st122 - page 19

13
ที่
นครมั
กกะห
(ถ
ามี
กํ
าลั
งกายและกํ
าลั
งทรั
พย
เพี
ยงพอ) และมุ
สลิ
มต
องมี
ความศรั
ทธาตาม
หลั
กการศรั
ทธาอี
กหกประการ ซึ่
งที่
ยกตั
วอย
างนี้
มาทั้
งหมดเป
นข
อที่
มุ
สลิ
มทุ
กคนต
องถื
อปฏิ
บั
ติ
มิ
เช
นนั้
นก็
ถื
อว
า “บาป” เสมื
อนเป
นผู
ทรยศต
ออั
ลลอฮฺ
(ซ.บ.) แต
ก็
มี
มุ
สลิ
มสามจั
งหวั
ดชายแดน
ภาคใต
อี
กจํ
านวนไม
น
อยที่
ละเมิ
ดข
อห
ามและละเลยไม
ปฏิ
บั
ติ
ตาม เราจึ
งพบว
า มี
สตรี
มุ
สลิ
มที่
แต
กายตามสบายโดยไม
ปกป
ดอวั
ยวะของร
างกายตามอิ
สลามกํ
าหนด หญิ
งบางคนหลวมตั
กลายเป
นหญิ
งบริ
การ บ
างก็
ติ
ดยาเสพติ
ดและเมาเหล
า บ
างก็
ค
าดอกเบี้
ย ไม
ละหมาด ไม
ถื
อศี
ลอด
เล
นการพนั
นหรื
อเป
นเจ
าของบ
อน เป
นผู
เชิ
ญชวนแขกเข
าสถานบริ
การเริ
งรมย
หรื
อเป
นเจ
าของ
กิ
จการดั
งกล
าวเอง และยั
งมี
มุ
สลิ
มที่
เป
นโจร หรื
อเป
นมื
อป
นรั
บจ
าง เหล
านี้
เป
นต
มุ
สลิ
มสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
ให
ความนั
บถื
อโต
ะครู
โต
ะอิ
หม
าม เพราะว
าโครงสร
าง
ทางสั
งคมของชุ
มชนมุ
สลิ
มไทยสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
มี
หลั
กการศาสนาอิ
สลามเป
นแกนและ
เป
นจุ
ดแข็
งเหมื
อนเป
นเกราะสํ
าคั
ญที่
จะปกป
องอั
นตรายจากสื่
อเทคโนโลยี
ทางการศึ
กษาได
ใน
ยามมี
คดี
ความทางมรดกและครอบครั
ว มุ
สลิ
มสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
สามารถพึ่
งอํ
านาจศาล
ยุ
ติ
ธรรมทางอิ
สลามได
ซึ่
งมี
ดาโต
ะยุ
ติ
ธรรมเป
นผู
พิ
พากษา นอกจากนี้
มี
คณะกรรมการอิ
สลาม
ประจํ
าจั
งหวั
ดทํ
าหน
าที่
ในกิ
จกรรมทางศาสนาประสานงานกั
บคณะกรรมการประจํ
ามั
สยิ
ด และ
ประสานงานกั
บคณะกรรมการอิ
สลามแห
งประเทศไทยสั
งคมมุ
สลิ
มมี
ผู
นํ
าสู
งสุ
ดคื
อจุ
ฬาราชมนตรี
ซึ่
งได
มาโดยการเลื
อกตั้
ง บุ
คลากรอย
างดาโต
ะยุ
ติ
ธรรม จุ
ฬาราชมนตรี
ประธานคณะกรรมการ
อิ
สลามประจํ
าจั
งหวั
ดอิ
หม
ามประจํ
ามั
สยิ
ดเหล
านี้
เป
นผู
นํ
าองค
กรในการบริ
หารองค
กรทางศาสนา
อิ
สลามในสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
ที่
สํ
