nt142 - page 123
109
เมื
องศรี
สั
ชนาลั
ย เข้
ายึ
ดครองกรุ
งสุ
โขทั
ยจากเจ้
านายเชื
้
อพระวงศ์
ราชวงศ์
พระร่
วง ได้
แล้
วเสด็
จขึ
้
นครองราชย์
สมบั
ติ
ณ กรุ
งสุ
โขทั
ย จากนั
้
นพระองค์
ได้
เสด็
จยกกองทั
พไปตี
เมื
องต่
าง ๆที่
เคยอยู
่
ใต้
การปกครองของ
อาณาจั
กรสุ
โขทั
ยก่
อน เมื่
อรวมอาณาจั
กรสุ
โขทั
ยให้
เป็
นอั
นหนึ
่
งอั
นเดี
ยวกั
นอี
กครั
้
งหนึ
่
ง แล้
วเสด็
จไปเสวย
ราชสมบั
ติ
อยู
่
ที่
เมื
องสองแคว (พิ
ษณุ
โลก) แทนกรุ
งสุ
โขทั
ย ดั
งปรากฏหลั
กฐานในศิ
ลาจารึ
กหลั
กที่
8 จารึ
ก
เขาสุ
มนกู
ฏว่
า
“...พระยาศรี
สุ
ริ
ยพงศ์
มหาธรรมราชาธิ
ราช เอาพลไปทราบ
ยั
งนํ
้
า...บุ
รี
สิ
้
นได้
ทั
้
งตะวั
นออกเขต...ยั
งพระสั
กรอดสิ
้
น จึ
งไป
อยู
่
เมื
องสองแคว ปุ
มหาธาติ
ปลู
กพระศรี
มหาโพธิ
.....”
(กรมศิ
ลปากร,2521: 116)
การที่
พระมหาธรรมราชาที่
1 (พระยาลิ
ไท) เสด็
จมาเสวยราชสมบั
ติ
ณ เมื
องสองแคว (พิ
ษณุ
โลก)
นั
้
น คงจะมี
สาเหตุ
สํ
าคั
ญมาจากการที่
พระองค์
ได้
ทรงขยายอาณาเขตของอาณาจั
กรสุ
โขทั
ยมายั
งเมื
องลุ่
มแม่
นํ
้
าป่
าสั
กนั
้
น ทํ
าให้
เกิ
ดการกระทบกระทั่
งบาดหมางกั
บอาณาจั
กรศรี
อยุ
ธยา ดั
งปรากฏหลั
กฐานในหนั
งสื
อ
ชิ
นกาลมาลี
ปกรณ์
ว่
า
“.....สมเด็
จพระรามาธิ
บดี
ที่
1 (พระเจ้
าอู
่
ทอง) แห่
งกรุ
งศรี
อยุ
ธยา
ได้
ยึ
ดเมื
องสองแควไว้
ได้
แล้
วโปรดให้
ขุ
นหลวงพระงั่
ว
ซึ
่
งขณะนั
้
นเป็
นเจ้
าเมื
องสุ
พรรณบุ
รี
มาครองอยู
่
เมื
องสองแคว...” (รั
ตนาปั
ญญาเถร,2517: 102-103)
พระธรรมราชาที่
1 (พระยาลิ
ไท) ทรงเกรงว่
าหากให้
ขุ
นหลวงพระงั่
วมาครองเมื
องสองแคว
(พิ
ษณุ
โลก) อยู
่
เช่
นนี
้
อาณาจั
กรสุ
โขทั
ยก็
จะไม่
มี
ความปลอดภั
ยพระองค์
ได้
ทรงขอเป็
นไมตรี
กั
บสมเด็
จพระ
รามาธิ
บดี
ที่
1 (พระเจ้
าอู
่
ทอง) แห่
งพระราชอาณาจั
กรศรี
อยุ
ธยาขอพระราชทานเมื
องสองแควคื
นดั
งปรากฏ
หลั
กฐานในหนั
งสื
อชิ
นกาลมาลี
ปกรณ์
ว่
า
“....พระราชธรรมราชาที่
1ต้
องถวายบรรณาการ
เป็
นอั
นมาก ต่
อสมเด็
จพระรามาธิ
บดี
ที่
1 เพื่
อขอเมื
อง
สองแควคื
น และเมื่
อได้
คื
นแล้
วพระองค์
ไปประทั
บที่
เมื
อง
1...,113,114,115,116,117,118,119,120,121,122
124,125,126,127,128,129,130,131,132,133,...262