st124 - page 13

4
ไปจนถึ
งรั
ฐกลั
นตั
นปะลิ
สและรั
ฐเกดะห์
(ไทรบุ
รี
) และอพยพหลบหนี
การถู
กเกณฑ์
เป็
นทหาร
ตํ
ารวจ เข้
ามาตั
งถิ่
นฐานตามหมู
เกาะชายฝั่
งทะเลอั
นดามั
นจากการที่
นั
บถื
อศาสนาอิ
สลามจึ
งเรี
ยกว่
“ชาวมุ
สลิ
ม”หรื
อ “ชาวไทยมุ
สลิ
ม” (อาภรณ์
อุ
กฤษณ์
. 2532 : 23)
ชาวจี
เป็
นกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
หนึ
งที่
เดิ
นทางหลบหนี
ความวุ่
นวายจากการสู
รบในประเทศจี
แผ่
นดิ
นใหญ่
มาพั
กอาศั
ยที่
เกาะปี
นั
งต่
อจากนั
นประมาณ200150-ปี
ที่
ผ่
านมาได้
เดิ
นทางโดยขบวน
เรื
อเป็
ด (เรื
อแล่
นใบขนาดเล็
กกว่
าเรื
อสํ
าเภา)จากปี
นั
งเข้
ามาทํ
าโป๊
ะจั
บปลาเพื่
อทํ
าปลาเค็
มและปลาย่
าง
นํ
ากลั
บไปขายที่
ปี
นั
ง สิ
งคโปร์
และนํ
าสิ
นค้
าจํ
าเป็
นกลั
บเข้
ามาแลกเปลี่
ยนกั
บสิ
นค้
าพื
นเมื
องของ
ชาวเลและชาวไทยมุ
สลิ
มต่
อมาจึ
งเลื
อกทํ
าเลบริ
เวณตลาดศรี
รายา เพื่
อแวะพั
กอาศั
ยชั่
วคราวขณะเข้
มาติ
ดต่
อแลกเปลี่
ยนสิ
นค้
าหรื
อรอลมมรสุ
มเปลี
ยนทิ
ศทาง จนกระทั่
งมี
การแต่
งงานกั
บคนใน
ท้
องถิ่
นต่
างกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
ได้
แก่
ชาวเลชาวมุ
สลิ
มหรื
อลู
กหลานชาวจี
นด้
วยกั
นที่
เข้
ามาอาศั
ยอยู
ก่
อน
บ้
างแล้
วจึ
งมี
การตั
งถิ่
นฐานอย่
างถาวร (อาภรณ์
อุ
กฤษณ์
. 2532 : 24)ปั
จจุ
บั
นเรี
ยกลู
กหลานชาวจี
ว่
า “ชาวไทยเชื
อสายจี
น”
ชาวไทย
ในอดี
ตหมายถึ
งกลุ่
มคนไทยซึ
งเป็
นกลุ่
มหนึ
งในหลายกลุ่
มชาติ
พั
นธุ
ที่
อาศั
ในประเทศสยาม เรี
ยกรวมๆกั
นว่
า “ชาวสยาม” ปั
จจุ
บั
นเรี
ยกว่
า “ชาวไทยพุ
ทธ” ในช่
วงแรกๆ
มี
ชาวไทยหรื
อชาวสยาม เดิ
นทางจากแผ่
นดิ
นใหญ่
เข้
ามาพั
กอาศั
ยเพื่
อทํ
าการประมงและหาของป่
บริ
เวณหมู
เกาะลั
นตาบ้
างไม่
มากนั
ก จนกระทั่
งในปี
พ.ศ.2444 เกาะลั
นตาได้
รั
บการยกฐานะเป็
อํ
าเภอมี
การสร้
างสถานที่
ราชการและโรงเรี
ยนประชาบาลขึ
นหลั
งหนึ
ง ประชากรชาวไทยพุ
ทธหรื
ชาวสยามในยุ
คนั
นได้
แก่
กลุ่
มข้
าราชการประจํ
าอํ
าเภอด่
านศุ
ลกากรตํ
ารวจและข้
าราชการครู
ฯลฯ
ภายใต้
การปกครองของรั
ฐบาลสยามได้
โยกย้
ายผลั
ดเปลี่
ยนกั
นเข้
ามาปฏิ
บั
ติ
ราชการมี
การแต่
งงาน
กั
บคนในท้
องถิ่
นแล้
วตั
งถิ่
นฐานถาวรบนเกาะบ้
างพาครอบครั
วไปตั
งถิ่
นฐานที่
อื่
นบ้
าง ด้
วยเหตุ
ที่
บริ
เวณดั
งกล่
าวเป็
นที
อยู
อาศั
ยของข้
าราชการ และเป็
นสถานที
ราชการนี
เอง ชาวเลจึ
งเรี
ยกว่
“ปาไตยรายา”หมายถึ
งหาดของเจ้
านายอั
นเป็
นที่
มาของชื่
อ “ถนนศรี
รายา”หรื
อ “ตลาดศรี
รายา”
การอพยพโยกย้
ายและการเข้
าไปตั
งถิ่
นฐานของชนต่
างกลุ่
มต่
างวั
ฒนธรรมบนเกาะลั
นตา
เป็
นไปอย่
างต่
อเนื่
องช่
วงที่
เกาะลั
นตารุ
งเรื
องที่
สุ
ดในอดี
ตมี
ชนต่
างถิ่
นเข้
าไปทํ
าธุ
รกิ
จการประมง
ชาวจี
นเปลี่
ยนมาใช้
เรื
อใบสามเสานํ
าสิ
นค้
าที่
จํ
าเป็
นจากเกาะปี
นั
งและสิ
งคโปร์
เข้
ามาขายและรั
บซื
ถ่
านไม้
โกงกาง เปลื
อกไม้
แสมสํ
าหรั
บย้
อมใบเรื
อและสิ
นค้
าพื
นเมื
อง จนกระทั่
งมี
การตั
ดถนนบน
แผ่
นดิ
นใหญ่
และปรั
บเปลี่
ยนเส้
นทางการค้
าไปใช้
ทางบกประกอบกั
บเหตุ
ผลอี
กหลายประการ
เกาะลั
นตายิ่
งซบเซาลงไปอี
กตลาดศรี
รายากลายเป็
นเมื
องที่
เงี
ยบเหงาไร้
ผู
คนสั
ญจร แม้
ธุ
รกิ
ท่
องเที่
ยวจะเข้
ามาพร้
อมกั
บนั
กธุ
รกิ
จและนั
กท่
องเที่
ยวทั
งชาวไทยและชาวต่
างประเทศประมาณปี
พ.ศ.2528พลิ
กฟื
นให้
ฟากตะวั
นตกของเกาะลั
นตาหรื
อ“หลั
งเกาะ”พั
ฒนาขึ
นอย่
างรวดเร็
วขณะที่
ฟาก
1...,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12 14,15,16,17,18,19,20,21,22,23,...308
Powered by FlippingBook