ct156 - page 15

บทที่
บทนํ
ความเป็
นมาและความสํ
าคั
ญของปั
ญหา
การทอผ้
าเป็
นหั
ตถกรรมและศิ
ลปะอย่
างหนึ่
งที่
มี
มาตั้
งแต่
สมั
ยโบราณ เนื่
องจากการทอผ้
าเป็
นส่
วน
หนึ่
งของวิ
ถี
ชี
วิ
ตของมนุ
ษย์
เพราะถื
อเป็
นการผลิ
ตเครื่
องนุ่
งห่
มซึ่
งเป็
นหนึ่
งในปั
จจั
ยสี่
ที่
สํ
าคั
ญของมนุ
ษย์
นอกจากนี้
การทอผ้
ายั
งถื
อเป็
นงานศิ
ลปะประเภทหนึ่
ง เนื่
องจากการทอผ้
าในแต่
ละกลุ่
มชนล้
วนมี
รู
ปแบบ
ลวดลายของผื
นผ้
าที่
แตกต่
างกั
น ซึ่
งรู
ปแบบและลวดลายบนผื
นผ้
าจะบ่
งบอกเรื่
องเล่
าหรื
อเหตุ
การณ์
ต่
างๆ ที่
ผ่
านระยะเวลามายาวนาน รวมทั้
งยั
งบ่
งบอกถึ
งเอกลั
กษณ์
และวั
ฒนธรรม ความเชื่
อ ความเป็
นมาของกลุ่
มชน
นั้
นๆ โดยลวดลายและสั
ญลั
กษณ์
เหล่
านี้
บางลายก็
มี
ชื่
อเรี
ยกสื
บต่
อกั
นมาหลายชั่
วคน บางลวดลายก็
มี
ชื่
อเป็
ภาษาท้
องถิ่
น ซึ่
งไม่
เป็
นที่
เข้
าใจของคนไทยในภาคอื่
นๆ เช่
น ลายเอี้
ย ลายบั
กจั
น ฯลฯ บางชื่
อก็
เรี
ยกกั
นมาโดย
ไม่
รู้
ประวั
ติ
เช่
น ลายแมงมุ
ม ลายปลาหมึ
ก ซึ่
งแม้
แต่
ผู้
ทอก็
อธิ
บายไม่
ได้
ว่
าทํ
าไมจึ
งเรี
ยกชื่
อนั้
น บางลวดลายก็
มี
ผู้
ตั้
งชื่
อให้
ใหม่
เช่
นลาย "ขอพระเทพ" เป็
นต้
น นอกจากนี้
สั
ญลั
กษณ์
และลวดลายบางอย่
างก็
เชื่
อมโยงกั
บคติ
และความเชื่
อของคนไทยพื้
นบ้
านที่
นั
บถื
อสื
บต่
อกั
นมาหลายๆ ชั่
วอายุ
คน และยั
งสามารถเชื่
อมโยงกั
บลวดลาย
ที่
ปรากฏอยู่
ในศิ
ลปะอื่
นๆ เช่
น บนจิ
ตรกรรมฝาผนั
ง และสถาปั
ตยกรรม หรื
อบางที
ก็
มี
กล่
าวถึ
งในตํ
านาน
พื้
นบ้
านและในวรรณคดี
เป็
นต้
น และบางลวดลายก็
เป็
นคติ
ร่
วมกั
บความเชื่
อสากลและปรากฏอยู่
ในศิ
ลปะของ
หลายชาติ
เช่
น ลายขอหรื
อลายก้
นหอย เป็
นต้
น ซึ่
งนั
บว่
าเป็
นลายเก่
าแก่
แต่
โบราณของหลายๆ ประเทศทั่
โลก ซึ่
งหากเรารู้
จั
กสั
งเกตและศึ
กษาเปรี
ยบเที
ยบแล้
วก็
จะเข้
าใจลวดลายและสั
ญลั
กษณ์
ในผ้
าพื้
นเมื
องของไทย
ได้
มากขึ้
น และมองเห็
นคุ
ณค่
าได้
ลึ
กซึ้
งขึ้
น (สารานุ
กรมไทยสํ
าหรั
