st128 - page 20

1
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ที่มำและควำมสำคัญของเรื่องที่ศึ กษำ
ตำนำนมัสยิ ดกรือเซะ เป็นเรื่องเล่ ำที่ครั้งหนึ่งเคยถูกรื้อฟื้ นขึ้นเพื่อประกอบสร้ำงกระแส
กำรท่องเที่ยวมำยั งบ้ ำนกรือเซะ หมู่ 3 ต.ตั นหยงลุ โละ อ.เมือง จ.ปั ตตนี โดยมีแหล่ งดึ งดูด
นักท่องเที่ยวสำคัญคือมัสยิดกรือเซะและสุ สำนเจ้ำแม่ลิ้มกอเหนี่ ยวซึ่งตั้งอยู่เคียงข้ ำงกัน กระแสกำร
ท่องเที่ยวมำยั งสุสำนเจ้ำแม่ลิ้มกอเหนี่ยวนี้ ได้โหมกระพือเรื่องเล่ำมูลเหตุที่มัสยิดกรือเซะสร้ำงไม่เสร็จ
ว่ ำมีที่มำจำกคำสำปแช่งของเจ้ำแม่ลิ้มกอเหนี่ ยว ปัญหำของกำรรื้อฟื้ นตำนำนเกี่ยวกับมัสยิ ดกรือเซะ
นั้นเป็นช่วงเวลำเดี ยวกันกับกระแสฟื้นฟูอิสลำมแพร่สะพัดไปทั่วปั ตตำนี (ชัยวัฒน์ สถำอำนันท์, 1993)
ทำให้ เกิดกำรประท้วงของชำวมุสลิมที่มั สยิดกรือเซะที่ ตั้งคำถำมต่อประเด็นคำสำปแช่งและสถำนภำพ
กำรเป็นโบรำณสถำนของมัสยิ ดกรือเซะด้วย ไม่เพี ยงตำนำนมัสยิ ดกรือเซะจะถู กเรื่องเล่ำเจ้ ำแม่ลิ้มกอ
เหนี่ยวที่ถูกกล่ำวขำนจนเกิ ดกำรเบียดบังอัตลักษณ์ของคนต่ ำงศำสนำต่ำงชำติพันธุ์ เท่ำนั้น มัสยิ ดกรือ
เซะเองยังประกอบด้วยเรื่องเล่ ำเกี่ยวกับมัสยิดหลำกหลำยรูปแบบ ตั้ งแต่เรื่องต้นกำเนิดมัสยิด
ตำนำนที่ 1 อ้ ำงถึง ฮิกำยัต ปัตตำนี กล่ ำวว่ำมัสยิดกรือเซะสร้ำงขึ้ นสมัยสุลต่ ำน มุฎ็อฟ
ฟาร์ ชาห์ เป็ นมัสยิดหลั งแรกของเมืองปัตตำนี โดยมี เรื่องเล่ำว่ ำ เช็คซอฟี ยุดดิ น ชำวเมืองปำไซ
เดินทำงมำยังปัตตำนีและตั้งบ้ำนเรื อนอยู่นอกกำแพงเมือง สุลต่ ำนมุฎ็อฟฟำร์ชำห์ ได้เชิ ญเช็คซอฟียุด
ดิ นไปซักถำมเรื่องเกี่ ยวกับศำสนำอิ สลำม เช็คซอฟี ยุดดินกรำบทูลสุลต่ำนควำมว่ ำ เมื องอิสลำมที่
สมบูรณ์จะต้องมี มัสยิ ดสำหรับรำษฎรเพื่อไว้กรำบไหว้องค์ อัลลอห์ สุลต่ ำนมุฎ๊อฟฟำร์ชำห์ จึงโปรดให้
สร้ำงมัสยิดขึ้ น (ศรีศั กร วัลลิโภดม, พล.ต.ต.จำรูญ เด่นอุดม, อับดุ ลเลำะห์ ลออแมน, อุดม ปัตตนวงศ์
และคณะ, 2550, น.50-54) ประวั ติกำรสร้ำงโดยสุ ลต่ำนมุฎ็อฟฟำร์ชำห์ หรือ มูซัฟฟำร์ ชำห์ นี้
สอดคล้ องกับเรื่ องประวัติ มั สยิดกรื อเซะในหนังสื อประวัติ ศำสตร์ อำรยธรรมภำคใต้ โดยกล่ำวถึ ง
มัสยิดกรือเซะว่ ำ
สุลต่านมู ซัฟฟาร์ ชาห์ (โอรสของสุลต่ านอิสมาแอล ชาห์ หรือราชาอิ นทิราก่อน
เข้ ารีตรับศาสนาอิสลาม) ซึ่งครองราชย์ เป็นกษัตริย์นครปัตตานี ระหว่าง พ.ศ. 2073-
2107 เป็นผู้สร้างมัสยิดปินตู เฆอร์บัง กรือเซะขึ้น เนื่ องจากเห็นว่ าชาวเมืองส่ วนใหญ่
หันมานั บถือศาสนาอิสลามแล้วแต่ ยังไม่มีมั สยิดสาหรับใช้ประกอบศาสนพิธี จึ งสั่งให้
สร้ างมัสยิ ดขึ้น 2 หลัง อยู่ที่ประตู เมืองหลั งหนึ่ ง(คือมัสยิดกรือเซะ) และอยู่ ที่ท่าเรือ
(มั สยิดดาโต๊ะ) ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะริ่ง หลังหนึ่ ง (ประทุม ชุ่มเพ็งพันธุ์, 2544, น.312)