nt139 - page 26

1. เกิ
ดแรงจู
งใจ แรงจู
งใจมี
ผลให้
แต่
ละคนไวต่
อการสั
มผั
สสิ่
งเร้
าแตกต่
างกั
นเป็
นสิ่
งที่
จะกํ
าหนดทิ
ศทางและความเข้
ของพฤติ
กรรมและเป็
นสิ่
งจํ
าเป็
นเบื้
องต้
น สํ
าหรั
บการเรี
ยนรู้
2. กํ
าหนดเป้
าประสงค์
เมื่
อมี
แรงจู
งใจเกิ
ดขึ้
นแต่
ละบุ
คคลก็
จะกํ
าหนดเป้
าประสงค์
ที่
จะก่
อให้
เกิ
ดความพึ
งพอใจ บางครั้
อาจกํ
าหนดขึ้
น เพื่
อสนองความต้
องการทางสรี
ระ หรื
อบางครั้
งเพื่
อสนองความต้
องการทางสั
งคม
3. เกิ
ดความพร้
อม ความพร้
อมในการเรี
ยนของบุ
คคลนั้
นจะต้
องอยู่
กั
บองค์
ประกอบอื่
นๆ หลายประการ อาทิ
เช่
น ความ
เจริ
ญเติ
บโตของโครงสร้
างทางร่
างกาย การจู
งใจ ประสบการณ์
ด้
วย เป็
นต้
น เรื่
องของความพร้
อมนี้
นั
บว่
า เป็
นสิ่
งจํ
าเป็
มากที่
จะต้
องดี
ก่
อนที่
จะเกิ
ดการเรี
ยนรู้
4. มี
อุ
ปสรรค อุ
ปสรรคเป็
นสิ่
งขวางกั้
นระหว่
างพฤติ
กรรมที่
เกิ
ดจากแรงจู
งใจกั
บเป้
าประสงค์
การที่
ไม่
สามารถไปถึ
เป้
าหมายได้
จะก่
อให้
เกิ
ดความเครี
ยดและจะเกิ
ดความพยายามที่
จะหาวิ
ธี
การแก้
ปั
ญหาซึ่
งจะทํ
าให้
เกิ
ด การเรี
ยนรู้
ขึ้
5. การตอบสนอง เมื่
อบุ
คคลมี
แรงจู
งใจ มี
เป้
าประสงค์
เกิ
ดความพร้
อม และเผชิ
ญกั
บอุ
ปสรรคเข้
าก็
จะมี
พฤติ
กรรมต่
าง ๆ
เกิ
ดขึ้
นพฤติ
กรรมนั้
นอาจเริ่
มด้
วยการตั
ดสิ
นใจ เกิ
ดอาการตอบสนองที่
เหมาะสมทดลองทํ
าแล้
วปรั
บปรุ
งแก้
ไขการ
ตอบสนองนั้
6. การเสริ
มแรง หมายถึ
ง การได้
รางวั
ลหรื
อให้
สิ่
งเร้
าที่
ก่
อให้
เกิ
ดความพอใจ ซึ่
งปกติ
ผู้
เรี
ยนจะได้
รั
บ หลั
งจากที่
ตอบสนองแล้
7. การสรุ
ปความเหมื
อน หลั
งจากที่
ผู้
เรี
ยนสามารถตอบสนองหรื
อหาวิ
ธี
การที่
จะมุ่
งสู่
เป้
าประสงค์
ได้
แล้
ว ก็
แสดงว่
ผู้
เรี
ยนเกิ
ดความสามารถที่
จะสรุ
ปความเหมื
อนระหว่
างสถานการณ์
การเรี
ยนรู้
ที่
มี
มาก่
อน กั
บปั
ญหาหรื
อสถานการณ์
ที่
เพิ่
งจะพบใหม่
ซึ่
งเป็
นการขยายขอบเขตของพฤติ
กรรม การเรี
ยนรู้
ให้
กว้
างขวางออกไป
3.1 ชนิ
ดของการเรี
ยนรู้
แกนเย (Gane) ได้
แบ่
งการเรี
ยนรู้
ออกเป็
น 8 ประเภท นั
บตั้
งแต่
การเรี
ยนรู้
แบบพื้
นฐานไปจนถึ
งการเรี
ยนรู้
ที่
ซั
บซ้
อน ดั
งนี้
1. การเรี
ยนรู้
เครื่
องหมายหรื
อสั
ญลั
กษณ์
2. การเรี
ยนรู้
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างสิ่
งเร้
าและการตอบสนอง เป็
นการเรี
ยนรู้
ที่
ผู
เรี
ยนจะเชื่
อมโยง การ
ตอบสนองที่
เหมาะสมต่
อสิ่
งเร้
าต่
าง ๆ โดยที่
เมื่
อได้
ตอบสนองอย่
างถู
กต้
องหรื
อเหมาะสมก็
จะได้
รั
บรางวั
ล หรื
อตั
เสริ
มแรง หรื
อเกิ
ดความพอใจ หรื
ออยากตอบสนองเช่
นนั้
นซ้ํ
า ๆ การเรี
ยนรู้
แบบนี้
ต่
างจากการเรี
ยนรู้
แบบแรก เพราะ
การตอบสนอง การเรี
ยนรู้
ในลั
กษณะนี้
เกิ
ดขึ้
นด้
วยความจงใจ ส่
วนแบบแรกการตอบสนองเกิ
ดขึ้
นโดยไม่
จงใจและการ
เรี
ยนรู้
แบบนี้
จะเกี่
ยวข้
องกั
บกระบวนการทางสมองที่
สู
งกว่
า ลั
กษณะสํ
าคั
ญของการเรี
ยนรู้
ดั
งกล่
าวอาจสรุ
ปได้
เป็
นข้
อ ๆ
ดั
งนี้
1) การเรี
ยนรู้
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างสิ่
งเร้
า และการตอบสนองจะค่
อย ๆ พั
ฒนาขึ้
น ที
ละ
น้
อย
2) การตอบสนองของผู้
เรี
ยนที่
แสดงตอบโต้
สิ่
งเร้
านั้
นจะเป็
นการตอบสนองที่
ผู้
เรี
ยนมี
ความมั่
นใจมาก
ขึ้
นตามโอกาสที่
ได้
กระทํ
าซ้ํ
า ๆ
1...,16,17,18,19,20,21,22,23,24,25 27,28,29,30,31,32,33,34,35,36,...78
Powered by FlippingBook