st124 - page 200

บทที่
5
วิ
เคราะห์
อั
ตลั
กษณ์
การปรั
บเปลี่
ยนและการธํ
ารงอั
ตลั
กษณ์
ทางชาติ
พั
นธุ
การธํ
ารงชาติ
พั
นธุ
(ethnicmaintenance) ในบทนี
ศึ
กษาภายใต้
ความหมายของการเก็
บรั
กษา
ชาติ
พั
นธุ
ให้
คงไว้
หรื
อการอนุ
รั
กษ์
ให้
ดํ
าเนิ
นต่
อไป โดยเจาะจงศึ
กษาเฉพาะในขอบเขตของการธํ
ารง
รั
กษาอั
ตลั
กษณ์
ทางชาติ
พั
นธุ
และการแสดงออกถึ
งการธํ
ารงรั
กษาอั
ตลั
กษณ์
ในกลุ่
มของตนที่
แตกต่
าง
จากกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
อื่
นซึ
งอาศั
ยอยู
ร่
วมกั
นบนเกาะลั
นตาและมี
การปฏิ
สั
มพั
นธ์
กั
นการศึ
กษาการธํ
ารง
อั
ตลั
กษณ์
ทางชาติ
พั
นธุ
สั
มพั
นธ์
กั
บคํ
าว่
า “กลุ่
มชาติ
พั
นธุ
” (ethnic groups)“อั
ตลั
กษณ์
”“อั
ตลั
กษณ์
ทางชาติ
พั
นธุ
”และ“เขตวั
ฒนธรรมหรื
อพรมแดนทางชาติ
พั
นธุ
”ซึ
งมี
ผู
ให้
ความหมายไว้
หลายทั
ศนะ
อภิ
ญญา เฟื่
องฟู
สกุ
ล (2546 : 25)นํ
าแนวคิ
ดของคู
ลี
ย์
(Cooley)มาอธิ
บายว่
า“อั
ตลั
กษณ์
” เป็
สิ่
งที่
เกิ
ดขึ
นในกระบวนการปฏิ
สั
มพั
นธ์
ทางสั
งคมและเชื่
อว่
าสั
งคมกั
บปั
จเจกชนเป็
นปรากฏการณ์
ที่
ไม่
อาจ
แยกออกจากกั
นได้
สั
งคมเกิ
ดจากการผสมผสานของตั
วตนเชิ
งจิ
ต (mental selves)หรื
อความคิ
ดเกี่
ยวกั
ตนเองของคนหลายๆคนที่
มี
ปฏิ
สั
มพั
นธ์
ต่
อกั
นความรู
สึ
กเกี่
ยวกั
บตนเองพั
ฒนาขึ
นมาจากปฏิ
กิ
ริ
ยา
ของเราต่
อความเห็
นของผู
อื่
นเกี่
ยวกั
บตั
วเราตั
วเขา เรี
ยกว่
า“ตั
วตน”หรื
อ “อั
ตลั
กษณ์
ขณะที่
คายส์
(Keyes : 1979 : 9)มี
มุ
มมองที่
ขั
ดแย้
งกั
บความเห็
นข้
างต้
นว่
าสมาชิ
กของกลุ่
ชาติ
พั
นธุ
เดี
ยวกั
นไม่
จํ
าเป็
นจะต้
องมี
ลั
กษณะทางวั
ฒนธรรมเหมื
อนกั
นอั
ตลั
กษณ์
ทางชาติ
พั
นธุ
เป็
นตั
กํ
าหนดให้
มี
การแสดงออกทางวั
ฒนธรรมของกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
ในลั
กษณะของตํ
านานพิ
ธี
กรรมความ
เชื่
อทางศาสนาประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
น และคติ
ชน วิ
ธี
การแสดงออกทางวั
ฒนธรรม
เชิ
งสั
ญลั
กษณ์
(symbolicformulation)ของอั
ตลั
กษณ์
ทางชาติ
พั
นธุ
นี
ทํ
าให้
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างบุ
คคลและกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
มี
ความหมาย
หากแยกแยะกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
บนเกาะลั
นตาพบว่
า แต่
ละกลุ่
มมี
ลั
กษณะที่
สอดคล้
องกั
แนวคิ
ดที่
เบอร์
นาร์
ด (Bernard. 1972 : 3) อธิ
บายว่
า “เป็
นกลุ่
มคนที่
อยู
ร่
วมกั
นภายใต้
ร่
มวั
ฒนธรรม
เดี
ยวกั
นทํ
ากิ
จกรรมต่
างๆร่
วมกั
นมี
สถาบั
นความเชื่
อเดี
ยวกั
นมี
ภู
มิ
หลั
งทางด้
านประวั
ติ
ศาสตร์
และ
ภาษาเหมื
อนกั
นสิ่
งที่
มี
อยู
ไม่
ได้
สื
บทอดทางชี
วภาพหรื
อมี
มาแต่
กํ
าเนิ
ดแต่
เป็
นส่
วนหนึ
งของมรดก
ทางวั
ฒนธรรมที่
เกิ
ดจากการตอบสนองความต้
องการพื
นฐานและประสบการณ์
ของกลุ
ม”
และด้
วยความแตกต่
างทางสั
งคมวั
ฒนธรรมในระหว่
างกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
ที่
อาศั
ยอยู
ร่
วมกั
นในระบบ
สั
งคมเดี
ยวกั
นทํ
าให้
แต่
ละกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
แตกต่
างไปจากกลุ่
มอื่
นดั
งกล่
าวนี่
เอง เป็
นปั
จจั
ยสํ
าคั
ญที่
1...,190,191,192,193,194,195,196,197,198,199 201,202,203,204,205,206,207,208,209,210,...308
Powered by FlippingBook