sp104 - page 12

บทที่
๑ บทนำ :: ๔
ด้
ำนคุ
ณธรรม จริ
ยธรรม ค่
ำนิ
ยม วั
ฒนธรรม และภู
มิ
ปั
ญญำไทยมำกขึ
น เพื
อเป็
นกำรปลู
กฝั
งทั
ศนคติ
และจิ
ตสำนึ
กที่
ดี
ในกำรอยู่
ร่
วมกั
นในสั
งคมและครู
ผู้
สอนต้
องปฏิ
บั
ติ
ตนเป็
นแบบอย่
ำงที่
ดี
ด้
วย นอกจำกนี้
ควรส่
งเสริ
มกำรพั
ฒนำในระดั
บชุ
มชน เพรำะชุ
มชนมี
บทบำทสำคั
ญในกำรควบคุ
มดู
แลสมำชิ
กของ
ชุ
มชนให้
ประพฤติ
ตนอยู
ในกฎระเบี
ยบ โดยกำรส่
งเสริ
มให้
เกิ
ดควำมร่
วมมื
อระหว่
ำงองค์
กรชุ
มชน ซึ่
หำกชุ
มชนมี
ควำมเข้
มแข็
งก็
จะสำมำรถแก้
ไขปั
ญหำสั
งคมได้
เช่
นกั
น (เสำวภำ ไพทยวั
ฒน์
, ๒๕๓๘:
๒๐๓) ดั
งนั
นสถำบั
นทำงสั
งคมจึ
งมี
ควำมสำคั
ญในกำรปลู
กฝั
งให้
ทุ
กคนเริ่
มใช้
วิ
จำรณญำณตั้
งแต่
ระดั
ครอบครั
ว บ้
ำน วั
ด โรงเรี
ยนและชุ
มชน โดยต้
องร่
วมกั
นรณรงค์
อบรมสั่
งสอนทำงจิ
ตใจ และปฏิ
บั
ติ
ตน
เป็
นแบบอย่
ำงที
ดี
จึ
งเป็
นกำรเสริ
มสร้
ำงค่
ำนิ
ยมที่
พึ
งประสงค์
ให้
เกิ
ดขึ้
นอย่
ำงมั่
นคงกั
บประชำกรทั้
ประเทศ
จะเห็
นได้
จำกแผนพั
ฒนำเศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชำติ
ฉบั
บที่
๘ (พ.ศ. ๒๕๒๕-๒๕๒๙) ที่
เน้
นโยบำยในกำรเร่
งรั
ดและฟื้
นฟู
สถำบั
นครอบครั
วและสถำบั
นกำรศึ
กษำให้
มี
บทบำทในกำรสร้
ำงค่
ำนิ
ยม
จริ
ยธรรม ควำมมี
ระเบี
ยบ และกำรรั
กษำหน้
ำที่
ของเด็
กและเยำวชนของชำติ
เพื่
อเร่
งสร้
ำงประชำกรให้
มี
คุ
ณภำพด้
วยควำมร่
วมมื
อจำกทุ
กฝ่
ำยแทนที่
จะเป็
นหน้
ำของฝ่
ำยใดฝ่
ำยหนึ่
นอกจำกนี้
แผนพั
ฒนำ
เศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชำติ
ฉบั
บปั
จจุ
บั
น ฉบั
บที่
๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ได้
กำหนดแนวทำงกำร
สร้
ำงภู
มิ
คุ
มกั
นของประเทศในด้
ำนค่
ำนิ
ยมและวั
ฒนธรรมที
ดี
งำม
โดยกำรเสริ
มสร้
ำงควำมเข้
มแข็
และพั
ฒนำบทบำทของสถำบั
นทำงสั
งคมให้
เป็
นสถำบั
นหลั
กในกำรพั
ฒนำควำมรู
ปลู
กฝั
งคุ
ณธรรม
จริ
ยธรรม ค่
ำนิ
ยมที
ดี
งำมให้
เอื
อต่
อกำรพั
ฒนำคน สร้
ำงค่
ำนิ
ยมให้
คนไทยภู
มิ
ใจในวั
ฒนธรรมไทย
และยอมรั
บควำมแตกต่
ำงของควำมหลำกหลำยทำงวั
ฒนธรรมเพื่
อลดปั
ญหำควำมขั
