st116 - page 20

10
สมาชิ
ดของชุ
มชนท้
องถิ่
นนั้
นต่
างก็
มี
ความสํ
านึ
กซึ่
งเป็
นอั
นหนึ่
งอั
นเดี
ยวกั
นทางวั
ฒนธรรมสั
งคมและ
การเมื
อง...(สุ
เทพ สุ
นทรเภสั
ช,2522)
การลงไปศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
ของสั
งคมท้
องถิ่
นที่
มี
มวลชนเป็
นตั
วเคลื่
อนไหว คื
อประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
น หรื
ออี
กนั
ยหนึ่
ง ประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
น คื
อกระบวนการศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
สั
งคมที่
เน้
มวลชน
เป็
นประวั
ติ
ศาสที่
คนภายในท้
องถิ่
นเชื่
อว่
าเป็
นจริ
งซึ่
งในที่
นี้
จะใช้
คํ
าว่
า “ประวั
ติ
ศาสตร์
จากภายใน”
(History from Inside) ประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นเป็
นประวั
ติ
ศาสตร์
ที่
มี
ชี
วิ
ตและ Dynamic เสมอ
ประวั
ติ
ศาสตร์
จากภายในมิ
ได้
คาดหมายหาข้
อเท็
จจริ
งจากข้
อมู
ล แต่
เป็
นประวั
ติ
ศาสตร์
ที่
ถู
กเชื่
อว่
เป็
นเช่
นนั้
น ประวั
ติ
ศาสตร์
แบบนี้
จึ
งเกิ
ดจากแรงสะท้
อนทางความคิ
ดองคนในสั
งคม ซึ่
งปรากฏในรู
ของตํ
านาน นิ
ทานพื้
นบ้
าน เรื่
องปรั
มปราแล้
วแต่
อดี
ตและโดยการสั
มภาษณ์
สื
บสวนในปั
จจุ
บั
น...(ธิ
ดา
สาระยา,2529)
สํ
าหรั
บการศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
น การใช้
ข้
อมู
ลท้
องถิ่
นก็
ยั
งมี
น้
อยเกิ
นไป ยั
งเป็
นเรื่
อง
การศึ
กษาการปกครองจากราชธานี
เป็
นส่
วนใหญ่
การศึ
กษาวั
ฒนธรรมจากโบราณคดี
ประวั
ติ
ศาสตร์
และวรรณกรรมไม่
ค่
อยจะได้
โยงวั
ฒนธรรมกั
บวิ
วั
ฒนาการของระบบเศรษฐกิ
จ...ไม่
มี
การตี
ความและ
ไม่
มี
คํ
าอธิ
บายว่
าเกี่
ยวพั
นกั
บชี
วิ
ตของผู้
คนในท้
องถิ่
นอย่
างไรไม่
มี
การใช้
ประโยชน์
ข้
อมู
ลเพื่
ออธิ
บาย
พื้
นฐานชี
วิ
ตของชุ
มชนที่
ทํ
าให้
เกิ
ดวั
ฒนธรรมเหล่
านั้
นขึ้
นมา การศึ
กษายั
งคงเน้
นที่
เมื
องใหญ่
ๆ หรื
บริ
เวณใกล้
เคี
ยงแต่
ขาดการศึ
กษาท้
องถิ่
นที่
ห่
างไกลออกไปโดยเฉพาะเห็
นได้
ชั
ดมากกว่
าขาดการศึ
กษา
ที่
เป็
นชนชาติ
ส่
วนน้
อย (ฉั
ตรทิ
พย์
นาถสุ
ภา,2527)
เมื่
อกล่
าวถึ
งการศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นความหมายที่
เป็
นที่
เข้
าใจกั
น ก็
คื
อ การศึ
กษา
ประวั
ติ
ศาสตร์
ของสั
งคมหรื
อชุ
มชนที่
อยู่
นอกแวดวงศู
นย์
อํ
านาจทางการเมื
องของรั
สั
งคมหรื
อชุ
มชนที่
อยู่
นอกศู
นย์
อํ
านาจทางการเมื
องของรั
ฐในที่
นี้
ไม่
ได้
จํ
ากั
ดความหมายอยู่
แต่
เฉพาะเชิ
งกายภาพเท่
านั้
นจริ
งอยู่
ประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นส่
วนใหญ่
นิ
ยมศึ
กษากั
นมั
กเป็
นประวั
ติ
ศาสตร์
ของเมื
อง หมู่
บ้
านหรื
อชนกลุ่
มน้
อยที่
อยู่
นอกเขตราชธานี
หรื
อเมื
องหลวงของรั
ฐออกไป แต่
สั
งคมหรื
ชุ
มชนที่
อยู่
นอกศู
นย์
อํ
านาจทางการเมื
องของรั
ฐในที่
นี้
ยั
งมี
ความหมายเชิ
งวั
ฒนธรรม กล่
าวคื
อ หมาย
รวมไปถึ
งประวั
ติ
ศาสตร์
ของสั
งคมหรื
อชุ
มชนที่
อยู่
นอกศู
นย์
อํ
านาจทางการเมื
องของรั
ฐแต่
ในเชิ
วั
ฒนธรรมแล้
วไม่
ได้
มี
ส่
วนร่
วมในการใช้
อํ
านาจรั
ฐแต่
อย่
างไร...
ในขณะที่
เนื้
อหาของประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นนั้
นมี
ขอบเขตค่
อนข้
างแน่
นอนคื
อเป็
นการศึ
กษา
ประวั
ติ
ศาสตร์
ของสั
งคมหรื
อชุ
มชน...ขอบเขตของหน่
วยที่
ใช้
ในการศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นกลั
บมี
ลั
กษณะยื
ดหยุ่
นสู
ง เพราะคํ
าว่
าท้
องถิ่
นไม่
ได้
มี
ความหมายของขนาดทางพื้
นที่
แน่
นอนสม่ํ
าเสมอ ใน
ลั
กษณะเช่
นนี้
ประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นแตกต่
างไปจากประวั
ติ
ศาสตร์
ของรั
ฐ เพราะหน่
วยที่
ใช้
ใน
การศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
ของรั
ฐมี
ความแน่
นอนตายตั
วที่
ถู
กกํ
าหนดขึ้
นมากจากอํ
านาจทางการเมื
อง
1...,10,11,12,13,14,15,16,17,18,19 21,22,23,24,25,26,27,28,29,30,...185
Powered by FlippingBook