st116 - page 18

8
เพิ่
มขึ้
นภายหลั
งการสิ้
นสุ
ดลงของสมั
ยสงครามโลกครั้
งที่
2 เริ่
มขึ้
นที่
ประเทศอั
งกฤษที่
ได้
มี
การจั
ดตั้
สมาคมจั
ดประชุ
มสั
มมนาเกี่
ยวกั
บประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นใน ค.ศ.1948 ในปี
เดี
ยวกั
นนี้
ยั
งได้
มี
การตั้
ภาควิ
ชาประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
น (อั
งกฤษ) ขึ้
น ณ มหาวิ
ทยาเลสเตอร์
(Leicester) โดยการนํ
าของ
ศาสตราจารย์
ฮอคส์
กิ
น (W.G. Hoskins)
ตั้
งแต่
ประมาณศตวรรษที่
19 เป็
นต้
นมาในประเทศสหรั
ฐอเมริ
กาได้
เกิ
ดกระแสการศึ
กษา
ประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นขึ้
นเช่
นกั
1
สํ
าหรั
บในประเทศไทยเองการศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นเริ่
มต้
นขึ้
พร้
อมกั
นกั
บการเกิ
ดขึ้
นของ "“รั
ฐชาติ
สมั
ยใหม่
” (The Nationstate) ในรั
ชสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระ
จุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ที่
ต้
องการปฏิ
รู
ปประเทศครั้
งใหญ่
เพื่
อสร้
างรั
ฐ (สมั
ยใหม่
) ตามแบบตะวั
นตก
2
อั
นเป็
นการป้
องกั
นภั
ยรุ
กรานจากการล่
าอาณานิ
คมของประเทศมหาอํ
านาจตะวั
นตกในห้
วงเวลานั้
การสร้
างรั
ฐชาติ
สมั
ยใหม่
ที่
มี
ความเป็
นเอกภาพของรั
ฐภายใต้
รั
ฐบาลส่
วนกลางนั้
น ทํ
าให้
การศึ
กษาและทํ
าความเข้
าใจกั
บประวั
ติ
ศาสตร์
ของแต่
ละภู
มิ
ภาคท้
องถิ่
นจึ
งนั
บได้
ว่
ามี
ส่
วนสํ
าคั
ญอย่
าง
มาก ด้
วยการทํ
างานของเสนาบดี
กระทรวงมหาดไทยในขณะนั้
น คื
อ สมเด็
จฯกรมพระยาดํ
ารงราชานุ
ภาพ ได้
ทํ
าให้
มี
การรวบรวมและชํ
าระเอกสารทางประวั
ติ
ศาสตร์
จากภู
มิ
ภาคครั้
งใหญ่
นอกจากนั้
นแล้
งานเขี
ยนชิ้
นสํ
าคั
ญหนึ่
งของสมเด็
จฯกรมพระยาดํ
ารงราชานุ
ภาพ อย่
าง “นิ
ทานโบราณคดี
” ซึ่
งเป็
การรวบรวมเรื่
องราวต่
างๆนานาที่
สมเด็
จฯกรมฯทรงได้
พบพานระหว่
างการออกเดิ
นทางเพื่
อสํ
ารวจ
ท้
องถิ่
น ก็
เป็
นเอกสารสํ
าคั
ญชิ้
นหนึ่
งสะท้
อนความสนใจในเรื่
องราวของท้
องถิ่
นและประวั
ติ
ศาสตร์
ของ
ท้
องถิ่
นในแต่
ละภู
มิ
ภาค ทว่
าการศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
เช่
นนั้
นก็
แตกต่
างจากการศึ
กษาประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
องถิ่
นในปั
จจุ
บั
นอย่
างมาก ภายใต้
อุ
ดมการณ์
ของการศึ
กษาตั้
งอยู่
บนฐานความคิ
ดแตกต่
างกั
นอย่
าง
1
ยงยุ
ทธ ชู
แว่
น. (2551).
เล่
มเดิ
. หน้
า 27.
2
รู
ปแบบของรั
ฐในสมั
ยก่
อนเข้
าสู่
รั
ฐสมั
ยใหม่
ในรั
ชสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
วนั้
น รั
ฐใน
เอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
เป็
นไปในรู
ปแบบของรั
ฐจารี
ตที่
มี
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างรั
ฐเล็
กกั
บรั
ฐใหญ่
ที่
มี
ความสั
มพั
นธ์
ไม่
แน่
นอนตายตั
ว โดยรั
ฐเล็
กหนึ่
งรั
ฐอาจยอมรั
บในอํ
านาจของรั
ฐใหญ่
ที่
มากกว่
าหนึ่
งรั
ฐก็
เป็
นได้
และหากวั
นใดที่
รั
ฐใหญ่
อ่
อนแอลงรั
ฐเล็
กที่
เคยขึ้
นอยู่
ด้
วยกั
น ก็
อาจแยกตั
วไปเป็
นอิ
สระหรื
อหั
นไปขึ้
นกั
บรั
ฐใหญ่
อื่
นก็
ได้
ด้
วยรู
ปแบบ
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างรั
ฐที่
มี
ความบางเบาในเส้
นของความสั
มพั
นธ์
เช่
นนี้
ทํ
าให้
รั
ฐใหญ่
เป็
นศู
นย์
อํ
านาจจึ
งไม่
อาจคง
อํ
านาจเหนื
อดิ
นแดนในอาณาเขตได้
อย่
างแน่
นอนและตายตั
วเสมอไป ซึ่
งในประเด็
นเรื่
องของอาณาเขตและ
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างรั
ฐเช่
นนี้
นั
บเป็
นความแตกต่
างกั
นเห็
นได้
ชั
ดเจนระหว่
าง “รั
ฐก่
อนสมั
ยใหม่
” กั
บ “รั
ฐสมั
ยใหม่
เนื่
องด้
วยรั
ฐสมั
ยใหม่
นั้
นจํ
าต้
องมี
ขอบเขตของรั
ฐที่
มี
ความแน่
นอนตายตั
ว และมี
รั
ฐบาลกลางที่
มี
อํ
านาจในการ
ปกครองรั
ฐทั้
งหมดในเขตแดน (โปรดดู
รายละเอี
ยด ธงชั
ย วิ
นิ
ตจจะกู
ล. (2554).
“เสี
ยดิ
นแดน” เป็
นประวั
ติ
ศาสตร์
หลอกไพร่
ไปตายแทน
. http://
)
1...,8,9,10,11,12,13,14,15,16,17 19,20,21,22,23,24,25,26,27,28,...185
Powered by FlippingBook