st122 - page 18

12
รู
ปแบบของพฤติ
กรรมตลอดจนสิ่
งสร
างสรรค
ต
างๆ ที่
นํ
ามาจากหรื
ออยู
ในขอบข
ายของอั
ลกุ
รอาน
และซุ
นนะห
ของท
านศาสดามุ
ฮั
มมั
ด (ศ็
อล) ซึ่
งศาสดามุ
ฮั
มมั
ด (ศ็
อล) เป
นศาสนทู
ตของพระองค
และความศรั
ทธาประการนี้
แท
จริ
งคื
อตั
วกํ
าเนิ
ดพฤติ
กรรมของมุ
สลิ
มหรื
อวั
ฒนธรรมอิ
สลาม ฉะนั้
วั
ฒนธรรมอิ
สลามจากด
านองค
ประกอบส
วนอื่
นๆ คื
อ องค
การ องค
พิ
ธี
กรรม และองค
วั
ตถุ
จึ
จํ
าเป
นต
องสอดคล
องหรื
ออยู
บนครรลองของความศรั
ทธา ส
วน อารง สุ
ทธาศาสน
(2525 : 18)
กล
าวไว
ว
า "วั
ฒนธรรมอิ
สลาม" หมายถึ
ง การดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตหรื
อรู
ปแบบของพฤติ
กรรม (แนวปฏิ
บั
ติ
)
ของมุ
สลิ
มผู
นั
บถื
อศาสนาอิ
สลาม ซึ่
งล
วนมี
ส
วนผู
กพั
นกั
บข
อปฏิ
บั
ติ
ทางศาสนาอิ
สลามอย
างใกล
ชิ
เนื้
อหาของวั
ฒนธรรมอิ
สลามแบ
งได
เป
น 2ประเภทคื
อ วั
ฒนธรรมอิ
สลามประเภทที่
เปลี่
ยนแปลง
ไม
ได
ซึ่
งมี
การระบุ
แน
นอนตายตั
วไว
เป
นกฎข
อบั
งคั
บ เช
น การนมั
สการหรื
อการละหมาดวั
นละ 5
เวลา การถื
อศี
ลอด (ปอซอ) ในเดื
อนรอมฎอน การต
องไปจารึ
กแสวงบุ
ญที่
เรี
ยกว
า ฮั
จย
ณ นคร
เมกกะห
อย
างน
อย 1 ครั้
งในชี
วิ
ต หรื
อการที่
มุ
สลิ
มต
องรั
บประทานอาหารที่
"ฮาลาล" เท
านั้
น เป
ต
น และวั
ฒนธรรมอิ
สลามประเภทที่
เปลี่
ยนแปลงได
ซึ่
งมั
กจะระบุ
ไว
กว
าง ๆ หรื
อไม
ระบุ
เลยทั้
จากคั
มภี
ร
อั
ลกุ
รอ
านและวั
จนะของท
านศาสดา แต
ให
มุ
สลิ
มใช
วิ
จารณญาณเอาเองว
าสิ่
งไหนควร
ไม
ควรเลื
อกปฏิ
บั
ติ
เช
น การเลื
อกอาชี
พ การเลื
อกที่
พํ
านั
กอาศั
ย การเลื
อกระบบการศึ
กษา การ
เลื
อกลั
กษณะการให
ความช
วยเหลื
อ การเลื
อกสวมอาภรณ
สี
สรรพ
รู
ปแบบต
างๆที่
เหมาะกั
บภู
มิ
ประเทศและวิ
ถี
ชี
วิ
ตความเป
นท
องถิ่
น โดยจะต
องอยู
ในหลั
กการที่
ศาสนาอิ
สลามให
การยอมรั
เป
นต
รั
ตติ
ยา สาและ (2544: 65-68) ได
อธิ
บายอิ
ทธิ
พลของวั
ฒนธรรมมลายู
ดั้
งเดิ
มที่
เป
ตะกอนสะสมตั้
งแต
ยุ
คสมั
ยก
อนประวั
ติ
ศาสตร
เรื่
อยมาผ
านยุ
คนั
บถื
อลั
ทธิ
ภู
ตผี
พราหมณ
ฮิ
นดู
ไศว
