99
ฉุ
น กลิ่
นหอมเย็
น รสซ่
า ผั
กกลุ่
มนี
้
ช่
วยขั
บลมลดอาการเกร็
งของกระเพาะอาหารและลํ
าไส้
และ
วิ
ธี
การกิ
นผั
กหลายๆชนิ
ดในรายการอาหารเดี
ยวแต่
สามารถกิ
นผั
กได้
ถึ
ง 26ชนิ
ดได้
แก่
แกงแคซึ
่
ง
เป็
นเสมื
อนเป็
นแกงผั
กรวมของคนของคนเชี
ยงรายที่
มี
รสชาติ
อร่
อยถู
กปากถู
กใจคนทั่
วไปนั
บเป็
น
ภู
มิ
ปั
ญญาของบรรพบุ
รุ
ษได้
คิ
ดค้
นและถ่
ายทอดไว้
ให้
คนรุ่
นหลั
ง
ประเภทสั
ตว์
ที่
เป็
นแมลงและมดมี
อยู
่
หลายชนิ
ดลั
กษณะเด่
นของแมลงเหล่
านี
้
คื
อรสชาติ
มั
นมี
กลิ่
นเฉพาะตั
วมี
ตามฤดู
กาลให้
กิ
นสดๆมั
กเกิ
ดในดิ
นกิ
นได้
ทั
้
งตั
วอ่
อนและตั
วโตเต็
มที่
เช่
น
แมงมั
นส่
วนที่
อาศั
ยเกิ
ดตามต้
นไม้
เช่
น ไข่
มดส้
ม (ไข่
มดแดง) ตั
วอ่
อนผึ
้
ง รสชาติ
หอมมั
นตั
วอ่
อน
ต่
อส่
วนแมลงที่
เกิ
ดในทุ่
งนาช่
วงเก็
บเกี่
ยวข้
าวเสร็
จแล้
ว เช่
นแมงจอน (แมงกะชอน) แมงดานํ
ามาตํ
า
นํ
้
าพริ
ก จะมี
รสมั
นกลิ่
นหอมเฉพาะตั
วแมลงที่
อาศั
ยเกิ
ดในต้
นไม้
ไผ่
คื
อ
แน้
และแมลงที่
อาศั
ยเกิ
ด
ตามทุ่
งนา เช่
นแมงเนี่
ยง แมงหนิ
้
วประเภทสั
ตว์
สั
ตว์
เลื
้
อยคลาน เช่
นแลนนํ
ามาแกงอ่
อมปั
จจุ
บั
น
หากิ
นได้
ยากราคาแพง งู
สิ
งนํ
ามายํ
าคล้
ายยํ
าไก่
ปั
จจุ
บั
นหากิ
นได้
ยากอี
กเช่
นกั
น ไม่
มี
การซื
้
อขาย
ประเภทสั
ตว์
ปี
ก เช่
นนกคุ
้
ม เป็
นนกที่
อาศั
ยอยู
่
ตามชายป่
านํ
ามาทํ
าแกงแคแกงอ่
อมปั
จจุ
บั
นหากิ
น
ได้
ยากประเภทสั
ตว์
อื่
น เช่
นตุ่
น เป็
นสั
ตว์
ที่
ขุ
ดรู
อาศั
ยอยู
่
ในดิ
นมี
รู
ปร่
างลั
กษณะคล้
ายหนู
วิ
ธี
กิ
นคื
อ
นํ
ามาย่
างแกงแคแกงอ่
อมปั
จจุ
บั
นไม่
ค่
อยมี
วางขายในตลาดแต่
ชาวบ้
านยั
งขุ
ดกิ
นกั
นอยู
่
ประเภทการ
ถนอมอาหารจากสั
ตว์
นํ
้
า เช่
นปลาจ่
อมปลาส้
มปลาร้
า
ประเภทเห็
ด เป็
นอาหารป่
า เพราะเกิ
ดขึ
้
