st122 - page 27

21
นอกจากนั้
น ในศาสนาอิ
สลามแล
ว แท
จริ
งบรรดาผู
ศรั
ทธาหรื
อมุ
สลิ
มนั้
นเป
นพี่
น
องกั
ดั
งคํ
าตรั
สของอั
ลลอฮ (ซ.บ.)
ความว
า “แท
จริ
งบรรดาผู
ศรั
ทธานั้
นเป
นพี่
น
องกั
น”
ท
านรอซู
ลได
เปรี
ยบเที
ยบลั
กษณะของผู
ศรั
ทธา เกี่
ยวกั
บความรั
กที่
มี
ต
อกั
น การให
ความ
ช
วยเหลื
อเกื้
อกู
ลกั
นว
า เหมื
อนกั
บร
างกายของคนเรา ถ
าหากอวั
ยวะส
วนหนึ่
งส
วนใดได
รั
บความ
เจ็
บปวด ก็
จะทํ
าให
ทั่
วเรื
อนร
างต
องพลอยเจ็
บปวดไปด
วย มุ
สลิ
มก็
เช
นเดี
ยวกั
น ถ
าหากผู
หนึ่
งผู
ใด
ได
รั
บความทุ
กข
ทุ
กคนก็
จะคอยให
ความช
วยเหลื
อ จะทอดทิ้
งกั
นไม
ได
อิ
สลามถื
อว
าทุ
กคนเป
นพี่
น
องกั
นทุ
กข
สุ
ขร
วมกั
น เหมื
อนคนคนเดี
ยวกั
น ดั
งที่
ท
านศาสดามู
ฮั
มมั
ด (ศ็
อล) ได
กล
าวไว
ความว
า “เปรี
ยบเที
ยบบรรดาผู
ศรั
ทธาในด
านความรั
ก ความ
เอ็
นดู
เมตตา และการให
ความช
วยเหลื
อเกื้
อกู
ลของพวกเราที่
มี
ต
อกั
นนั้
เหมื
อนกั
บร
างกาย กล
าวคื
อ เมื่
ออวั
ยวะส
วนใดส
วนหนึ่
งเจ็
บปวด อวั
ยวะ
ส
วนอื่
นๆของร
างกายก็
จะเจ็
บปวดไปด
วยทั่
วร
างกายพาให
นอนไม
หลั
เกิ
ดอาการไข
การให
ความช
วยเหลื
อกั
นระหว
างผู
ศรั
ทธานั้
น จะต
องดู
ให
ครบทุ
กๆด
าน ทุ
กๆเรื่
อง ไม
ว
าจะเป
นเรื่
องในทางโลกอาคิ
เราะห
หรื
อการดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตในดุ
นยา เปรี
ยบได
กั
บอาคาร ทุ
กชิ้
นส
วน
ของมั
นจะต
องยึ
ดเหนี่
ยวซึ่
งกั
นและกั
น จึ
งจะทํ
าให
อาคารนั้
นแข็
งแรงมั่
นคง ดั
งที่
ท
านศาสดามู
ฮั
มั
ด (ศ็
อล) ได
กล
าวไว
ว
ความว
า“ผู
ศรั
ทธาต
อผู
ศรั
ทธานั้
น (ต
องช
วยเหลื
อกั
น) เหมื
อนกั
อาคาร ซึ่
งบางส
วนของมั
นยึ
ดเหนี่
ยวกั
บอี
กบางส
วน แล
วท
านรอซู
ประสานมื
อเข
าด
วยกั
น”
ศาสนาอิ
สลามได
ให
ความสํ
าคั
ญกั
บสุ
ขภาวะ ไม
ว
าจะเป
นสุ
ขภาวะของแต
ละป
กเจกบุ
คคล
หรื
อเพื่
อนมนุ
ษย
ด
วยกั
น โดยเฉพาะบุ
คคลที่
อาศั
ยอยู
ในชุ
มชน สั
งคม องค
กร หรื
อสถาบั
นเดี
ยวกั
ต
องช
วยเหลื
อซึ่
งกั
นและกั
น การให
สวั
สดิ
การที่
ดี
ต
อกั
น ซุ
กรี
ย
นู
ร จงรั
กศั
กดิ์
(2554: 326-329) ได
อธิ
บายว
า ในหลั
กการของศาสนาอิ
สลามนั้
น การมอบสวั
สดิ
การและสั
งคมสงเคราะห
ที่
ดี
ให
กั
สั
งคมไม
ได
เป
นหน
าที่
เฉพาะของรั
ฐบาลฝ
ายเดี
ยวเท
านั้
น หากเป
นหน
าที่
ของประชาชนมุ
สลิ
มทุ
คนที่
ต
องลุ
กมาให
การปกครองคุ
มครองสั
งคมตามกํ
าลั
งความสามารถที่
มี
อยู
ทั้
งกํ
าลั
งใจ กํ
าลั
งกาย
หรื
อกํ
าลั
งทรั
พย
และอื่
นๆ โดยในอั
ลกุ
รอานมี
กฎหมายทางสั
งคมที่
เสริ
มสร
างสั
งคมให
รั
กใคร
จุ
เจื
อ และค้ํ
าจุ
นซึ่
งกั
นและกั
นราวกั
บว
าเป
นครอบครั
วเดี
ยวกั
น ดั
งที่
อั
ลลอฮฺ
ได
กล
าวติ
เตี
ยนผู
ไม
ใยดี
ต
อผู
ด
อยโอกาสในสั
งคม ดั
งคํ
าตรั
สของพระองค
ความว
า “เจ
าไม
สั
งเกตเห็
นคนที่
ไม
จริ
งใจกั
บศาสนาดอกหรื
นั่
นคื
อคนที่
ไม
เหลี
ยวแลเด็
กกํ
าพร
า และไม
สนั
บสนุ
นการบริ
จาคอาหาร
ให
แก
คนยากจน”
1...,17,18,19,20,21,22,23,24,25,26 28,29,30,31,32,33,34,35,36,37,...71
Powered by FlippingBook