นิ
กาย และพุ
ทธมหายานนั้
นสํ
าคั
ญมาก และได
ทิ้
งร
องรอยไว
ในวิ
ถี
ชี
วิ
ตของสั
งคมมลายู
มุ
สลิ
มสาม
จั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
(จชต.) นี้
อยู
ทั้
งๆ ที่
มี
วิ
ถี
ปฏิ
บั
ติ
บางอย
างนั้
นขั
ดกั
บหลั
กการศาสนาอิ
สลาม
ซึ่
งป
จจุ
บั
นนี้
มี
ผู
รู
ศาสนา (อิ
สลาม) พยายามลดทอนสิ่
งเหล
านี้
ออกจากวิ
ถี
ชี
วิ
ตเพื่
อให
มุ
สลิ
มอยู
อย
างมุ
สลิ
มที่
ถู
กต
องมากขึ้
น วั
ฒนธรรมมลายู
สามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
เป
นเอกลั
กษณ
เฉพาะตน
ซึ่
งวั
ฒนธรรมตะวั
นตกยั
งไม
สามารถเข
าไปครอบงํ
าได
มากเท
าไร สาเหตุ
หนึ่
งที่
สํ
าคั
ญคื
อ “ปตานี
ในอดี
ตเป
นราชอาณาจั
กรมลายู
เพี
ยงหนึ่
งเดี
ยวเท
านั้
นที่
ไม
เคยตกอยู
ภายใต
การครอบงํ
าของชาติ
ตะวั
นตก ในป
จจุ
บั
นนี้
ยั
งพบว
าสั
งคมดั้
งเดิ
มของป
ตตานี
ยะลา และนราธิ
วาส ยั
งสามารถรั
กษา
ความเป
นวั
ฒนธรรมมลายู
ของตนที่
ยึ
ดโยงอยู
กั
บหลั
กคํ
าสอนและแนวคิ
ดตามวั
ฒนธรรมอิ
สลามได
โดดเด
นทั้
งนี้
เนื่
องจากว
า “อิ
สลาม” นั้
นเป
นกุ
ญแจสํ
าคั
ญในการควบคุ
มวั
ฒนธรรมของป
จเจกชน
และสั
งคมไทยสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต
โดยรวม ในความหมายนี้
ผู
ที่
เป
นมุ
สลิ
มทุ
กคนจะต
องถื
ปฏิ
บั
ติ
ให
ถู
กต
องตามหลั
กการทุ
กประการ คื
อ ต
องไม
กระทํ
าในสิ่
งที่
อิ
สลามห
าม เช
น ไม
ผิ
ประเวณี
ไม
ดื่
มเหล
าและของมึ
นเมาทุ
กชนิ
ด ไม
รั
บประทานอาหารที่
ไม
มี
ฮาลาล เช
น เลื
อดสั
ตว
ทุ
ชนิ
ด สุ
กร และสั
ตว
ที่
ไม
ได
ฆ
าในนามของอั
ลลอฮฺ
(ซ.บ.) ไม
กิ
นดอกเบี้
ยและไม
นั
บถื
อหรื
อบู
ชาสิ่
งใด
เท
าเที
ยมอั
ลลอฮฺ
(ซ.บ.) ฯลฯ ส
วนสิ่
งที่
ต
องกระทํ
าหรื
อปฏิ
บั
ติ
เช
น ต
องปฏิ
ญาณตนว
า ไม
มี
พระ
เจ
าอื่
นใดนอกจากอั
ลลอฮฺ
(ซ.บ.) และมุ
ฮั
มหมั
ด (ศ็
อล) เป
นศาสนทู
ตของพระองค
ต
องละหมาด
วั
นละห
าเวลา ต
องถื
อศี
ลอดในเดื
อนรอมฎอน ต
องบริ
จาคทาน (ซะกาต) ต
องไปประกอบพิ
ธี
ฮั
จญ
1...,8,9,10,11,12,13,14,15,16,17 19,20,21,22,23,24,25,26,27,28,...71
Powered by FlippingBook