nt138 - page 15

6
ทุ
นทางวั
ฒนธรรมที่
แฝงฝั
งในกาย ได้
แก่
นิ
จภาพหรื
อระบบโน้
มเอี
ยงต่
างๆ ที่
ได้
รั
บการ
ปลู
กฝั
งเข้
าไปในตั
วปั
จเจกผ่
านกระบวนการหล่
อหลอมทางสั
งคม แล้
วประกอบสร้
างเป็
นโครงสร้
าง
การรั
บรู
และประเมิ
นคุ
ณค่
า ซึ
งเอื
อให้
ปั
จเจกมี
ศั
กยภาพที่
จะครอบครองหรื
อบริ
โภคทรั
พย์
สิ
นเหล่
านี
กระทํ
าผ่
านการเข้
าใจความหมายหรื
อรหั
สเท่
านั
ทุ
นในลั
กษณะของระบบโน้
มเอี
ยงนี
ต้
องได้
รั
การสั่
งสมตั
งแต่
ในวั
ยเด็
ก โดยอาศั
ยการลงทุ
นทั
งเวลาและเงิ
นของบิ
ดามารดา สมาชิ
กในครอบครั
และผู
ที่
มี
อาชี
พให้
การอบรมสั่
งสอนในการปลู
กฝั
งสิ่
งเหล่
านี
ให้
แฝงฝั
งเข้
าไปในตั
วบุ
คคลอย่
างลึ
กซึ
จนมองไม่
เห็
นและหลอมรวมเป็
นคุ
ณสมบั
ติ
ประจํ
าตั
วที่
มั
กจะถู
กมองว่
าเป็
นสิ่
งที่
“ธรรมชาติ
” หรื
“พระเจ้
า” ให้
มา ในอี
กแง่
หนึ
ง ทุ
นชนิ
ดนี
จึ
งมี
บทบาทเป็
นทุ
นทางสั
ญลั
กษณ์
ด้
วย เนื่
องจากต้
องอาศั
ความชอบธรรมในการสร้
างมู
ลค่
า และเงื่
อนไขทางสั
งคมของการได้
รั
บหรื
อการสื
บทอดก็
จะต้
องมี
ลั
กษณะซ่
อนเร้
น หรื
อไม่
อาจมองเห็
นได้
เท่
านั
น ทุ
นทางวั
ฒนธรรมรู
ปแบบนี
มี
ความเกี่
ยวโยงกั
บทุ
ทางเศรษฐกิ
จด้
วย เนื่
องจาก “เวลา” เป็
นปั
จจั
ยสํ
าคั
ญของการสั่
งสมทุ
นทางวั
ฒนธรรม และผู
ที่
จะมี
เวลาว่
างให้
กั
บการเสริ
มสร้
างทุ
นชนิ
ดนี
ได้
ก็
มั
กจะเป็
นกลุ่
มคนที่
ไม่
ต้
องเสี
ยเวลาไปกั
บการสร้
างทุ
ทางเศรษฐกิ
ทุ
นทางวั
ฒนธรรมรู
ปแบบที่
สองปรากฏในรู
ปแบบของทรั
พย์
สิ
นทางวั
ฒนธรรม
(biens
culturels) ที่
สามารถครอบครองและสั่
งสม เช่
น ภาพวาด หนั
งสื
อ เครื่
องดนตรี
ฯลฯ โดยทุ
นใน
รู
ปแบบนี
ส่
วนใหญ่
จะปรากฏมู
ลค่
าได้
ต้
องอาศั
ยความสั
มพั
นธ์
กั
บทุ
นในแบบแฝงฝั
งในกายด้
วย
ส่
วนทุ
นในรู
ปแบบที่
สามคื
อการรั
บรองจากสถาบั
นที่
ได้
รั
บการยอมรั
บจากสมาชิ
กใน
วงการเดี
ยวกั
น เช่
น ใบรั
บรองคุ
ณวุ
ฒิ
การศึ
กษา เป็
นต้
น ซึ
งเป็
นหนทางหนึ
งในการลบล้
างข้
อจํ
ากั
ของทุ
นทางวั
ฒนธรรมซึ
งเกี่
ยวโยงกั
บร่
างกายของผู
ครอบครอง และช่
วยเพิ่
มพู
นมู
ลค่
าของทุ
นทาง
สั
ญลั
กษณ์
ได้
ด้
วยอาศั
ยการรั
บรองจาก “ทางการ” ทุ
นประเภทนี
ทํ
าให้
การลงทุ
นทางการศึ
กษาของ
บุ
คคลมี
มู
ลค่
าอย่
างเป็
นรู
ปธรรม และสามารถสร้
างทุ
นในทางเศรษฐกิ
จได้
โดยเฉพาะอย่
างยิ่
งใน
กรณี
ของคุ
ณวุ
ฒิ
ทางการศึ
กษาซึ
งมี
มู
ลค่
าเมื่
ออยู
ในตลาดแรงงาน
บู
ร์
ดิ
เยออธิ
บายด้
วยมโนทั
ศน์
ว่
าด้
วย “สนาม” (champ หรื
อ field) โดยต้
องการสะท้
อน
ภาพของสนามในการแข่
งขั
นเกมกี
ฬาซึ
งจะต้
องมี
การเดิ
มพั
นในการแข่
งขั
น ในแง่
นี
เดิ
มพั
นในสนาม
ของวั
ฒนธรรมก็
คื
อทุ
นทางวั
ฒนธรรม ทุ
นทางวั
ฒนธรรมในแต่
ละสนามจะมี
ความแตกต่
างกั
นไป
ตามลั
กษณะเฉพาะของแต่
ละสนาม อั
นเป็
นผลมาจาก “นิ
จภาพ” (habitus) ซึ
งประกอบขึ
นจาก
โครงสร้
างการรั
บรู
และประเมิ
นคุ
ณค่
าที่
สนามแห่
งนั
นปลู
กฝั
งเอาไว้
นั่
นเอง
อย่
างไรก็
ตาม
การ
แข่
งขั
นในสนามที่
มี
ทุ
นทางวั
ฒนธรรมเป็
นเดิ
มพั
นนั
นต้
องดํ
าเนิ
นไปอย่
างแนบเนี
ยน
ซึ
งต้
องอาศั
กระบวนการต่
างๆ ค่
อยๆ เสริ
มสร้
างขึ
นมา ทั
งนี
เพื่
อให้
สามารถสั่
งสมทุ
นดั
งกล่
าวได้
ไปอย่
างไม่
มี
ที่
สิ
นสุ
ดโดยปราศจากเสี
ยงคั
ดค้
าน ยุ
ทธวิ
ธี
หนึ
งที่
ผู
กระทํ
าการหรื
อกลุ่
มสั
งคมใช้
ในการธํ
ารงรั
กษาและ
เพิ่
มพู
นทุ
นทางวั
ฒนธรรมจึ
งได้
แก่
การปฏิ
เสธกลเกลื่
อนมิ
ติ
ทางเศรษฐกิ
จหรื
อทางอํ
านาจ
และ
1...,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14 16,17,18,19,20,21,22,23,24,25,...115
Powered by FlippingBook