sp104 - page 114

บทที่ ๖ สรุ ป อภิปรายและข้อเสนอแนะ :: ๑๐๖
ประเภทเอกสารที่ มีสัดส่ วนใกล้เคียงกัน คือ ประเภทวิ ชาชีพหรื องานศึกษาด้านค่านิยมที่ เกี่ยวกับกลุ่ ม
หรือบุคคลต่างๆ คิดเป็น ร้อยละ ๑๘.๙๗ หรื อ ๑๑๐ เอกสาร
ทั้งนี้จากข้อมู ลการจัดประเภทเอกสารเกี่ยวกับค่านิยมดังกล่าว พบว่า เอกสารประเภทศาสนา
เอกสารด้านเศรษฐกิจ เอกสารด้ านสุนทรียศาสตร์และเอกสารด้านการเมืองนั้น มีสัดส่ วนไม่ถึงร้อยละ
๑๐ ของเอกสารที่เกี่ยวกับค่านิยม โดยเอกสารเกี่ยวกับค่านิยมด้ านสุนทรี ยศาสตร์และเอกสารด้ าน
การเมือง มีเพียงร้อยละ ๕.๐๐ และ ร้อยละ ๔.๑๔ หรื อคิดเป็ นจานวน ๒๙ เอกสารและ ๒๔ เอกสาร
ตามลาดับ
ข้อมูลในส่ วนนี้อาจสะท้อนให้เห็ นถึงการขาดการศึกษาในส่วนที่เป็ นด้านสุ นทรียศาสตร์และ
ด้านการเมืองในงานศึกษาเกี่ยวกับค่านิยมของสังคมไทย
เมื่อนาข้อมูลที่จัดแบ่งตามประเภทของเอกสารของค่านิยมไทย มาจาแนกตาม ปี พ.ศ. ในช่วง
ระยะเวลาต่างๆ พบว่ า ในภาพรวมนั้นในช่ วงเวลาแต่ ละ ๑๐ ปี มีความแตกต่างกั นของประเภท
เอกสารเกี่ยวกับค่านิยมไทย
อภิปรายผล
ในทางการศึกษาวิ จัย ค้ นคว้า แนวคิ ดทฤษฎี เกี่ ยวกับสังคมไทยและการสั มภาษณ์ ของ
ผู้ทรงคุณวุ ฒิ ได้ พบมิติต่ างๆ ของค่านิยมไทย การไหล่บ่ าของวัฒนธรรมตะวันตก หลงลื มภูมิปั ญญา
ท้องถิ่น ค่านิยมพื้นฐาน และอุ ดมคติที่เป็นประโยชน์ ต่อผู้ คนในสังคม ในหลากหลายประเด็น โดยแบ่ง
การอภิปรายผลเป็ น ๓ ส่วน ได้แก่
๑. ความหมายของค่านิยมไทย
๒. สถานการณ์ ของค่านิยมไทย
๓. แนวทางการส่ งเสริมค่านิยมไทย
ความหมายของค่านิ ยมไทย
ในเบื้ องต้นที่เราจะเข้าใจความหมายของค่ านิยมไทย เราต้องพิจารณาศึกษาความหมายของ
ค่านิยมทางสังคมซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิ ได้อรรถาธิบาย ค่านิยมทางสังคมไว้อย่างลึกซึ้ งชัดเจนว่า ค่านิยมทาง
สังคม หมายถึ ง สิ่ งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมสั งคมยึ ดถือตรงกันว่ามีคุณค่ าสาหรับคนส่ วนใหญ่ยึดถือ
ปฏิบัติตาม ได้รั บการยอมรับและสามารถมีชีวิตอยู่ ร่วมกับสังคมได้อย่ างปกติสุ ข แต่ละสั งคมก็มีความ
เหมือนและแตกต่ างกัน ยกตัวอย่างเช่น สมัยที่ไปเรี ยนที่ประเทศสหรั ฐอเมริกา เวลาไปบ้านอาจารย์ใน
เวลาที่ไม่ ได้นัดหมาย ถือว่าเป็ นการผิดมารยาทอย่างยิ่ง ในขณะที่คนไทยมี ความยินดีที่มี แขกมาเยือน
ตรงกับค่านิยมที่ว่ าเป็นธรรมเนี ยมไทยโดยแท้แต่ โบราณ ใครมาถึงเรื่องชานต้องต้อนรั บ จึงเกิดการ
เรียนรู้ว่ าค่านิยมของเขาและเราต่างกัน