st116 - page 12

2
ปราบปรามของราชสํ
านั
กจี
นเข้
ายึ
ดเมื
องปั
ตตานี
3
ต่
อผู้
คนได้
บั
นทึ
กความทรงจํ
าเรื่
องราวของเขาผ่
าน
“ตํ
านานเจ้
าแม่
ลิ้
มกอเหนี่
ยว” ในฐานะของลิ้
มโต๊
ะเคี่
ยม พี่
ชายของเจ้
าแม่
ลิ้
มกอเหนี่
ยว
การศึ
กษากลุ่
มชาวจี
นในภาคใต้
ที่
ผ่
านมานั้
นมี
การจํ
าแนกกลุ่
มชาวจี
นตามสํ
าเนี
ยงภาษาพู
ดว่
มี
ฮกเกี๋
ยน แต้
จิ๋
ว กวางตุ้
ง แคะ (ฮากกา) ไหหลํ
า กวางตุ้
ง ซึ่
งชาวจี
นเหล่
านี้
ต่
างก็
มี
กิ
จกรรมการทํ
ากิ
ของกลุ่
มชนที่
มี
ความแตกต่
างกั
น เช่
น ชาวจี
นฮกเกี๋
ยนและชาวจี
นแคะ ทํ
าเหมื
องแร่
การประมงพวก
ไหหลํ
า การค้
าขายพวกแต้
จิ๋
ว ส่
วนการทํ
ากิ
จการสวนยางพาราเป็
นชาวจี
นแคะ รองลงมาเป็
นชาวจี
แต้
จิ๋
วและชาวจี
นฮกเกี๋
ยน
4
ทั้
งที่
เมื่
อกล่
าวถึ
งบทบาททํ
ากิ
จการสวนยางพาราของชาวจี
นในภาคใต้
กลุ่
มชาวจี
นที่
มี
ส่
วน
สํ
าคั
ญอย่
างมากต่
อการบุ
กเบิ
กและการขยายตั
วของสวนยางพาราในภาคใต้
5*
โดยเฉพาะบริ
เวณพื้
นที่
รอยต่
อระหว่
าง จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช กั
บ จั
งหวั
ดตรั
ง ในช่
วงหลั
งสงครามโลกครั้
งที่
1 และต่
อเนื่
อง
ออกไปสู่
พื้
นที่
จั
งหวั
ดสุ
ราษฎร์
จั
งหวั
ดชุ
มพร จั
งหวั
ดระนอง และ จั
งหวั
ดกระบี่
ในเวลาต่
อมา
6
คื
“ชาวจี
นฮกจิ
ว” (Hokchiu) หรื
อ ฟุ
โจว (Fuzuou) กลั
บไม่
ได้
รั
บการนํ
าเสนอเฉกเช่
นชาวจี
นกลุ่
มอื่
ชาวจี
นฮกจิ
วหรื
อฟุ
โจว เป็
นกลุ่
มชาวจี
นที่
เดิ
มอาศั
ยอยู่
ณ เมื
องฝู
โจว (Fuchou) มณฑลฝู
เจี้
ยน (Fujian) ประเทศจี
น ในช่
วงแรกชาวจี
นฮกจิ
วอพยพโยกย้
ายจากเมื
องฝู
โจวเข้
าไปทํ
าไร่
พริ
กไทย
สี
เสี
ยด ในมลายาของอั
งกฤษในขณะนั้
น ต่
อมาเมื่
อยางพารากลายเป็
นพื
ชเศรษฐกิ
จสํ
าคั
ญ อั
งกฤษจึ
ได้
นํ
ายางพาราจากอเมริ
กาใต้
เข้
ามาปลู
กเพื่
อการค้
าในมลายาราวกลางทศวรรษ 1890
7
ด้
วยเล็
ประโยชน์
ทางเศรษฐกิ
จ ต่
อจากนั้
นเป็
นต้
นมายางพาราก็
ได้
แพร่
หลายออกไปในดิ
นแดนอาณานิ
คมแห่
นี้
ของอั
งกฤษ ชาวจี
นฮกจิ
วซึ่
งเป็
นกลุ่
มคนที่
มี
ความสามารถในการทํ
าสวนเป็
นทุ
นเดิ
มเมื่
อได้
เข้
าเป็
แรงงานรั
บจ้
างในสวนยางพาราของนายทุ
นชาวอั
งกฤษและชาวจี
นในมลายาก็
ได้
สั่
งสมประสบการณ์
การทํ
าสวนยางพารา จนต่
อมาเมื่
อมี
การเปิ
ดใช้
ทางรถไฟสายใต้
ของประเทศไทยที่
เชื่
อมต่
อกั
บทาง
รถไฟของมลายา ประกอบกั
บนโยบายเปิ
ดเสรี
ในการบุ
กเบิ
กจั
บจองพื้
นที่
ทํ
ากิ
นของรั
ฐบาลไทยใน
3
จี
วิ
ลเลี่
ยม สกิ
นเนอร์
. (2548).
สั
งคมจี
นในประเทศไทย : ประวั
ติ
ศาสตร์
เชิ
งวิ
เคราะห์
. หน้
า 7.
4
วสั
นต์
ชี
วะสาธน์
. (2544).
รายงานการวิ
จั
ย มรดกวั
ฒนธรรมของชุ
มชนชาวจี
นในภาคใต้
:
กรณี
ศึ
กษาบ้
านเรื
อน
. หน้
า 1.
*
นอกเหนื
อจากบทบาทการขยายพื้
นที่
สวนยางพาราแล้
วชาวจี
นฮกจิ
วเป็
นเจ้
าของกิ
จการเกี่
ยวข้
องกั
ยางพาราในภาคใต้
ขนาดใหญ่
เช่
น ห้
างหุ้
นส่
วนจํ
ากั
ดมิ
ตรไทยนคร บริ
ษั
ทไทยฮั้
วยางพาราจํ
ากั
ด(มหาชน) บริ
หารงาน
โดยนายหลั
กชั
ย กิ
ตติ
พล
5
บริ
ษั
ททองไทยรั
บเบอร์
จํ
ากั
ด บริ
ษั
ทศรี
เจริ
ญรั
บเบอร์
จํ
ากั
ด บริ
ษั
ท ที
.เอส.รั
บเบอร์
จํ
ากั
อี
กทั้
งนายกสมาคมยางพาราไทยคนปั
จจุ
บั
น คื
อ นายหลั
กชั
ย กิ
ตติ
พล ยั
งเป็
นชาวไทยเชื้
อสายจี
นฮกจิ
6
ภู
วดล ทรงประเสริ
ฐ. (2548).
เพลิ
งทั
กษิ
ณเอกภาพ : ท่
ามกลางความแปลกแยกในภาคใต้
. หน้
า 49.
7
บาร์
บารา วั
ตสั
น อั
นดายา; ลี
โอนาร์
ด วาย. อั
นดายา. (2549).
ประวั
ติ
ศาสตร์
มาเลเซี
. หน้
า 367.
1...,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11 13,14,15,16,17,18,19,20,21,22,...185
Powered by FlippingBook