st127 - page 32

๒๓
๒. ทฤษฎี
วิ
วั
ฒนาการ (Evolutionism Theory)
เป
นแนวคิ
ดแบบนิ
เวศวิ
ทยาวั
ฒนธรรม สจ
วต (Steward อ
างถึ
งใน ยศ สั
นตสมบั
ติ
. ๒๕๔๐ : ๓๔) มี
แนวคิ
ดว
า สั
งคมต
องมี
การเปลี่
ยนแปลงตลอดเวลา การเปลี่
ยนแปลงเป
นกระบวนการวิ
วั
ฒนาการทางสั
งคม
วั
ฒนธรรมคื
อเครื่
องมื
อที่
ช
วยให
มนุ
ษย
ปรั
บตั
วให
เข
ากั
บสภาพแวดล
อมได
ดั
งนั้
นความสั
มพั
นธ
ระหว
างวั
ฒนธรรม
กั
บสภาพแวดล
อมจึ
งมี
ความแนบแน
นใกล
ชิ
ดและส
งผลกระทบซึ่
งกั
นและกั
นทฤษฎี
วิ
วั
ฒนาการนี้
หากจะนํ
ามา
ศึ
กษาเกี่
ยวกั
บวิ
วั
ฒนาการของการแห
พระแข
งเรื
อยาว อาจกล
าวได
ว
าการแห
พระแข
งเรื
อยาวเป
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมชนิ
ดหนึ่
งที่
มี
วิ
วั
ฒนาการมายาวนาน ซึ่
งการเกิ
ดวิ
วั
ฒนาการดั
งกล
าวนั้
นเกิ
ดขึ้
นจากระบบของวิ
ถี
ชี
วิ
ตโดยแท
การปรั
บเปลี่
ยนในพลวั
ต (Dynamic) เกิ
ดขึ้
นในมิ
ติ
ของสั
งคม โดยสั
งคมเป
นตั
วกํ
าหนดในการ
ปรั
บเปลี่
ยนทั้
งนี้
อาจตั้
งอยู
บนความหลากหลายทางชี
วภาพ ความหลากหลายทางพั
นธุ
กรรม ความหลากหลาย
ทางชนิ
ดพั
นธุ
ความแตกต
างทางเชื้
อชาติ
และวิ
ถี
ชี
วิ
ตที่
เปลี่
ยนไป เป
นต
น ดั
งนั้
นป
จจั
ยต
างๆ เหล
านี้
เป
นป
จจั
ยที่
มี
ผลต
อพลวั
ต หรื
อวิ
วั
ฒนาการทั้
งสิ้
น เพราะสั
งคมจะเป
นตั
วกลั่
นกรองแนวคิ
ดที่
เกิ
ดขึ้
นจากชุ
มชน เมื่
อแนวคิ
ต
างๆ ได
ตกผลึ
ก และเป
นที่
ยอมรั
บเมื่
อนั้
นก็
ถื
อว
าเป
นมติ
ของชุ
มชน ดั
งนั้
นวิ
วั
ฒนาการของการแห
พระแข
งเรื
ยาวจะเกี่
ยวข
องกั
บป
จจั
ยต
างๆ ข
างต
นเช
นกั
น แต
ป
จจั
ยที่
ทํ
าให
การแห
พระแข
งเรื
อยาวเกิ
ดพลวั
ตอย
างชั
ดเจนก็
คื
อระบบสั
งคมที่
เปลี่
ยนไปจากสั
งคมเกษตรกรรมเป
นสั
งคมกึ่
งอุ
ตสาหกรรม ซึ่
งเป
นการทํ
าให
ขนบธรรมเนี
ยม
ของวิ
ถี
ชี
วิ
ตที่
ดํ
าเนิ
นอยู
ดั้
งเดิ
มกลายสภาพเป
นระบบทุ
นนิ
ยม วิ
ถี
สั
งคมที่
พึ่
งพาซึ่
งกั
นและกั
นเริ่
มสู
ญหาย การ
เชื่
อมต
อตลอดจนการเกิ
ดความต
อเนื่
องของงานศิ
ลปวั
ฒนธรรมที่
เกิ
ดขึ้
นจากวิ
ถี
ชุ
มชนโดยแท
ก็
ขาดหายไป ทั้
งนี้
เกิ
ดจากระบบโครงสร
างของสั
งคมที่
เปลี่
ยนไป ทั้
งนี้
ยั
งคงมี
ป
จจั
ยอื่
นๆ อี
กมากมายแต
ที่
นํ
าเสนอป
จจั
ยดั
งกล
าว
เพราะเป
นป
จจั
ยที่
คนในชาติ
ได
สั
มผั
ส และถื
อว
าเป
นระบบโครงสร
างที่
ใหญ
ซึ่
งทุ
กคนต
องให
ความตระหนั
กและ
หั
นหน
ามาร
วมกั
นพิ
จารณา
๓. ทฤษฎี
การแพร
กระจายทางวั
ฒนธรรม (Cultural Diffusion Theory)
ทฤษฎี
การแพร
กระจายทางวั
ฒนธรรมแพร
หลายมากในสหรั
ฐอเมริ
กา โดย ฟรานส
โบแอส (Franz
Boas อ
างถึ
งใน อมรา พงศาพิ
ชญ
. ๒๕๔๒ : ๑๑๙-๑๒๐) ให
ความสนใจทางด
านนี้
เดิ
มมี
อยู
ในวิ
ชาภู
มิ
ศาสตร
ใน
ด
านการศึ
กษาท
องถิ่
นหรื
อลั
กษณะของถิ่
นต
างๆ โบแอสมี
แนวคิ
ดว
า กลุ
มชนที่
มี
วั
ฒนธรรมคล
ายกั
น จะเป
นกลุ
ชนที่
มี
ความสนิ
ทสนมและมี
ความสั
มพั
นธ
กั
นมาก
อน วั
ฒนธรรมหรื
อระบบสั
ญลั
กษณ
แพร
กระจายออกไป เพราะ
คนย
ายถิ่
นและนํ
าเอาวั
ฒนธรรมเก
าติ
ดตั
วไปด
วยหรื
อเพราะคนจากถิ่
นอื่
นมาติ
ดใจวั
ฒนธรรมของคนกลุ
มนี้
และ
ขอยื
มวั
ฒนธรรมไปใช
เขาไม
เชื่
อว
าคน๒ กลุ
มที่
อยู
ห
างไกลกั
น ต
างคนต
างค
นคิ
ดวั
ฒนธรรมที่
คล
ายคลึ
งเหล
านี้
ขึ้
นมาเอง โบแอส เชื่
อว
าสั
งคมและวั
ฒนธรรมของคนอาจมี
จุ
ดเริ่
มต
นที่
เป
นอิ
สระ และไม
เกี่
ยวกั
น การที่
สั
งคม
หลายๆ สั
งคมมี
วั
ฒนธรรมเหมื
อนกั
นเพราะการแพร
กระจายของวั
ฒนธรรมจากสั
งคมหนึ่
งไปยั
งอี
กสั
งคมหนึ่
งทํ
ให
เกิ
ดการปะทะสั
งสรรค
ทางวั
ฒนธรรมเกิ
ดการยอมรั
บวั
ฒนธรรมของกั
นและกั
น ความหลากหลายทาง
1...,22,23,24,25,26,27,28,29,30,31 33,34,35,36,37,38,39,40,41,42,...92
Powered by FlippingBook