st126 - page 15

ร่
วมในกิ
จกรรมและขั้
นตอนต่
างๆจึ
งเป็
นสิ่
งจาเป็
นเพราะจะทาให้
ลดความขั
ดแย้
งและผลกระทบที่
ไม่
พึ
งประสงค์
ที่
อาจจะเกิ
ดขึ้
นในอนาคตและสร้
างให้
เกิ
ดพลั
งของทุ
กฝุ
ายใน การร่
วมกั
นคิ
ดร่
วมกั
นทาและร่
วมกั
นรั
ผลตอบแทนจากการกระทานั้
นที่
จะนาไปสู่
การพั
ฒนาที่
มี
ประสิ
ทธิ
ผลและยั่
งยื
คาว่
า “ การมี
ส่
วนร่
วม” จากการศึ
กษาพบว่
ามี
ผู้
ให้
ความหมายที่
หลากหลายและแตกต่
างกั
นไปตาม
ความเข้
าใจและประสบการณ์
ของแต่
ละบุ
คคลซึ่
งพอสรุ
ปได้
ดั
งต่
อไปนี้
ทวี
ทองหงษ์
วิ
วั
ฒน์
(๒๕๒๗) : ให้
คาจากั
ดความของการมี
ส่
วนร่
วมของประชาชนว่
าหมายถึ
งการที่
ประชาชนหรื
อชุ
มชนพั
ฒนาขี
ดความสามารถของตนเองในการจั
ดการและควบคุ
มการใช้
และกระจายทรั
พยากร
และป๎
จจั
ยการผลิ
ตที่
มี
อยู่
ในสั
งคมเพื่
อประโยชน์
ต่
อการดารงชี
พทางเศรษฐกิ
จและสั
งคมตามความจาเป็
นอย่
าง
สมศั
กดิ์
ศรี
ในฐานะสมาชิ
กสั
งคม
จากการทบทวนความหมายของการมี
ส่
วนร่
วมข้
างต้
นสรุ
ปได้
ว่
าการมี
ส่
วนร่
วมมี
ความหมายใน๒
ลั
กษณะคื
อในลั
กษณะแรกเป็
นการมี
ส่
วนร่
วมในลั
กษณะที่
เป็
นกระบวนการของการพั
ฒนาโดยให้
ประชาชนมี
ส่
วนร่
วมในกระบวนการพั
ฒนาตั้
งแต่
เริ่
มต้
นจนสิ้
นสุ
ดกระบวนการซึ่
งจะต้
องสอดคล้
องกั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ตและวั
ฒนธรรม
ของชุ
มชนลั
กษณะที่
สองเป็
นการมี
ส่
วนร่
วมในนั
ยทางการเมื
องคื
อการมี
ส่
วนร่
วมเป็
นการส่
งเสริ
มสิ
ทธิ
และพลั
อานาจของพลเมื
องโดยประชาชนหรื
อชุ
มชนพั
ฒนาขี
ดความสามารถของตนในการจั
ดการการรั
กษา
ผลประโยชน์
ของกลุ่
มและการเปลี่
ยนแปลงกลไกการพั
ฒนาโดยรั
ฐมาเป็
นการพั
ฒนาที่
มี
ประชาชนเป็
นหลั
และจากสถานการณ์
ความไม่
สงบใน ๓จั
งหวั
ดชายแดนภาคใต้
ประกอบกั
บสภาพเศรษฐกิ
จและสั
งคม
ของโลกที่
เปลี่
ยนไปได้
ส่
งผลกระทบต่
อวิ
ถี
การดาเนิ
นชี
วิ
ตของประชาชนตลอดจนถึ
งศิ
ลปวั
ฒนธรรมพื้
นบ้
านที่
มี
ความเป็
นอั
ตลั
กษณ์
ของท้
องถิ่
นได้
ถู
กกระแสบริ
โภคนิ
ยมและสื่
อสมั
ยใหม่
คุ
กคามจนค่
อยๆ เลื
อนหายไปจาก
ชุ
มชน องค์
การบริ
หารส่
วนตาบลกายู
คละและศู
นย์
การศึ
กษานอกระบบและการศึ
กษาตามอั
ธยาศั
ยอาเภอแว้
เล็
งเห็
นว่
าองค์
เยาวชนเป็
นพลั
งสาคั
ญที่
จะช่
วยสื
บสานถ่
ายทอด ฟื้
นฟู
ศิ
ลปวั
ฒนธรรม และภู
มิ
ป๎
ญญาท้
องถิ่
นจึ
ร่
วมกั
บองค์
กรเยาวชนอบต.กายู
คละ จั
ดทา "โครงการศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
น (ตารี
อี
นา) องค์
กรเยาวชนระดั
อบต.กายู
คละ"เพื่
อสร้
างจิ
ตสานึ
กรั
กถิ่
นฐานบ้
านเกิ
ดให้
เยาวชนมี
ความภู
มิ
ใจในมรดกทางวั
ฒนธรรมของท้
องถิ่
และร่
วมกั
นรั
กษาไว้
อย่
างยั่
งยื
6
๒.๒ งานวิ
จั
ยที่
เกี่
ยวข้
อง
"ตารี
อี
นาเป็
นการแสดงที่
มี
อยู่
เพี
ยงแห่
งเดี
ยวในประเทศไทยถ้
าไม่
มี
การสื
บทอดอี
กไม่
นานตารี
อี
นาก็
จะหายไปในที่
สุ
7
ข้
อค้
นพบจากการทบทวนวรรณกรรมในงานวิ
จั
ยที่
เกี่
ยวข้
องพบว่
า มี
ผู้
ได้
ทาการศึ
กษา
เกี่
ยวกั
บประเด็
นการมี
ส่
วนร่
วมในการบริ
หารจั
ดการเรื่
องศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นยั
งไม่
แพร่
หลาย อี
กทั้
งงานวิ
จั
ที่
ผ่
านมาโดยส่
วนใหญ่
เป็
นการศึ
กษาเพี
ยงค่
าการมี
ส่
วนร่
วมในการบริ
หารจั
ดการเชิ
งเดี่
ยว ไม่
ได้
มองไปไกลถึ
การอาศั
ยภาคความร่
วมมื
อที่
เป็
นทุ
นเดิ
มอยู่
แล้
วในท้
องถิ่
น ที่
สาคั
ญยั
งไม่
มี
งานวิ
จั
ยชิ้
นใดที่
ทาการศึ
กษาและให้
ความสาคั
ญต่
อผู้
นาสี่
เสาหลั
กในการส่
งเสริ
ม อนุ
รั
กษ์
ฟื้
นฟู
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
น ซึ่
งถื
อเป็
นจุ
ดอ่
อนอย่
างยิ่
งใน
6
ศิ
ลปะการแสดงพื
นบ้
าน “ตารี
อี
นา-ซี
ละ”. (๒๕๕๔
). ศิ
ลปะการแสดงพื
นบ้
าน “ตารี
อี
นา-ซี
ละ” (ออนไลน์
) : สื
บค้
นได้
จาก
[เมื่
อวั
นที่
๑๔พฤษภาคม๒๕๕๔ ]
7
ศิ
ลปะการแสดงพื
นบ้
าน “ตารี
อี
นา-ซี
ละ”. (๒๕๕๔
). ศิ
ลปะการแสดงพื
นบ้
าน “ตารี
อี
นา-ซี
ละ” (ออนไลน์
) : สื
บค้
นได้
จาก
[เมื่
อวั
นที่
๑๔พฤษภาคม๒๕๕๔ ]
1...,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14 16,17,18,19,20,21,22,23,24,25,...47
Powered by FlippingBook