ดแย้
งทำง
ควำมคิ
ด และยึ
ดหลั
กปรั
ชญำของเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงมำประยุ
กต์
ใช้
กั
บชี
วิ
ตประจำวั
น (สำนั
กงำน
คณะกรรมกำรพั
ฒนำกำรเศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชำติ
, ๒๕๕๕: ออนไลน์
)
นอกจำกนี้
หน่
วยงำนต่
ำงๆ ทั้
งภำครั
ฐและภำคเอกชนได้
ตระหนั
กถึ
งปั
ญหำที่
เกิ
ดขึ้
นอย่
ำง
ต่
อเนื่
อง โดยสำนั
กงำนคณะกรรมกำรวั
ฒนธรรมแห่
งชำติ
ได้
เสนอแนวทำงสร้
ำงเสริ
มค่
ำนิ
ยมพื้
นฐำนไว้
๕ ประกำร ได้
แก่
๑) กำรพึ่
งตนเอง ขยั
นหมั่
นเพี
ยร และมี
ควำมรั
บผิ
ดชอบ ๒) กำรประหยั
ดและกำร
ออม ๓) ควำมมี
ระเบี
ยบวิ
นั
ย และเคำรพกฎหมำย ๔) กำรปฏิ
บั
ติ
ตำมคุ
ณธรรมของศำสนำ และ ๕)
ควำมรั
กชำติ
ศำสน์
กษั
ตริ
ย์
เพื่
อเป็
นแนวประพฤติ
และปฏิ
บั
ติ
ของคนในสั
งคม (ธวั
ชชั
ย ชั
ยจิ
รฉำยำกุ
ล,
๒๕๒๙: ๒) อี
กทั้
ง หลำยหน่
วยงำนยั
งได้
พยำยำมแก้
ปั
ญหำโดยกำรทำวิ
จั
ยเพื่
อหำสำเหตุ
ศึ
กษำข้
อมู
แนวโน้
มและผลกระทบต่
ำงๆ ที่
เกี่
ยวข้
องกั
บวั
ฒนธรรม ค่
ำนิ
ยมในสั
งคมไทย มี
กำรนำไปปรั
บใช้
ในกำร
แก้
ไขปั
ญหำ เช่
น ในกรณี
กำรดื่
มสุ
รำ กำรสู
บบุ
หรี่
ได้
มี
กำรจั
ดโครงกำรรณรงค์
ที่
เห็
นเป็
นรู
ปธรรม เช่
โครงกำรเลิ
กเหล้
ำเข้
ำพรรษำ เป็
นต้
น แต่
อย่
ำงไรก็
ตำมค่
ำนิ
ยมที่
สำคั
ญบำงประกำรก็
ยั
งไม่
ได้
เกิ
ดขึ้
นใน
จิ
ตใจของประชำกรอย่
ำงแท้
จริ
ง ดั
งนั้
นกระบวนกำรเสริ
มสร้
ำงค่
ำนิ
ยมจำเป็
นต้
องใช้
กลวิ
ธี
หลำกหลำย
แนวทำงประกอบกั
น ซึ่
งควรเป็
นกิ
จกรรมง่
ำยๆที่
สำมำรถนำไปใช้
ในชี
วิ
ตประจำวั
นได้
และมี
ควำมสั
มพั
นธ์
กั
บปั
ญหำต่
ำงๆที่
เกิ
ดขึ้
นที่
จะช่
วยแก้
ปั
ญหำทั้
งในระดั
บบุ
คคลสั
งคมและประเทศชำติ
ได้
หรื
อส่
งเสริ
มให้
มี
กำรปฏิ
บั
ติ
ตำมค่
ำนิ
ยมที่
พึ
งประสงค์
ตำมโอกำสต่
ำงๆ เช่
น กำรบำเพ็
ญประโยชน์
กำรเข้
ำวั
ดฟั
งเทศน์
กำรร่
วมกิ
จกรรมชุ
มนุ
ม เป็
นต้
น (สำนั
กงำนคณะกรรมกำรวั
ฒนธรรมแห่
งชำติ
, ๒๕๕๑: ๒๓) รวมทั้
งมี
1...,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11 13,14,15,16,17,18,19,20,21,22,...216
Powered by FlippingBook