st126 - page 2

บทคั
ดย่
การศึ
กษาวิ
จั
ยเรื่
อง การมี
ส่
วนร่
วมของผู้
นาสี่
เสาหลั
กในการบริ
หารจั
ดการส่
งเสริ
มศิ
ลปวั
ฒนธรรม
ท้
องถิ่
น:กรณี
ศึ
กษา “ตารี
อี
นา”ต.กายู
คละ อ.แว้
ง จ.นราธิ
วาสมี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อศึ
กษากระบวนการการมี
ส่
วน
ร่
วมของผู้
นาสี่
เสาหลั
กในการบริ
หารจั
ดการส่
งเสริ
มศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นตลอดจนประวั
ติ
ความเป็
นมาและ
แนวทางการส่
งเสริ
มฟื้
นฟู
สามารถสรุ
ป แยกตามวั
ตถุ
ประสงค์
การวิ
จั
ยได้
ดั
งนี้
ประเด็
นกระบวนการมี
ส่
วนร่
วมของผู้
นาสี่
เสาหลั
กในการส่
งเสริ
มในการบริ
หารจั
ดการ ศิ
ลปวั
ฒนธรรม
ท้
องถิ่
นพบว่
า ผู้
นาสี่
เสาหลั
กให้
ความสนใจ สนั
บสนุ
นเป็
นอย่
างดี
โดยมี
มุ
มมองว่
า “ชุ
มชนต้
องเป็
นเสมื
อน
ครอบครั
วเดี
ยวกั
น” โดยเฉพาะ ผู้
นาธรรมชาติ
(ปราชญ์
ชาวบ้
าน) องค์
กรเยาวชน (ผู้
นาท้
องที่
) และกานั
(ผู้
นาท้
องถิ่
น) ได้
ดู
ทุ
กครั้
งเวลาคณะตารี
อี
นาได้
จั
ดการแสดงจะไม่
ค่
อยมี
บทบาทมากนั
กก็
เห็
นจะเป็
นผู้
นาทางจิ
วิ
ญญาณ (โต๊
ะอี
หม่
าม) แต่
ก็
ไม่
ได้
ห้
าม แม้
จะมองว่
าประเด็
นทางศาสนาจะทาได้
หรื
อเปล่
าในการแสดงตารี
อี
นา
ประเด็
นประวั
ติ
ความเป็
นมาของ “ตารี
อี
นา” ในฐานะมรดกทางวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
สรุ
ปได้
ว่
"ตารี
อี
นาเป็
นการแสดงที่
มี
อยู่
เพี
ยงแห่
งเดี
ยวในประเทศไทยถ้
าไม่
มี
การสื
บทอดอี
กไม่
นาน
ตารี
อี
นาก็
จะหายไปในที่
สุ
สิ่
งที่
น่
าสนใจของ “ตารี
อี
นา” คื
อ บุ
คคลที่
เรี
ยนตารี
อี
นาในอดี
ตทั้
งหมดจะมี
๔คน
แต่
คนอื่
นไม่
ได้
รั
บการถ่
ายทอด มี
แค่
คนเดี
ยวที่
ได้
ทาการถ่
ายทอด คื
อ เจ๊
ะ (มะยะโก๊
ะ) เจ๊
ะเล่
าว่
าได้
หยุ
ดเล่
นเป็
เวลา ๒๒ปี
แต่
ก็
ได้
เริ่
มเล่
นต่
ออี
กเนื่
องจากคนเขาเรี
ยกร้
องให้
เล่
นเพราะคนบนบานไว้
สิ่
งที่
ตารี
อี
นาไม่
ได้
แตกต่
าง
จากการแสดงอื่
นๆทั่
วไปคื
อ ก่
อนการเล่
นต้
องมี
การไหว้
ครู
ก่
อนเพื่
อให้
เด็
กได้
เข้
าอารมณ์
ในการแสดงที่
น่
าสนใจ
อี
กประการหนึ่
งคื
อ จุ
ดเริ่
มต้
นของการเล่
นตารี
อี
นา เป็
นผู้
ชายทั้
งหมดต่
อมาเปลี่
ยนเป็
นผู้
หญิ
งหมด ผู้
ชายเปลี่
ยน
มาเป็
