st125 - page 12

8
ทั
งนี
การศึ
กษาศาสนาอิ
สลามในเขตชายแดนภาคใต้
ประเทศไทยส่
วนใหญ่
อาศั
ยวิ
ธี
การศึ
กษาแนว
คั
มภี
ร์
ซึ่
งไม่
เพี
ยงแต่
จะทาให้
ไม่
เห็
นว่
าศาสนาอิ
สลามได้
รั
บการปฏิ
บั
ติ
ตี
ความหรื
อปรั
บใช้
ในชี
วิ
ตประจาวั
นของ
ชาวมลายู
มุ
สลิ
มในพื
นที่
อย่
างไร หากแต่
ยั
งชวนให้
เชื่
อว่
าศาสนาอิ
สลามเป็
นสาเหตุ
สาคั
ญของเหตุ
การณ์
ความ
ไม่
สงบระลอกใหม่
นี
ด้
วย (เช่
นWattana 2006) ทั
งที่
สถานการณ์
ยั
งมี
ความสั
บสนและคลุ
มเครื
ออยู
มากฉะนั
เพื่
อหลี
กเลี่
ยงข้
อจากั
ดของการศึ
กษาศาสนาอิ
สลามด้
วยแนวทางคั
มภี
ร์
งานวิ
จั
ยชิ
นนี
จึ
งอาศั
ยการศึ
กษาศาสนา
อิ
สลามแนวมานุ
ษยวิ
ทยาศึ
กษาว่
าชาวมลายู
มุ
สลิ
มในชายแดนใต้
เข้
าใจ อธิ
บาย ตี
ความ และปรั
บใช้
ศาสนา
อิ
สลามในชี
วิ
ตประจาวั
นของพวกเขาอย่
างไร โดยเฉพาะในสถานการณ์
ความไม่
สงบร่
วมสมั
ยที่
ศาสนาอิ
สลาม
ถู
กโยงใยให้
มี
ความเกี่
ยวข้
องมากขึ
3) ชาติ
พั
นธุ
มลายู
และศาสนาอิ
สลามในสถานการณ์
ความไม่
สงบ
สถานการณ์
ความไม่
สงบในจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต้
ที่
ทวี
ความรุ
นแรงขึ
นตั
งแต่
ต้
นปี
พ.ศ. 2547
ได้
รั
การอธิ
บายในหลายลั
กษณะ เช่
นMcCargo (2006) เสนอว่
าความรุ
นแรงปะทุ
ขึ
นใหม่
อี
กระลอกเพราะความ
ขั
ดแย้
งทางการเมื
องระหว่
างอดี
ตนายกรั
ฐมนตรี
พ.ต.ท.ทั
กษิ
ณ ชิ
นวั
ตร กั
บ “เครื
อข่
ายในหลวง” (network
monarchy) ทั
งนี
ก็
เพราะว่
าพ.ต.ท.ทั
กษิ
ณ ได้
แต่
งตั
งคนของเขาในตาแหน่
งทางทหาร ตารวจ และการปกครอง
ในเขตชายแดนใต้
ซึ่
งครั
งหนึ่
งเคยถู
กยึ
ดครองโดย “เครื
อข่
ายในหลวง” ฉะนั
น เพื่
อปกป้
องเขตยึ
ดครองเอาไว้
“เครื
อข่
ายในหลวง” จึ
งตอบโต้
รั
ฐบาลพ.ต.ท.ทั
กษิ
ณ ในลั
กษณะต่
างๆ ซึ่
งหนึ่
งในนั
นคื
อการก่
อความไม่
สงบ
ส่
วน Ukrist (2006) เสนอว่
าการที่
พ.ต.ท.ทั
กษิ
ณ ใช้
“แนวทางเหยี่
ยว” ในการแก้
ไขปั
ญหาชายแดนใต้
ได้
ก่
อให้
เกิ
ดความโกรธเคื
องในหมู
ชาวมลายู
มุ
สลิ
มในพื
นที่
และส่
วนหนึ่
งของความโกรธเคื
องนั
นได้
แปลออกมา
เป็
นความรุ
นแรง
นอกเหนื
อจากการเมื
องระดั
บชาติ
และนโยบายรั
ฐบาล พ.ต.ท.ทั
กษิ
ณ ศาสนาอิ
สลามเป็
นอี
กปั
จจั
สาคั
ญที่
นั
กวิ
ชาการจานวนหนึ่
งเห็
นว่
ามี
ส่
วนทาให้
ความรุ
นแรงระลอกใหม่
ปะทุ
ขึ
น เช่
น Srisompob and
Panyasak (2006) เสนอว่
าอิ
ทธิ
พลของความเชื่
อเชิ
งอุ
ดมการณ์
ของขบวนการเคลื่
อนไหวได้
ชั
กนาให้
ชาวมลายู
มุ
สลิ
มในพื
นที่
ก่
อความรุ
นแรง ขณะที่
Wattana (2006) เสนอว่
ากระแสศาสนาอิ
สลามสุ
ดขั
วระดั
บโลกผนวกกั
กระแสฟื
นฟู
อิ
สลามและการแตกตั
วของสิ
ทธิ
อานาจในศาสนาอิ
สลามในประเทศไทยได้
ชั
กนาชาวมลายู
มุ
สลิ
จานวนมากไปสู
การก่
อความรุ
นแรงในนามของญี
ฮั
ดและการพลี
ชี
พ โดยเขาเสนอว่
าหนั
งสื
อชื่
อ “การก่
อญี
ฮั
ดณ
ปตานี
” ที่
พบบนร่
างของผู
เสี
ยชี
วิ
ตในมั
สยิ
ดกรื
อเซะชี
ให้
เห็
นว่
าขบวนการแบ่
งแยกดิ
นแดนแห่
งปตานี
ซึ่
งเดิ
มชี
นา
โดยนั
กปลุ
กระดมทางโลกที่
อาศั
ยอุ
ดมการณ์
ชาติ
นิ
ยมเชิ
งชาติ
พั
นธุ
และมี
กลิ่
นอายของศาสนาอิ
สลามเพิ่
มขึ
นใน
1...,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11 13,14,15,16,17,18,19,20,21,22,...116
Powered by FlippingBook