นเองโดยธรรมชาติ
ในป่
าที่
มี
สภาพแวดล้
อมที่
เหมาะสม เกิ
ดในฤดู
ฝนพื
้
นดิ
นชื
้
น ได้
แก่
เห็
ดถอบ เห็
ดห้
า เห็
ดปลวกหรื
อเห็
ดโคนส่
วนที่
เกิ
ดตาม
ขอนไม้
ผุ
เช่
น เห็
ดตามอด เห็
ดลมที่
ปั
จจุ
บั
นเกษตรกรสามารถเพาะขึ
้
นเองได้
เห็
ดป่
าชนิ
ดอื่
นๆ เช่
น
เห็
ดหล่
ม เห็
ดแดง เห็
ดไข่
ห่
านชาวบ้
านจะออกไปเก็
บตามดอยตามป่
ามาทํ
าความสะอาดวางขายตาม
ข้
างถนนหรื
อในตลาดวิ
ธี
ปรุ
งเป็
นอาหารคื
อแกงนึ
่
งตํ
านํ
้
าพริ
กโดยชาวบ้
านจะมี
วิ
ธี
ดู
ว่
าเห็
ดชนิ
ดใด
กิ
นได้
ชนิ
ดใดกิ
นไม่
ได้
ดั
งนั
้
น อาหารของคนเชี
ยงรายจึ
งอยู่
บนพื
้
นฐานของความโน้
มเอี
ยงของอุ
ปนิ
สั
ย ที
่
ติ
ดตั
ว
มาตั
้
งแต่
เกิ
ดเป็
นสิ
่
งที
่
แฝงฝั
งอยู่
ภายใต้
จิ
ตสํ
านึ
ก ผ่
านประสบการณ์
ในชี
วิ
ตมาว่
าคนเชี
ยงรายต้
อง
กิ
นข้
าวนึ
่
งได้
กิ
นเป็
น อาหารที
่
กิ
นกั
บข้
าวนึ
่
งได้
อร่
อยต้
องเป็
นอาหารพื้
นเมื
องที
่
มี
ลั
กษณะแห้
ง
ข้
น ขลุ
กขลิ
ก และนํ
้
าตามลํ
าดั
บ รสชาติ
ต้
องออกเค็
ม ได้
ความหวานจากวั
ตถุ
ดิ
บที
่
ใช้
ปรุ
ง เช่
น
เนื
้
อและผั
ก ถึ
งแม้
ความเชื
่
อเรื
่
องอาหารจากประเพณี
พิ
ธี
กรรม แนวปฏิ
บั
ติ
ที
่
ได้
รั
บการสั
่
งสมมา
และไม่
ได้
รั
บคํ
าอธิ
บายถึ
งเหตุ
ผลก็
ตาม แต่
เมื
่
อนํ
ามาพิ
จารณาแล้
วล้
วนแต่
มี
เหตุ
ผลที
่
สามารถรั
บ
ฟั
งได้
แต่
ในบางกรณี
หากไม่
ปฏิ
บั
ติ
ตามก็
ไม่
ได้
เกิ
ดความเสี
ยหายใด ๆ ข้
อห้
ามเกี
่
ยวกั
บอาหาร
นั
้
น ๆ ก็
จะถู
กลื
มเลื
อนไปไม่
ปฏิ
บั
ติ
ตาม และในช่
วงที
่
ระบบเศรษฐกิ
จสมั
ยใหม่
เข้
ามา คน
เชี
ยงรายได้
รั
บกระแสนิ
ยมอาหารต่
างชาติ
อย่
างหลี
กเลี
่
ยงไม่
ได้
แต่
ความโน้
มเอี
ยงของอุ
ปนิ
สั
ย
ยั
งคงเป็
นตั
วยึ
ดเหนี
่
ยวให้
ผู
้
คนในสั
งคมนิ
ยมอาหารล้
านนาเชี
ยงรายอยู
่
โดยการบอกกล่
าวถึ
ง