นการแสดงสิ
ละพ่
อแม่
ของลู
กในสมั
ยก่
อนไม่
ไห้
ลู
กหลานของตนแสดงตารี
อี
นา เพราะกลั
วว่
าเป็
นอั
นตราย
(เอวหั
ก)
เพรา
โดยปกติ
ใช้
เวลาในการซ้
อมยาวนานประมาณ ๑๐๐วั
น จุ
ดเด่
นของตานรี
อี
นา คื
อ การราทาท่
สะพานโค้
ง ถ้
าใครมี
ความสามารถที่
ดี
ที่
สุ
ด จะสามารถทาท่
าสะพานโค้
งแล้
วหยิ
บเหรี
ยญบาทได้
ที่
เด่
นอี
กกว่
นั้
น คื
อทาท่
าสะพานโค้
งแล้
วหยิ
บธนบั
ตรที่
วางเหรี
ยญอยู่
ด้
านบน แล้
วหยิ
บมาให้
หมดโดยการรวบที
เดี
ยว
สาหรั
บที่
มาที่
ไปตารี
อี
นาเริ่
มแรกมาจากเจ้
าสาวให้
ใส่
“เฮนน่
า” แล้
วอยู่
บนบั
นลั
งก์
ให้
คนมารา “ตารี
” รอบบั
ลั
งก์
จึ
งมี
การเรี
ยก “ตารี
อี
นา”
ประเด็
นแนวทางในการส่
งเสริ
ม ฟื้
นฟู
อนุ
รั
กษ์
“ตารี
อี
นา” สื
บต่
อไป
จะเห็
นว่
าทุ
กกลุ่
มภาคส่
วนเห็
นพ้
องต้
องกั
นว่
า อยากให้
ผู้
นาทั้
งสี่
เสาหลั
กได้
เข้
ามามี
บทบาทในการมี
ส่
วน
ร่
วมต่
อการส่
งเสริ
มให้
มากที่
สุ
ด เพราะในขณะป๎
จจุ
บั
นนี้
การสนั
บสนุ
นส่
วนใหญ่
เกิ
ดจากผู้
นาท้
องถิ่
น ผู้
นา
ธรรมชาติ
และผู้
นาท้
องที่
เป็
นหลั
ก แต่
ก็
เป็
นไปในลั
กษณะการส่
งเสริ
มทางความรู้
สึ
กไม่
ได้
มี
ส่
วนของงบประมาณ
ในการสนั
บสนุ
น ที่
ผ่
านมางบประมาณและการสนั
บสนุ
นต่
างๆได้
จากการนาเยาวชนไปแสดงของครู
ภู
มิ
ป๎
ญญา
สิ่
งสาคั
ญที่
ทุ
กคนเห็
นพ้
องต้
องกั
นคื
อ ควรมี
การสร้
างเครื
อข่
ายสื
บทอดสนั
บสนุ
นตารี
อี
นาให้
เยาวชนทั้
ง ๕ รุ่
นที่
ผ่
านมาได้
มารวมตั
วกั
นเพื่
อผลั
กดั
นการสื
บทอดให้
รุ่
นน้
องๆต่
อไป
ข้
อเสนอแนะในการวิ
จั
ยครั้
งต่
อไป
จากการศึ
กษาพบว่
า บทบาทสาคั
ญในการมี
ส่
วนร่
วมของผู้
นาสี่
เสาหลั
กในการบริ
หารจั
ดการส่
งเสริ
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
น:กรณี
ศึ
กษา “ตารี
อี
นา”ต.กายู
คละ อ.แว้
ง จ.นราธิ
วาสขึ้
นอยู่
กั
บ ผู้
นาสี่
เสาหลั
ก ที่
เป็
ผู้
ชายเป็
นหลั
ก ยั
งไม่
สามารถสะท้
อนบทบาทของสตรี
กั
บการมี
ส่
วนร่
วมต่
อชุ
มชน ดั
งนั้
นหากทาการศึ
กษาวิ
จั
ครั้
งต่
อไป ควรศึ
กษาบทบาทสตรี
กั
บการมี
ส่
วนร่
วมในการบริ
หารจั
ดการส่
งเสริ
มศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นต่
อไป
1 3,4,5,6,7,8,9,10,11,12,...47
Powered by FlippingBook