st121 - page 18
10
เข
าใจหลั
กธรรม และเอื้
อต
อการปฏิ
บั
ติ
ศาสนกิ
จเท
านั้
น แต
เป
นเครื่
องถ
ายทอดจิ
นตนาการของมนุ
ษย
จากนามธรรมสู
รู
ปธรรม จากสิ่
งที่
ไม
รู
ไม
เห็
นให
เห็
นอย
างประจั
กษ
เมื่
อใดที่
ศิ
ลปกรรมตั้
งอยู
บนฐาน
ศี
ลธรรมจรรยาก็
ยั
งส
งผลต
อจิ
ตใจคื
อความป
ติ
อิ่
มเอิ
บใจ
วิ
รุ
ณ ตั้
งเจริ
ญ (2552 : 29) ให
ความเห็
นเกี่
ยวกั
บศิ
ลปะกั
บพุ
ธศาสนาในป
จจุ
บั
นไว
ว
า
“ศิ
ลปะหรื
อทั
ศนศิ
ลป
เป
นแรงกระตุ
นจิ
ตศรั
ทธาอาจบอกหรื
ออธิ
บายเรื่
องราว อธิ
บายความเป
นมา และ
ศิ
ลปะอาจเป
นตั
วตี
ความขยายความหรื
อกระตุ
นให
เกิ
ดความดี
งามตามคํ
าสอนของแต
ละศาสนาศิ
ลปะ
อาจเป
นพาหะที่
นํ
าไปสู
วิ
ชชา
ฉลอง สุ
นทรวาณิ
ชย
(2552 : 443-444) ให
ความเห็
นเกี่
ยวกั
บพระเครื่
องว
า ในอดี
ตทํ
าขึ้
น
เพื่
อสื
บอายุ
พุ
ทธศาสนากระตุ
นให
เกิ
ดการเผยแผ
คํ
าสอนหากป
จจุ
บั
นทํ
าขึ้
นเพราะคิ
ดว
า มี
อํ
านาจศั
กดิ์
สิ
ทธิ
ที่
จะเอามาบู
ชาเพื่
อคุ
มครองชี
วิ
ต” กล
าวคื
อพุ
ทธศิ
ลป
ให
ผลในแง
การค้ํ
าจุ
นจิ
ตใจให
เกิ
ดความดี
งาม
ด
วยเผยแผ
คํ
าสอน เพราะหากทุ
กคนมี
หลั
กธรรมปฏิ
บั
ติ
สั
งคมโดยรวมก็
จะเกิ
ดสุ
ข และในแง
สร
าง
ภู
มิ
คุ
มกั
นใจการนั
บถื
อพระเครื่
อง สวมใส
สร
างความเชื่
อมั่
นทางใจ กล
อมจิ
ตวิ
ญญาณให
พึ่
งพิ
งอย
าง
เป
นรู
ปธรรม
รอซู
ลอิ
สลามี
(2004) ได
กล
าวไว
ในสารเอกอั
ครราชทู
ตสาธารณรั
ฐอิ
สลามแห
งอิ
หร
าน ใน
หนั
งสื
อศิ
ลปะเปอร
เซี
ยไว
ตอนหนึ่
งว
า ศิ
ลปกรรมเป
นการเป
ดเผยอย
างแท
จริ
งของคุ
ณค
าทั้
งหลาย
ทางด
านจิ
ตวิ
ญญาณความบริ
สุ
ทธิ์
แห
งความรู
สึ
กทั้
งหลายการกลั่
นกรองของจิ
ตนาการ ความละเมี
ยด
ละไมของอารมณ
มนุ
ษย
การขยายออกไปอย
างกว
างขวางแห
งความรู
สึ
กทั้
งหลาย ความไพเราะซาบซึ้
ง
การหยั่
งรู
เชิ
งอั
ชฌั
ชติ
กญาณศี
ลธรรมจรรยา และความพิ
สุ
ทธิ์
แห
งความคิ
ด ซึ่
งแท
จริ
งมั
นเป
นขุ
มทรั
พย
อั
นมี
ค
าที่
ไม
มี
ที่
สิ้
นสุ
ดที่
มนุ
ษย
ได
ค
นพบมรดกของมนุ
ษยชาติ
ซึ่
งยั
งคงมี
ความหมายยิ่
ง ๆ ขึ้
นไป และรุ
ม
เรื
อยเสมอ เมื่
อคํ
านึ
งถึ
งลั
กษณะอั
นเป
นอั
ตลั
กษณ
ศิ
ลปกรรมและศาสนาได
เพิ่
มพู
นความรุ
มรวยอย
าง
พิ
เศษซึ่
งทํ
าให
ประสบความสํ
าเร็
จยิ่
งขึ้
นเสมอ
จากข
อคิ
ดเห็
นของนั
กวิ
ชาการข
างต
นสรุ
ปเกี่
ยวกั
บคุ
ณค
าของศาสนศิ
ลป
ที่
มี
ต
อจิ
ตใจ ดั
งนี้
1) ศาสนศิ
ลป
ที่
นํ
ามาตี
ความ จะทํ
าให
มนุ
ษย
ขยายการเรี
ยนรู
หลั
กธรรมได
ง
ายขึ้
น ดั
งเช
น
แบบองค
เจดี
ย
ที่
มี
มาลั
ยเถา 3ชั้
นเสมออยู
ใต
วงค
ระฆั
ง ที่
หมายถึ
งสั
ญลั
กษณ
ของธรรมะที่
มี
3ประการ
เช
น ไตรลั
กษณ
ไตรสิ
กขา รั
ตนตรั
ย ไตรภู
มิ
เป
นต
น เป
นการสร
างความรู
ในรู
ปลั
กษณ
ของวั
ตถุ
เพื่
อ
กระตุ
นให
เกิ
ดความดี
งาม
2) ศาสนศิ
ลป
เป
นเครื่
องจรรโลงในรู
ปวั
ตถุ
เพราะเป
นวั
ตถุ
เป
นสิ่
งที่
มองเห็
นง
าย หากทุ
กคน
ถื
อเครื่
องจรรโลงใจอย
างเดี
ยวกั
นจะทํ
าให
สั
งคมนั้
นสงบราบรื่
น เช
นมิ
หรั
บในมั
สยิ
ดทั่
วโลกตั้
งในทิ
ศทาง
ไปยั
งเมื
องเมกกะ การนั
บถื
อบู
ชาพระพุ
ทธรู
ปของชาวไทยพุ
ทธ การนั
บถื
อกวนอิ
มของชาวจี
น เป
นต
น
ภายใต
ความศรั
ทธาสิ่
งเหล
านี้
โน
มนํ
าให
จิ
ตใจมั่
นคง
3) ศิ
ลปกรรมแต
ละศาสนา มี
อั
ตลั
กษณ
แสดงถึ
งรสนิ
ยม จิ
นตนาการของผู
สร
าง การ
เข
าใจอั
ตลั
กษณ
ของศิ
ลปะแต
ละศาสนา ย
อมทํ
าให
มนุ
ษย
เห็
นคุ
ณค
าของประสบการณ
มนุ
ษย
ซึ่
งไม
1...,8,9,10,11,12,13,14,15,16,17
19,20,21,22,23,24,25,26,27,28,...206