nt141 - page 12

4
ที่
วิ
ถี
ชี
วิ
ตและชาติ
พั
นธ์
ที่
น่
าศึ
กษา อี
กทั
งเป็
นชุ
มชนที่
มี
แหล่
งท่
องเที่
ยวที่
สํ
าคั
ญอยู
ใกล้
คื
อถํ
าลอด
และถํ
าผี
แมนจากการที่
เป็
นชุ
มชนในแหล่
งท่
องเที่
ยวนี
ส่
งผลให้
วิ
ถี
ชี
วิ
ตความเป็
นอยู
เปลี่
ยนแปลงไป
จากบทสั
มภาษณ์
ของนายปานจุ่
งฐิ
ติ
กุ
ลภั
ทรวงศ์
ชาวบ้
านในชุ
มชนแสดงให้
เห็
นถึ
งการเปลี่
ยนแปลง
ในการประกอบอาชี
พเกษตรกรรมสู
อาชี
พทางการท่
องเที่
ยวอย่
างชั
ดเจนว่
า ในระยะแรกวิ
ถี
ชี
วิ
ตของ
ชาวบ้
านถํ
าลอดยั
งคงอาชี
พการเพาะปลู
กและเลี
ยงสั
ตว์
เป็
นอาชี
พหลั
กจนกระทั่
งปี
2524 – 2525 เริ
มี
นั
กท่
องเที่
ยวเข้
ามาชมความงามของถํ
าลอดที่
มี
ลั
กษณะขนาดใหญ่
มี
ธารนํ
าไหลผ่
านภายในแยก
ย่
อยเป็
นห้
องโถงหลายห้
องมี
ทั
งความงามที่
เป็
นธรรมชาติ
และมี
แหล่
งโบราณคดี
ในวั
ฒนธรรมโลง
ไม้
ของคนสมั
ยก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
ตั
งแต่
นั
นเป็
นต้
นมา ชาวบ้
านได้
เริ่
มใช้
ประโยชน์
จากการเป็
แหล่
งท่
องเที่
ยวโดยให้
บริ
การนํ
าเที่
ยวและถ่
อแพภายในถํ
า (อ้
างถึ
งในอุ
ดมลั
กษณ์
ฮุ่
นตระกู
ล, 2548)
การเปลี่
ยนแปลงทํ
าให้
เกิ
ดวั
ฒนธรรมที่
สวนทางกั
บเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงส่
งผลให้
การท่
องเที่
ยว
เกิ
ดความเสื่
อมโทรมในทุ
กๆ ด้
านทั
ง แหล่
งท่
องเที่
ยว ชุ
มชนพฤติ
กรรมนั
กท่
องเที่
ยวทรั
พยากร
ทางการท่
องเที่
ยว เป็
นต้
นทํ
าให้
การสร้
างรู
ปแบบการจั
ดการการท่
องเที่
ยวทางวั
ฒนธรรมให้
ยั
งยื
ตามแนวพระราชดํ
าริ
เศรษฐกิ
จพอเพี
ยง โดยให้
ชุ
มชนมี
ส่
วนร่
วมของชุ
มชนไทยใหญ่
บ้
านถํ
าลอดนั
จึ
งเป็
นสิ่
งที่
ท้
าทายอย่
างยิ่
ง เพราะปรั
ชญาของเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงเป็
นวั
ฒนธรรมที่
ทวนกระแสที่
มี
ค่
านิ
ยมแนวคิ
ดและเป้
าหมายที่
แตกต่
างออกไปจากค่
านิ
ยมแบบบริ
โภคนิ
ยมและวั
ฒนธรรมทุ
นนิ
ยมที่
เกิ
ดขึ
นในสั
งคมปั
จจุ
บั
นซึ
งในปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงพู
ดถึ
งผลกระทบจากการเปลี่
ยนแปลง 4
ด้
านด้
วยกั
นหนึ
ง ด้
านวั
ตถุ
สอง ด้
านสั
งคมสาม ด้
านสิ่
งแวดล้
อม และสี่
ด้
านวั
ฒนธรรม แล้
ปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงนี
เตื
อนให้
สร้
างภู
มิ
คุ
มกั
นเพื่
อรองรั
บการเปลี่
ยนแปลงโดยภู
มิ
คุ
มกั
นก็
จะต้
องสร้
างทั
ง 4ด้
าน (เกษม วั
ฒนชั
ย, 2551) และยั
งไม่
แน่
ชั
ดว่
า รู
ปแบบการจั
ดการการท่
องเที่
ยว
ทางวั
ฒนธรรมแบบยั่
งยื
นตามทฤษฎี
เศรษฐกิ
จพอเพี
ยงจะมี
ลั
กษณะใดที่
เหมาะสมกั
บชุ
มชน และ
มี
แนวทางใดที่
จะช่
วยสนั
บสนุ
น ให้
เกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงอย่
างมี
ประสิ
ทธิ
ภาพตามแนวพระราชดํ
าริ
ปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงในการจั
ดการท่
องเที่
ยวทางวั
ฒนธรรมให้
เกิ
ดความยั่
งยื
น ในกระแส
โครงสร้
างในปั
จจุ
บั
นซึ
งอยู
ในช่
วงที่
การท่
องเที่
ยวถื
อเป็
นอุ
ตสาหกรรมที่
ช่
วยสร้
างรายได้
ให้
ประเทศ
อย่
างมาก เพื่
อการจั
ดการให้
เกิ
ดความยั่
งยื
นและความเสี
ยหายน้
อยที่
สุ
จากปั
ญหาข้
างต้
นผู
วิ
จั
ยซึ
งมี
ความสนใจในแนวพระราชดํ
าริ
ปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงและ
ตระหนั
กถึ
งความอ่
อนไหวของการท่
องเที่
ยวทางวั
ฒนธรรม จึ
งได้
เกิ
ดแนวคิ
ดในการสร้
างรู
ปแบบ
การจั
ดการการท่
องเที่
ยวทางวั
ฒนธรรมให้
ยั่
งยื
นตามแนวพระราชดํ
าริ
ปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงโดย
1...,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11 13,14,15,16,17,18,19,20,21,22,...202
Powered by FlippingBook