sp104 - page 32

บทที่
๒ เอกสารและงานวิ
จั
ยที่
เกี่
ยวข้
อง
::
๒๔
สถาบั
นที
ที่
สอนคนให้
เป็
นคนดี
โดยเฉพาะในสั
งคมไทยนี้
เปิ
ดโอกาสให้
คนไทยเลื
อกนั
บถื
ศาสนาได้
ตามความศรั
ทธาของคน มิ
ได้
มี
ความรั
งเกี
ยจเดี
ยดฉั
นท์
พระมหากษั
ตริ
ย์
เป็
สถาบั
นสู
งสุ
ดที่
ทาให้
คนไทยมี
ที่
ยึ
ดเหนี่
ยวทางใจ เป็
นที่
เคารพเทิ
ดทู
นของคนไทยเป็
นอย่
าง
ยิ่
งพระมหากษั
ตริ
ย์
ไทยจึ
งทรงเป็
นมิ่
งขวั
ญ และที่
รั
กเคารพเทิ
ดทู
นของคนทั้
งชาติ
ฉะนั้
เราจึ
งควรจะรั
กเคารพยกย่
องเทิ
ดทู
นปกป้
องสถาบั
นพระมหากษั
ตริ
ย์
ไม่
ให้
ใครมาทาลาย
๔.๒ ประเภท
ด้
านนั
กวิ
ชาการไทยได้
มี
การจาแนกค่
านิ
ยมออกเป็
นประเภทต่
างๆ เช่
นกั
น โดยค่
านิ
ยมเป็
“ระบบความชอบพิ
เศษ” เพราะสิ่
งที่
เราชอบมาก เราจะให้
คุ
ณค่
ามากกว่
าสิ่
งที่
เราไม่
ชอบ ซึ่
งสามารถ
แบ่
งออกได้
เป็
น ๒ ประเภท คื
๑)
ค่
านิ
ยมเฉพาะตั
ว (Individual Value) คื
อ ค่
านิ
ยมส่
วนบุ
คคลเป็
นการตั
ดสิ
นใจเลื
อกในสิ่
หรื
อสถานการณ์
ที่
ตนต้
องการหรื
อพอใจนั้
นถื
อว่
าเป็
นค่
านิ
ยม (Value) ของบุ
คคล
๒)
ค่
านิ
ยมของสั
งคม (Social Value) มี
นั
กวิ
ชาการได้
แสดงทั
ศนะไว้
แตกต่
างกั
นดั
งนี้
ค่
านิ
ยมของสั
งคม คื
อ การรวมค่
านิ
ยมของคนส่
วนใหญ่
ในสั
งคม กล่
าวคื
อ สมาชิ
กของ
สั
งคมส่
วนใหญ่
นิ
ยมหรื
ออยากจะปฏิ
บั
ติ
ตนในสถานการณ์
นั้
นๆ อย่
างไร สิ่
งหรื
สถานการณ์
นั้
นๆ ก็
กลายเป็
นค่
านิ
ยมของสั
งคม ของสั
งคมนั้
น ยกตั
วอย่
างเช่
น ใน
สถานการณ์
ที่
ผั
วเมี
ยตบตี
กั
น สมาชิ
กส่
วนใหญ่
ของสั
งคมอยากสอดรู้
สอดเห็
นถึ
งความ
เดื
อดร้
อนของคนอื่
นจึ
งได้
ไปมุ
งดู
การมุ
งดู
ก็
เป็
นค่
านิ
ยมของสั
งคมนั้
น (สมบั
ติ
มหารศและ
คณะ, ๒๕๔๐)
ไม่
เพี
ยงเท่
านี้
“ค่
านิ
ยม” สามารถแบ่
งออกเป็
น ๒ ระดั
บ ดั
งนี้
คื
๑)
ค่
านิ
ยมในทางปฏิ
บั
ติ
(Pragmatic values) เป็
นหลั
กของศี
ลธรรมที่
ตั้
งอยู่
บนรากฐานที่
ว่
ตนในสั
งคมต้
องพึ่
งพาอาศั
ยกั
น ดั
งนั้
นค่
านิ
ยมจึ
งประณาม สิ่
งที่
ทาให้
เกิ
ดความแตกแยก
ในสั
งคม เช่
น การคดโกง การทาร้
ายกั
น และยกย่
องพฤติ
กรรมที่
เป็
นประโยชน์
ต่
ส่
วนรวม เช่
น ความขยั
นขั
นแข็
ง ความซื่
อสั
ตย์
๒)
ค่
านิ
ยมอุ
ดมคติ
(Ideal values) ซึ่
งมี
ความลึ
กซึ่
งกว่
าค่
านิ
ยมในทางปฏิ
บั
ติ
เช่
นศาสนา
คริ
สต์
สอนว่
าให้
คนรั
กเพื่
อนบ้
านเหมื
อนกั
บรั
กตนเอง ซึ่
งน้
อยคนที่
จะปฏิ
บั
ติ
ตามได้
แต่
ค่
านิ
ยมระดั
บนี้
ก็
มี
ความสาคั
ญในการทาให้
คนเห็
นแก่
ตั
วน้
อยลง
สาหรั
บศาสตราจารย์
ดร.สาโรช บั
วศรี
(๒๕๒๗) ซึ่
งเป็
นปู
ชนี
ยบุ
คคลในด้
านการศึ
กษาของไทย
ได้
จาแนกค่
านิ
ยมออกเป็
น ๒ ประเภทใหญ่
ๆ คื
อ ค่
านิ
ยมพื้
นฐานกั
บค่
านิ
ยมวิ
ชาชี
๑)
ค่
านิ
ยมพื้
นฐาน
เป็
นค่
านิ
ยมที่
ทุ
กคนในสั
งคมนั้
นๆ ต้
องยึ
ดถื
อปฏิ
บั
ติ
ร่
วมกั
นเพื่
อก่
อให้
เกิ
ความผาสุ
กเกิ
ดความเจริ
ญมั่
นคง สั
งคมได้
รั
บการพั
ฒนาให้
ก้
าวหน้
าอย่
างรวดเร็
ว เช่
น ทุ
คนในสั
งคมปฏิ
บั
ติ
ตามกฎระเบี
ยบ เคารพกฎหมาย มี
มารยาทดี
ต่
อกั
น ไม่
เบี
ยดเบี
ยนกั
ด้
วยคาพู
ดหรื
อการกระทาใดๆ สั
งคมก็
จะสงบสุ
ข บ้
านเมื
องก็
จะพั
ฒนาอย่
างรวดเร็
1...,22,23,24,25,26,27,28,29,30,31 33,34,35,36,37,38,39,40,41,42,...216
Powered by FlippingBook