st125 - page 15

11
กำรอ้
ำงอิ
งผู
ให้
ข้
อมู
เนื่
องจากรายงานการวิ
จั
ยเรี
ยบเรี
ยงขึ
นจากข้
อมู
ลภาคสนามและโดยเฉพาะอย่
างยิ่
งคื
อจากการสั
มภาษณ์
เป็
หลั
ก ขณะที่
ข้
อมู
ลภาคสนามและข้
อมู
ลจากการสั
มภาษณ์
ส่
วนหนึ่
งสามารถก่
อให้
เกิ
ดอั
นตราย สร้
างความ
เสี
ยหายหรื
อส่
งผลกระทบในแง่
ลบต่
อผู
ให้
ข้
อมู
ลบางคนได้
ฉะนั
น เพื่
อป้
องกั
นไม่
ให้
เกิ
ดสถานการณ์
ดั
งกล่
าว
และเพื่
อความเป็
นระบบเดี
ยวกั
นในการอ้
างอิ
งผู
ให้
ข้
อมู
ล รายงานการวิ
จั
ยจะใช้
นามสมมติ
ของผู
ให้
ข้
อมู
ลทุ
กคน
ไม่
ว่
าข้
อมู
ลที่
เขาหรื
อเธอให้
จะส่
งผลกระทบต่
อเขาหรื
อเธอโดยตรงหรื
อไม่
ก็
ตาม พร้
อมกั
นนี
รายงานการวิ
จั
ยจะ
ระบุ
สถานะทางสั
งคม เศรษฐกิ
จ และการเมื
องของผู
ให้
ข้
อมู
ลแต่
ละคนโดยสั
งเขปในการปรากฏตั
วครั
งแรกใน
รายงานการวิ
จั
ยหรื
อในกรณี
ที่
จาเป็
เค้
ำโครงรำยงำนวิ
จั
รายงานการวิ
จั
ยประกอบด้
วย 6
มาของปั
ญหา วั
ตถุ
ประสงค์
คาถาม
หลั
กในการวิ
จั
ย เอกสารและงานวิ
จั
ยที่
เกี่
ยวข้
อง วิ
ธี
การวิ
จั
ยและพื
นที่
วิ
จั
ย และการอ้
างอิ
งผู
ให้
ข้
อมู
ลดั
งที่
กล่
าว
แล้
วข้
างต้
นส่
วนบทที่
2
แ พั
ฒนาการและลั
กษณะการตั
งถิ่
นฐานสภาพทางเศรษฐกิ
จ และลั
กษณะ
ทางสั
งคม ชาติ
พั
นธุ
และศาสนาของบ้
านกื
อเม็
งเพื่
ออาศั
ยเป็
นฐานในการทาความเข้
าใจวิ
ถี
ชี
วิ
ตและพิ
ธี
กรรม
ความเชื่
อท้
องถิ่
นในกระแสการตื่
นตั
วในศาสนาอิ
สลามในพื
นที่
ในลาดั
บต่
อไปทั
งนี
ก็
เพราะว่
าจั
งหวั
ดชายแดน
ภาคใต้
มั
กได้
รั
บการกล่
าวถึ
งในลั
กษณะเหมารวมและเป็
นเนื
อเดี
ยว ไม่
ว่
าจะเป็
นในแง่
ของขนบธรรมเนี
ยมและ
ประเพณี
ท้
องถิ่
น การปฏิ
บั
ติ
ศาสนาอิ
สลาม หรื
อเหตุ
การณ์
ความไม่
สงบทว่
าในความเป็
นจริ
งปรากฏการณ์
ดั
งกล่
าวจะเกิ
ดขึ
นในลั
กษณะใดต่
างขึ
นกั
บความจาเพาะเจาะจงของแต่
ละพื
นที่
อย่
างสาคั
ญ เช่
น การที่
“คณะ
ใหม่
” ไม่
ขยายตั
วอย่
างกว้
างขวางในกื
อเม็
งจนกระทั่
งขั
ดแย้
งกั
บ “คณะเก่
า” ดั
งที่
เกิ
ดในพื
นที่
อื่
นส่
วนหนึ่
งเป็
เพราะชาวกื
อเม็
งเหนื
อและชาวกื
อเม็
งกลางไม่
ได้
เข้
มงวดด้
านศาสนาเหมื
อนชาวกื
อเม็
งใต้
ที่
นิ
ยมส่
งบุ
ตรหลาน
ไปศึ
กษาด้
านศาสนาในประเทศมุ
สลิ
ม หรื
อการที่
ชาวกื
อเม็
งไม่
ได้
รู
สึ
กกั
บการที่
“ขบวนการ” อาศั
ประวั
ติ
ศาสตร์
“ปตานี
อั
นยิ่
งใหญ่
” ในการปลุ
กเร้
าชาวมลายู
มุ
สลิ
มในจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต้
มากนั
กส่
วนหนึ่
เป็
นเพราะว่
าตานานการตั
งถิ่
นฐานของพวกเขาผู
กอยู
กั
บเมื
องรามั
นห์
ซึ่
งมี
ปตานี
เป็
นปฏิ
ปั
กษ์
บทที่
3 กล่
าวถึ
งกระแสการตื่
นตั
วในศาสนาอิ
สลามในกื
อเม็
งในช่
วง 3 ทศวรรษที่
ผ่
านมา โดยชี
ให้
เห็
ว่
าในอดี
ตชาวกื
อเม็
งไม่
ได้
ปฏิ
บั
ติ
ตามหลั
กศาสนาอย่
างที่
แลดู
เคร่
งครั
ดดั
งในปั
จจุ
บั
นพวกเขาไม่
ได้
ละหมาด
ครบถ้
วนวั
นละ 5 เวลา ผู
หญิ
งไม่
ค่
อยคลุ
มศี
รษะด้
วยหิ
ญาบ ขณะที่
ผู
ชายจานวนมากไม่
ได้
ไปละหมาดเที่
ยงวั
ศุ
กร์
ที่
มั
สยิ
ด ไม่
นั
บรวมกิ
จกรรมหมิ่
นเหม่
ศี
ลธรรมจานวนมากในกื
อเม็
ง ไม่
ว่
าจะเป็
นการชนวั
ว การตี
ไก่
การพนั
1...,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14 16,17,18,19,20,21,22,23,24,25,...116
Powered by FlippingBook