st125 - page 16

12
ไฮโลการสูบฝิ่ นหรื อแม้ กระทั่งการเที่ยวโสเภณี ทว่าสิ่งเหล่านี ้ ค่อยๆหมดไปหลังจากการกลับมาจากการศึกษา
ศาสนาอิ สลามในประเทศซาอุดิอารเบียของ “บาบอ” โดย “บาบอ” ได้ เปิ ดโรงเรี ยนสอนศาสนาและบรรยาย
ธรรมทั ้ งที่มัสยิดและตามบ้ านเรื อนประกอบกับเป็ นช่ วงเวลาเดียวกับที่เด็กที่ ไปศึกษาศาสนาในประเทศมุสลิม
เดินทางกลับมาและเผยแพร่ แนวคิดทางศาสนาในพื ้ นที่ ขณะที่การเข้ามาของขบวนการศาสนา เช่ น “ดาวะห์”
และ “คณะใหม่” ส่ งผลให้ชาวกื อเม็งหันมาให้ ความสาคัญกั บการปฏิบัติตามหลักศาสนายิ่งขึ ้ นพวกเขาเลิก
พฤติกรรมผิ ดบาปและพิธีกรรมท้ องถิ่นจานวนมากถูกยกเลิก
บทที่ 4 ชี ้ ให้ เห็นว่าท่ามกลางการมี วัตรปฏิบัติทางศาสนาที่เคร่งครั ดขึ ้ น ชาวกือเม็งยังคงประกอบ
พิ ธีกรรมความเชื่ อท้ องถิ่นกันอย่างคึกคักนับตั ้ งแต่ในส่วนของพิธี กรรมที่ เกี่ยวกับวงจรชี วิต เช่ นการฝากครรภ์
พิ ธี ขึ ้ นเปล และพิธี เหยี ยบดินในพิ ธี ขลิบ เป็ นต้ น การรั กษาอาการเจ็บป่ วยทั ้ งในส่วนที่เชื่อว่ามีสาเหตุมาจาก
ธรรมชาติและในส่วนที่ เชื่อว่าเป็ นผลมาจากสิ่งเหนื อธรรมชาติโดยเฉพาะวิญญาณครู ศิลปะพื ้ นบ้ านมลายู การ
แก้ คุณไสยตลอดจนการจัดพิธี มงคล เช่นพิธีมงคลสมรสที่ต้ องมี การประกอบพิธี จาพวกการห้ ามฝนและการ
ทาให้ แขกเหรื่อรับประทานอาหารอย่างสารวม เป็ นต้ นซึ่งการที่ชาวกื อเม็งมีวิถีชีวิตที่เกี่ ยวข้ องกับพิธี กรรมความ
เชื่ อท้ องถิ่นอย่างหลากหลายเช่นนี ้ ส่งผลให้ ในพื ้ นที่มี “บอมอ” ที่มี “ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้ าน” ต่างๆ จานวน
มากเพื่อตอบสนองความต้ องการตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็ น “บอมอ” ระดับแนวหน้ าที่ เชี่ยวชาญในการไล่ผี และ
การนาสวดดูอา หรือรายที่ มีความสามารถพิเศษสามารถมองเห็ นสิ่งของที่ สูญหายหรื อถูกลักขโมยหรื อ “บอ
มอ” ระดับรองลงมาที่ มีความเชี่ยวชาญพิเศษ เช่น การรั กษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ ชายที่ “บอ
มอ” ระดับแนวหน้ าไม่ สามารถให้ บริ การได้ อย่างไรก็ ดี การประกอบพิธี กรรมของ “บอมอ” เหล่านี ้ ถูก
วิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มที่ “เคร่งศาสนา” ระดับหนึ่งแม้ จะไม่โดยเปิ ดเผยก็ตาม
บทที่ 5กล่าวถึ งกลวิธี ที่ชาวกือเม็งใช้ ในการช่วยให้พวกเขาสามารถดาเนินชีวิตประจาวันและประกอบ
พิธี กรรมความเชื่อที่หากตีความอย่างเคร่ งครัดถือว่าผิ ดบาปหรือขัดกับศาสนาอิสลามได้โดยไม่ ก่อให้ เกิดความ
ขัดแย้ งหรื อการเผชิ ญหน้ ากันอย่างรุ นแรงกับกลุ่มที่ “เคร่งศาสนา” หรื อผู้ขั บเคลื่อนกระแสการตื่นตัวในศาสนา
อิสลามในพื ้ นที่ โดยชาวกือเม็ งทั่วไปอาศัยการเจรจาต่อรองกับพระเจ้าและการตีความคาสอนในศาสนาใหม่ใน
การช่วยให้ พวกเขาสามารถดาเนินชี วิตประจาวันบางส่วนที่อาจดูขัดหลักศาสนา เช่น การคุมกาเนิด การชม
มหรสพ และการทางานเช้ าวันศุกร์ เป็ นต้ น ขณะที่ “บอมอ” อาศัยกลวิ ธี เช่น การยกความดี ความชอบให้พระ
เจ้ า การทาให้ เป็ นวิ ทยาศาสตร์ การทาให้ เป็ นเรื่ องทางโลกย์ ฯลฯ ในการทาให้ พวกเขาสามารถประกอบ
พิ ธี กรรมบางส่วนที่อาจแลดูขั ดหลักศาสนาอิสลามได้ เป็ นเหตุให้ ทั ้ งวิถี ชีวิต ขนบธรรมเนี ยมประเพณี และ
พิ ธี กรรมความเชื่อท้ องถิ่นมลายูยังคงโลดแล่ นอย่างมีชี วิตชี วาในกือเม็งท่ามกลางกระแสการตื่ นตัวในศาสนา
อิสลามที่ เกิดขึ ้ นในพื ้ นที่ในช่วงกว่า 3ทศวรรษที่ผ่านมาส่ วนบทที่ 6