าคั
เมื่
อจะมี
การประกอบพิ
ธี
กรรมใดๆ มุ
สลิ
มสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
จะกํ
าหนด วั
เดื
อน ป
และเวลาตามปฏิ
ทิ
นฮิ
จเราะห
ศั
กราช ดั
งนั้
นการพิ
มพ
ปฏิ
ทิ
นดั
งกล
าวจึ
งเป
นอี
กกิ
จการ
หนึ่
งเพื่
อจํ
าหน
ายหรื
อจ
ายแจกในโอกาสต
อนรั
บป
ใหม
อิ
สลาม (1 มุ
ฮั
รรอม) หรื
อ ป
ใหม
สากล (1
มกราคม) ให
มิ
ตรสหายที่
เป
นมุ
สลิ
ม นอกจากนั้
น มุ
สลิ
มสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
ยั
งมี
การสื
ทอดประเพณี
อั
นเนื่
องด
วยวั
ฒนธรรมอิ
สลามอี
กหลายอย
าง เช
น การจั
ดงานเมาลิ
ดหรื
องาน
ประสู
ติ
ท
านรอซู
ล (ศ็
อล) งานอาสู
รอ (กวนข
าว) งานขึ้
นบ
านใหม
กุ
รบาน (เชื
อดสั
ตว
พลี
) งาน
แต
งงาน งานเข
าสุ
นั
ต งานพิ
ธี
อากี
กะห
และมี
การจั
ดงานกาตั
มอั
ลกุ
รอาน มี
การทํ
าบุ
ญ 7 วั
น หรื
20 วั
น และ 40 วั
น ให
กั
บผู
ล
วงลั
บไปแล
วเหล
านี้
เป
นต
นอกจากนั้
น เผ
า นวกุ
ล (2554) ในงานเขี
ยนเรื่
อง “ลั
งกาสุ
กะ”: เมื่
อ “ศาสนา” เดิ
นทาง
โดยเรื
อล
องมาสู
คาบสมุ
ทรมลายู
ซึ่
งมี
การสรุ
ปงานเขี
ยนของ ครองชั
ย หั
ตถา เรื่
อง “ลั
งกาสุ
กะ”
ประวั
ติ
ศาสตร
ยุ
คต
นของชายแดนใต
ได
พู
ดถึ
งประวั
ติ
การเข
ามาของศาสนาอิ
สลามในพื้
นที่
สาม
จั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
ว
า ผู
คนส
วนใหญ
มั
กตั
ดทอนความคิ
ดของตนเองอยู
ที่
ศาสนาอิ
สลามว
าเป
ของที่
คู
กั
บคนชายแดนใต
ทั้
งๆที่
“ลั
งกาสุ
กะ” หรื
อ “LANGKASUKA” หรื
อมี
ชื่
อเรี
ยกกั
นต
างๆ
นาๆ ตามยุ
คสมั
ยและตามความเข
าใจของชนชาติ
ต
างๆที่
เข
ามาติ
ดต
อ ลั
งกาสุ
กะในยุ
คต
(ประมาณพุ
ทธศตวรรษที่
7) มี
พื้
นที่
ครอบคลุ
ม ป
ตตานี
เคดาห
ยะรั
ง โดยมี
ความเชื่
อเรื่
อง ภู
ตผี
ป
ศาจ (Animism) เป
นพื้
นฐานสํ
าคั
ญของการดํ
าเนิ
นชี
วิ
ต ในยุ
คเรื
องอํ
านาจมี
การขยายอํ
านาจ
ตั
วเองจนถึ
งบริ
เวณจั
งหวั
ดประจวบคี
รี
ขั
นธ
ในป
จจุ
บั
น มี
เคดาห
เป
นศู
นย
กลางอํ
านาจ แต
มี
ความ
1...,9,10,11,12,13,14,15,16,17,18 20,21,22,23,24,25,26,27,28,29,...71
Powered by FlippingBook