บเยาวชน เล่
มที่
๒๑)
ในปั
จจุ
บั
นการทอผ้
าพื้
นบ้
านพื้
นเมื
องหลายแห่
งยั
งคงทอลวดลายแบบดั้
งเดิ
ม โดยเฉพาะในชุ
มชนที่
มี
เชื้
อสายชาติ
พั
นธุ์
บางกลุ่
มที่
กระจายตั
วกั
นอยู่
ในภาคต่
างๆ ของประเทศไทย โดยการทอผ้
าในภาคกลาง
ตอนล่
าง (จั
งหวั
ดอุ
ทั
ยธานี
ชั
ยนาท สุ
พรรณบุ
รี
สระบุ
รี
ลพบุ
รี
นครปฐม ราชบุ
รี
เพชรบุ
รี
ฯลฯ) ซึ่
งมี
กลุ่
มชน
ชาวไทยยวนและชาวไทยลาวอพยพไปตั้
งถิ่
นฐานอยู่
ในช่
วงต่
างๆ ของประวั
ติ
ศาสตร์
ไทย โดยเฉพาะพวกไทย
ลาวนั้
นมี
หลายเผ่
า เช่
น พวน โซ่
ง ผู้
ไท ครั่
ง ฯลน ซึ่
งอพยพย้
ายถิ่
นเข้
ามา พวกไทยลาวนี้
ยั
งรั
กษาวั
ฒนธรรม
และเอกลั
กษณ์
เฉพาะถิ่
นไว้
ได้
โดยเฉพาะลวดลายที่
ตกแต่
งบนผื
นผ้
าซึ่
งจะมี
ลั
กษณะและสี
สั
นแตกต่
างกั
ชาวไทยทรงดํ
าเป็
นชนกลุ่
มหนึ่
งในอดี
ตได้
อพยพมาจากเมื
องแถงลุ่
มแม่
น้ํ
าดํ
าและแม่
น้ํ
าแดงใน
ประเทศเวี
ยดนามเหนื
อ ได้
มี
การอพยพเข้
ามาหลายครั้
ง อั
นเป็
นผลมาจากศึ
กสงครามในช่
วงสมั
ยพระเจ้
ากรุ
ธนบุ
รี
จนถึ
งรั
ชกาลที่
๕ แห่
งกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ชาวไทยทรงดํ
าหรื
อลาวโซ่
งที่
เข้
ามาก็
จะมาตั้
งถิ่
นฐานบ้
านเรื
อน
ที่
มี
ลั
กษณะคล้
ายกั
บท้
องถิ่
นของตนเองในจั
งหวั
ดเพชรบุ
รี
ก่
อน จากนั้
นมาก็
ได้
ขยั
บขยายไปอยู่
ตามจั
งหวั
ใกล้
เคี
ยง เช่
น จั
งหวั
ดสุ
พรรณบุ
รี
นครปฐม ชั
ยนาท นครสวรรค์
พิ
ษณุ
โลก และพิ
จิ
ตร เป็
นต้
น ซึ่
งแต่
เดิ
มชาว
ไทยทรงดํ
านิ
ยมผลิ
ตเครื่
องใช้
ไม้
สอยต่
างๆ ด้
วยตนเอง อั
นมี
งานหั
ตถกรรมที่
โดดเด่
นคื
อ การทอผ้
า ที่
แต่
เดิ
มจะ
เริ่
มตั้
งแต่
การปลู
กพื
ชเลี้
ยงไหมเพื่
อผลิ
ตเส้
นใยและทอผ้
าเอง โดยการทอผ้
านั้
นเกี่
ยวพั
นกั
บวั
ฒนธรรมอั
นเป็
เอกลั
กษณ์
เฉพาะของชาวไทยทรงดํ
าอย่
างแน่
นแฟ้
น เป็
นการทอผ้
าที่
มี
เอกลั
กษณ์
เฉพาะของกลุ่
ม มี
ความโดด
1...,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14 16,17,18,19,20,21,22,23,24,25,...223
Powered by FlippingBook