sp104 - page 120

บทที่
๖ สรุ
ป อภิ
ปรายและข้
อเสนอแนะ :: ๑๑๒
ถาวร” นั
กการเมื
องส่
วนใหญ่
จึ
งเป็
นนั
กแสดงที่
สนุ
กกั
บเล่
นละครกั
นไปก่
อนตามสถานการณ์
ที่
ควรจะ
เป็
นและผลประโยชน์
ที่
ควรจะได้
หรื
อควรจะเสี
ย ศั
ตรู
ในวั
นนี้
อาจจะเป็
นมิ
ตรในวั
นหน้
า หรื
อมิ
ตรใน
วั
นนี้
อาจจะเป็
นศั
ตรู
กั
นในวั
นข้
างหน้
าก็
ได้
ดั
งนั้
นจึ
งต้
องเล่
นละครกั
นไปตามบทบาทที่
ได้
รั
บมา
หมุ
นเวี
ยนเปลี่
ยนไปได้
เรื่
อยๆ ดั
งนั้
น จึ
ง “เล่
นเกม” กั
นไปก่
อน
งานวั
ดหรื
องานเทศกาลทางศาสนาก็
ยั
งอุ
ตส่
าห์
มี
“สวนสนุ
ก” มากมายหลายอย่
าง อาทิ
มี
ลิ
เก
หมอลา ประกวดนางงาม บางวั
ดนั้
น ถ้
าจะมี
พระธรรมเทศนา ญาติ
โยมก็
จะนิ
มนต์
แกมสั่
งพระว่
าท่
าน
ต้
องเทศน์
สนุ
กๆ หน่
อยนะ เดี๋
ยวคนจะไม่
ฟั
การชุ
มนุ
มประท้
วงทางการเมื
องก็
ยั
งมี
การเล่
นสนุ
กสนาน คนที่
ไปร่
วมชุ
มนุ
มกั
นมากๆ นั้
ส่
วนมากก็
ไปเพราะความสนุ
กที่
ได้
ฟั
งการอภิ
ปรายด้
วยถ้
อยคาเผ็
ดร้
อนรุ
นแรงเวลาเกิ
ดภั
ยพิ
บั
ติ
เช่
น ไฟ
ไหม้
ผู้
คนก็
พากั
นไปมุ
งดู
และพากั
นเสี
ยดายถ้
าดั
บไฟได้
เร็
วเกิ
นเวลา เห็
นคนตี
กั
น ทาร้
ายร่
างกายกั
น ก็
พากั
นส่
งเสี
ยงเชี
ยร์
ด้
วยความสนุ
ก แทนที่
เข้
าช่
วยห้
ามปราม
มนุ
ษย์
เป็
นสั
ตว์
ที่
มี
จิ
ตใจ เป็
นสั
ตว์
ที่
มี
เจตจานง คื
อ สั
ตว์
ที่
ทากรรมเป็
นการคิ
ดต้
องอาศั
เจตจานงทั้
งสิ้
น เพราะฉะนั้
นมนุ
ษย์
จึ
งเป็
นสั
ตว์
ที่
มี
สานึ
กในคุ
ณค่
า คุ
ณค่
าอะไรที่
เข้
ามากั
บความรู
ใน
ประสบการณ์
ปรากฏการณ์
ที่
เข้
ามาสู่
การรั
บรู้
ของมนุ
ษย์
จะมี
คุ
ณภาพหรื
อคุ
ณลั
กษณะพ่
วงเข้
ามาว่
มั
นทาให้
รู้
สึ
กสบายหรื
อไม่
สบาย เมื่
อสบายเรี
ยกว่
า สุ
ขเวทนา ถ้
าไม่
สบายเรี
ยก ทุ
กขเวทนา พอเกิ
ดการ
รั
บรู้
ประสบการณ์
ที่
สบาย กระบวนการทางจิ
ตของมนุ
ษย์
จะดิ
นหน้
า จากสบายก็
ชอบใจ ถ้
าไม่
สบายก็
ไม่
ชอบใจด้
วยเหตุ
นี้
การรั
บรู้
จึ
งมี
ความถู
กใจและไม่
ถู
กใจ และยิ
นดี
ยิ
นร้
ายมาประกอบติ
ดตลอดเวลา
และมนุ
ษย์
ก็
สั่
งสมความเคยชิ
นนี้
มาตั้
งแต่
เกิ
ด เพราะฉะนั้
นจึ
งลงร่
อง พอรั
บรู้
ประสบการณ์
ความรู้
สึ
กก็
พ่
วงมาด้
วย ว่
าสบายหรื
อไม่
สบายหรื
อเฉย แล้
วตามติ
ดมาทั
นที
ด้
วย ความถู
กใจไม่
ถู
กใจ ไม่
ชอบก็
ชั
ง ไม่
ยิ
นดี
ก็
ยิ
นร้
ายพอยิ
นดี
ยิ
นร้
าย ชอบใจไม่
ชอบใจ ชอบหรื
อชั
งแล้
วก็
คิ
ดตามแนวความรู้
สึ
กนั้
น ภายใต้
อิ
ทธิ
พลของความรู้
สึ
กนั้
น ถ้
าก็
คิ
ดอย่
างหนึ่
ง ไม่
ชอบก็
คิ
ดอย่
างหนึ่
ง เพราะประสบการจึ
งถู
กบิ
ดเบื
อน
เอนเอี
ยง และเกิ
ดความลาเอี
ยง ไม่
รั
บรู้
ข้
อมู
ลตามความจริ
ง (พระธรรมปิ
ฎก, ๒๕๔๑)
เราจะพบว่
าการมี
เจตจานงในการใช้
ชี
วิ
ตที่
เน้
นความสุ
ข สนุ
กสนาน ทาให้
ปั
จเจกบุ
คคลใน
สั
งคมดาเนิ
นชี
วิ
ต โดยยึ
ดความพอเพี
ยงเป็
นหลั
ก ส่
งผลต่
อบริ
บททางสั
งคมให้
สั
งคมไทยมี
ลั
กษณะที่
สบาย ไม่
เร่
งรี
บ และเราจะเห็
นว่
าดั
งกล่
าว ภาพลั
กษณ์
ของผู้
คนที่
มี
ค่
านิ
ยมรั
กสนุ
กมี
การเปลี่
ยนแปลง
น้
อยมาก ความรั
กสนุ
กนิ
ยมความสะดวกสบายเป็
นผลมาจากการสะสมประสบการณ์
หล่
อหลอม
ออกมาเป็
นการดาเนิ
นชี
วิ
ต งานศิ
ลปะ งานประเพณี
การจั
ดเลี้
ยงสั
งสรรค์
ใหญ่
โตรื่
นรมย์
ต่
างๆ คนไทย
มี
คุ
ณลั
กษณะที่
ไม่
ชอบความเคร่
งเครี
ยดจริ
งจั
ง กฎเกณฑ์
ระเบี
ยบที่
เคร่
งครั
ดต่
างๆ คุ
ณลั
กษณะดั
งกล่
าว
ที่
รั
บรู้
จนกลายเป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของคนไทยในเรื่
องค่
านิ
ยมรั
กสนุ
ก ไม่
จากั
ดเฉพาะบุ
คคล แต่
กระจายไปยั
วิ
ถี
การใช้
ชี
วิ
ตของชุ
มชนที่
มี
อยู่
รวมกั
1...,110,111,112,113,114,115,116,117,118,119 121,122,123,124,125,126,127,128,129,130,...216
Powered by FlippingBook