
เพื่
อนรั
กเป็
นอาจารย์
เดการ์
จึ
งเป็
นการแลกเปลี่
ยนความรู้
ระหว่
างสองอาจารย์
อาจารย์
เดการ์
ได้
ประยุ
กต์
ท่
ารา
มโนราห์
รวมกั
บเดการ์
กลายเป็
นท่
าราตารี
อี
นา ซึ่
งแสดงในเทศกาลและพิ
ธี
ต่
างๆ เช่
นพิ
ธี
แต่
งงาน พิ
ธี
เข้
าสุ
นั
เทศกาลเฉลิ
มฉลองวั
นเกิ
ดเจ้
าเมื
อง เป็
นต้
สาหรั
บประเด็
นความเป็
นมาของ “ตารี
อี
นา”ซึ่
งเป็
นการแสดงที่
ผสมผสานระหว่
างวั
ฒนธรรมพี่
น้
อง
มุ
สลิ
มและพี่
น้
องพุ
ทธเข้
าด้
วยกั
นอย่
างงดงาม ผู้
นาธรรมชาติ
ได้
กล่
าวว่
าก่
อนการเข้
ามาของตารี
อี
นาจากรั
ฐกลั
ตั
น ประเทศมาเลเซี
ย เข้
าสู่
ตาบลกายู
คละอาเภอแว้
ง จั
งหวั
ดนราธิ
วาส “เมื่
อปี
๒๔๑๖ นายยะโก๊
ะ อาแวแซ
หรื
อเปาะนิ
โก๊
ะ ครู
ผู้
เชี่
ยวชาญศิ
ลปะการแสดงตารี
อี
นา และซี
ละซึ่
งเป็
นชาวรั
ฐกลั
นตั
น ได้
เดิ
นทางมายั
งตาบล
กายู
คละเพื่
อติ
ดตามหาญาติ
การเดิ
นทางมาครั้
งนี้
ท่
านได้
สอนตารี
อี
นาให้
แก่
ลู
กศิ
ษย์
๔ คนนั
บจากนั้
นการแสดง
ตารี
อี
นาก็
เป็
นที่
เชิ
ดหน้
าชู
ตาของชุ
มชนแม้
จะมี
บางช่
วงเคยเงี
ยบหาย แต่
ตอนนี้
ก็
กลั
บมาใหม่
มี
การสื
บทอดการ
แสดงให้
ลู
กหลานไม่
ขาดสาย” สาหรั
บเครื่
องดนตรี
ของตารี
อี
นานั้
นมี
ทั้
งสิ้
น ๔ ชิ้
นคื
อ ปี่
ชวา ฆ้
อง กลองตั
วผู้
12
ศิ
ลปะการแสดงพื
นบ้
าน “ตารี
อี
นา-ซี
ละ”. (๒๕๕๔
). ศิ
ลปะการแสดงพื
นบ้
าน “ตารี
อี
นา-ซี
ละ” (ออนไลน์
) : สื
บค้
นได้
จากhttp://www.thaihealth.or.th/partner/partner_stor/13485
[เมื่
อวั
นที่
๑๔พฤษภาคม๒๕๕๔ ]
1...,17,18,19,20,21,22,23,24,25,26 28,29,30,31,32,33,34,35,36,37,...47
Powered by FlippingBook