nt138 - page 13

บทที่
2
แนวคิ
ดและงานวิ
จั
ยที่
เกี่
ยวข้
อง
การทบทวนวรรณกรรมที่
เกี่
ยวข้
อง
แนวคิ
ดในการวิ
จั
ยเรื่
องนี
ประกอบด้
วยแนวคิ
ดสองเรื่
องเป็
นหลั
กกล่
าวคื
อเรื่
องของ
เศรษฐกิ
จเชิ
งสร้
างสรรค์
และเรื่
องทุ
นวั
ฒนธรรม ในส่
วนเรื่
องเศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
นั
นได้
ใช้
แนวคิ
จาก John Howkins จากหนั
งสื
อเรื่
องTheCreativeEconomyHowPeopleMakeMoneyFrom
Ideas แปลโดยคุ
ณากรวาณิ
ชย์
วิ
รุ
ฬห์
(2552) โดยงานวิ
จั
ยนี
เน้
นที่
การสร้
างตราสั
ญลั
กษณ์
ที่
หมายถึ
งการเชื่
อมั่
นในเครื่
องหมายการค้
าที่
ทรงคุ
ณค่
า โดยเครื่
องหมายการค้
า (ที่
ทรงคุ
ณค่
า)นี
จะ
เป็
นเครื่
องหมายที่
ไม่
มี
กํ
าหนดอายุ
เวลาแตกต่
างจากลิ
ขสิ
ทธิ
และสิ
ทธิ
บั
ตรรวมถึ
งสิ่
งที่
ไม่
สามารถ
เลี
ยนแบบได้
เช่
นการนํ
าสิ
นค้
าไปจดสิ่
งบ่
งชี
ทางภู
มิ
ศาสตร์
อี
กแนวคิ
ดหนึ
งคื
อเรื่
องทุ
นทางวั
ฒนธรรม
โดยงานวิ
จั
ยนี
ได้
ใช้
แนวคิ
ดเรื่
องทุ
นทาง
วั
ฒนธรรมจาก แนวคิ
ดของปิ
แยร์
บู
ดิ
เยอร์
แปลโดย ชนิ
ดา เสงี่
ยมไพศาลสุ
ข ในหนั
งสื
อเรื่
อง
เศรษฐกิ
จของทรั
พย์
สิ
นเชิ
งสั
ญลั
กษณ์
(2550) ดั
งนี
ทุ
น (capital ภาษาฝรั่
งเศส, ภาษาอั
งกฤษ)
ในความหมายกว้
างที่
สุ
ดของ ทุ
น หมายถึ
ง ทรั
พย์
สิ
นที่
สามารถก่
อให้
เกิ
ดทรั
พย์
สิ
นเพิ่
มมาก
ขึ
น โดยอาจจะเป็
นเงิ
น เครื่
องจั
กร เครื่
องมื
ออาคารสถานที่
หรื
อสิ่
งอื่
นๆที่
ไม่
ได้
นํ
ามาใช้
เพื่
อบริ
โภค
โดยตรง แต่
เพื่
อประโยชน์
ในการผลิ
ต ทุ
นเป็
นหนึ
งในปั
จจั
ยการผลิ
ตร่
วมกั
บอี
กสองปั
จจั
ย ได้
แก่
ที่
ดิ
นและแรงงาน ในTheNewShorterOxfordEnglishDictionary onHistorical Principles (1993)
รากศั
พท์
ภาษาละติ
นของคํ
า capital คื
อ capitalis ซึ
งมี
ต้
นกํ
าเนิ
ดมาจากคํ
า caput, capit ที่
หมายความ
ว่
า “หั
ว” จึ
งมี
ความเกี่
ยวโยงโดยตรงกั
บการค้
าขาย และครอบครองฝู
งสั
ตว์
เนื่
องจากในสมั
ยก่
อนนั
ความรํ
ารวยวั
ดได้
จากการนั
บหั
วของสั
ตว์
ที่
ผู
นั
นมี
อยู
ในครอบครอง
ในทางสั
งคมที
ได้
ให้
คํ
าอธิ
บายเกี่
ยวกั
บทุ
นอย่
างกระจ่
างชั
ดและครอบคลุ
มมิ
ติ
ต่
างๆมากที่
สุ
คื
อ นั
กปราชญ์
ชาวเยอรมั
น คาร์
ล มาร์
กซ์
ซึ
งได้
ให้
ความหมายของ “ทุ
น” ในแง่
ที่
เกี่
ยวพั
นกั
บชน
ชั
นในสั
งคม โดยมองว่
าคุ
ณสมบั
ติ
ของทุ
นในฐานะที่
สามารถสั่
งสมปริ
มาณเพื่
อเพิ่
มมู
ลค่
านั
น เป็
เครื่
องสร้
างความแตกต่
างทางชนชั
นระหว่
างผู
ครอบครองทุ
นอั
นได้
แก่
ชนชั
นกระฏ ุ
มพี
(bourgeoisie) กั
บผู
ใช้
แรงงานหรื
อที่
เรี
ยกว่
าชนชั
นกรรมาชี
พ ( proletariat) ความสั
มพั
นธ์
ทางสั
งคม
ดั
งกล่
าวเป็
นผลโดยตรงจากระบบ “ ทุ
นนิ
ยม” ( capitalism) กล่
าวคื
อ ระบบการผลิ
ตสิ
นค้
าเพื่
ค้
าขายแลกเปลี่
ยน และมุ่
งผลกํ
าไร โดยมี
กระบวนการสั่
งสมทุ
น (accumulation) เป็
นกลไก
ขั
บเคลื่
อนสํ
าคั
ญ ระบบทุ
นนิ
ยมนี
เริ่
มมี
บทบาทเด่
นชั
ดตั
งแต่
ช่
วงคริ
สต์
ศตวรรษที่
19 หลั
งจากการ
เบ่
งบานของแนวคิ
ดเสรี
นิ
ยม และการปฎิ
วั
ติ
อุ
ตสาหกรรม อั
นส่
งผลให้
ชนชั
นกระฏ ุ
มพี
ได้
แก่
พ่
อค้
1...,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 14,15,16,17,18,19,20,21,22,23,...115
Powered by FlippingBook