sp104 - page 9

บทที่
๑ บทนำ :: ๑
บทที่
บทนำ
หลั
กกำรและควำมเป็
นมำ
คำว่
ำ “ค่
ำนิ
ยม” (Value) คื
อ สิ่
งที่
บุ
คคลหรื
อสั
งคมยึ
ดถื
อเป็
นเครื่
องช่
วยตั
ดสิ
นใจ และ
กำหนดกำรกระทำของตนเอง (รำชบั
ณฑิ
ต, ๒๕๕๕) ค่
ำนิ
ยมเป็
นตั
วกำหนดสำคั
ญที
มี
ควำมสั
มพั
นธ์
ต่
อพฤติ
กรรมของมนุ
ษย์
โดยตรงในฐำนะที่
เป็
นตั
วผลั
กดั
นให้
พฤติ
กรรมโน้
มเอี
ยงในทำงใดทำงหนึ่
(สุ
นทรี
โคมิ
น และสนิ
ท สมั
ครกำร, ๒๕๒๒: ๑) เนื
องจำกพฤติ
กรรมหรื
อกำรปฏิ
บั
ติ
ตั
วนั
นขึ
นอยู
กั
ค่
ำนิ
ยมที่
แต่
ละบุ
คคลยึ
ดถื
อมำจำกวั
ฒนธรรม สั
งคมแวดล้
อม และประสบกำรณ์
ของบุ
คคลนั้
นๆ เป็
หลั
กสำคั
ญ ฉะนั้
นค่
ำนิ
ยมจึ
งเป็
นสิ่
งที่
บุ
คคลปรำรถนำหรื
อสิ่
งที่
กลุ่
มบุ
คคลในสั
งคมให้
กำรยอมรั
บและ
ยื
ดถื
อเป็
นมำตรฐำนกำรรั
บรู้
และกำรตั
ดสิ
นใจในกำหนดพฤติ
กรรมของตนเอง เพื่
อให้
บรรลุ
เป้
ำหมำย
ของชี
วิ
ตหรื
อเป้
ำหมำยของสั
งคม
โดยทั่
วไปแล้
วค่
ำนิ
ยมมั
กจะส่
งผลดี
ต่
อสั
งคม เพรำะเป็
นสิ่
งที่
สมำชิ
กในสั
งคมให้
กำรยอมรั
บว่
ำเป็
ประโยชน์
ต่
อสั
งคมอย่
ำงแท้
จริ
ง เช่
น ควำมกตั
ญญู
ควำมขยั
นหมั่
นเพี
ยร ควำมมี
ระเบี
ยบวิ
นั
ย ควำม
สำมั
คคี
เป็
นต้
น อย่
ำงไรก็
ตำมค่
ำนิ
ยมบำงอย่
ำงก็
ไม่
ได้
ก่
อให้
เกิ
ดผลดี
เช่
น กำรขำดระเบี
ยบวิ
นั
ย ไร้
ควำมสำมั
คคี
นิ
ยมควำมหรู
หรำ นิ
ยมจั
ดเลี้
ยงสั
งสรรค์
เป็
นต้
น ซึ่
งค่
ำนิ
ยมเหล่
ำนี
จะแปรเปลี
ยนไปตำม
ควำมต้
องกำรของแต่
ละบุ
คคลเมื่
อเกิ
ดกำรเปลี่
ยนแปลงของสั
งคม (ณรงค์
เส็
งประชำ, ๒๕๓๑: ๗๓;
ทั
ศนี
ย์
ทองสว่
ำง, ๒๕๓๗: ๖๓) ในขณะที่
กำรเปลี่
ยนแปลงทำงสั
งคมก็
มี
ส่
วนทำให้
เกิ
ดค่
ำนิ
ยมใหม่
ๆ ได้
เช่
นกั
น หรื
ออำจกล่
ำวได้
ว่
ำค่
ำนิ
ยมเป็
นได้
ทั้
งเหตุ
และผลของกำรเปลี่
ยนแปลงของสั
งคม (สำนั
กงำน
คณะกรรมกำรวั
ฒนธรรมแห่
งชำติ
, ๒๕๕๑: ๑๘) ดั
งนั้
นค่
ำนิ
ยมจึ
งมี
ควำมสำคั
ญต่
อควำมเจริ
ญหรื
ควำมเสื่
อมของสั
งคม เพรำะหำกสั
งคมที
มี
ค่
ำนิ
ยมที
พึ
งประสงค์
จะทำให้
สั
งคมนั
นเจริ
ญก้
ำวหน้
ำ แต่
หำกสั
งคมใดที่
มี
ค่
ำนิ
ยมไม่
พึ
งประสงค์
ย่
อมเป็
นอุ
ปสรรคต่
อกำรพั
ฒนำประเทศ
นั
บตั
งแต่
ประเทศไทยเริ
มใช้
แผนพั
ฒนำเศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชำติ
เมื
อปี
พ.ศ. ๒๕๐๔
ทำให้
เกิ
ดกำรพั
ฒนำโครงสร้
ำงพื้
นฐำนทั้
งในเขตเมื
องและชนบทอย่
ำงทั่
วถึ
ง ซึ่
งเป็
นปั
จจั
ยที่
นำไปสู่
กำร
พั
ฒนำและกำรขยำยตั
วในระบบเศรษฐกิ
จและสั
งคมอย่
ำงต่
อเนื
อง โดยเฉพำะควำมเจริ
ญก้
ำวหน้
ภำยใต้
กระแสโลกำภิ
วั
ตน์
หรื
อโลกไร้
พรมแดน ทำให้
เกิ
ดกำรขยำยตั
วในระบบอุ
ตสำหกรรม ระบบทุ
นิ
ยม และควำมก้
ำวหน้
ำทำงวิ
ทยำศำสตร์
และเทคโนโลยี
(สถำบั
นบั
ณฑิ
ตบริ
หำรธุ
รกิ
จศศิ
นทร์
แห่
จุ
ฬำลงกรณ์
มหำวิ
ทยำลั
ย, ๒๕๕๓: ๗๐) แต่
ในท่
ำมกลำงควำมเปลี
ยนแปลงเหล่
ำนี
ยั
งพบว่
ำ ค่
ำนิ
ยม
ที
พึ
งประสงค์
ที่
สั
งคมไทยยั
งยึ
ดถื
อปฏิ
บั
ติ
ที่
สำคั
ญ เช่
ความจงรั
กภั
กดี
ต่
อสถาบั
นพระมหากษั
ตริ
ย์
เพรำะสถำบั
นพระมหำกษั
ตริ
ย์
มี
บทบำทในด้
ำนพิ
ธี
กำร ด้
ำนสั
งคม และด้
ำนชี
วิ
ตควำมเป็
นอยู
ของ
ประชำกร รวมทั
งยั
งเป็
นสถำบั
นสำคั
ญในกำรสร้
ำงควำมสำมั
คคี
และรั
กษำเอกรำชของชำติ
ไว้
ดั
งนั้
สถำบั
นพระมหำกษั
ตริ
ย์
จึ
งเป็
นศู
นย์
รวมจิ
ตใจของคนไทยทุ
กคน
การนั
บถื
อและให้
ความสาคั
ญต่
1,2,3,4,5,6,7,8 10,11,12,13,14,15,16,17,18,19,...216
Powered by FlippingBook