st128 - page 2

2
พั
นธุ์
เท่
านั้
น มั
สยิ
ดกรื
อเซะเองยั
งประกอบด้
วยเรื่
องเล่
าเกี่
ยวกั
บมั
สยิ
ดหลากหลายรู
ปแบบ ตั้
งแต่
เรื่
อง
ต้
นกาเนิ
ดมั
สยิ
ดที่
ปรากฎการให้
ข้
อมู
ลยุ
คสมั
ยที่
ไม่
ตรงกั
ตานานที่
1 มั
สยิ
ดกรื
อเซะสร้
างในสมั
ยพญาอิ
นทิ
รา (สุ
ลต่
านอิ
สมาอี
ล ชาห์
) แต่
เสร็
จสมบู
รณ์
ในสมั
ยมู
ซั
ฟฟั
ร ชาห์
(ครองชั
ย หั
ตถา, 2549, น.13; อั
ฮหมั
ดสมบู
รณ์
บั
วหลวง,เอกสารอิ
เลคทรอนิ
คส์
)
ครองชั
ย หั
ตถากล่
าวถึ
งมั
สยิ
ดกรื
อเซะว่
า เดิ
มมี
ชื่
อเรี
ยกว่
า มั
สยิ
ดปิ
นตู
เกิ
รบั
ง (Masjid Pintu
Gerbang) เป็
นมั
สยิ
ดประจาเมื
องปั
ตตานี
ตานานที่
2 มั
สยิ
ดกรื
อเซะสร้
างในสมั
ยสุ
ลต่
านมุ
ศ็
อฟฟั
ร ชาห์
(ประทุ
ม ชุ่
มเพ็
งพั
นธุ์
, 2544, น.
312; ศรี
ศั
กร วั
ลลิ
โภดม, พล.ต.ต.จารู
ญ เด่
นอุ
ดม, อั
บดุ
ลเลาะห์
ลออแมน, อุ
ดม ปั
ตตนวงศ์
และคณะ,
2550, น.50-54; อารี
ฟิ
น บิ
นจิ
, อ.ลออแมน, ซู
ฮั
ยมี
ย์
อิ
สมาแอล์
, 2550, น. 73)
ตานานที่
3 มั
สยิ
ดกรื
อเซะสร้
างในสมั
ยสุ
ลต่
านลองยู
นุ
ส (ขุ
นศิ
ลปกิ
จจ์
พิ
สั
นห์
, 2525, น. 48;
อนั
นต์
วั
ฒนานิ
กร, 2531, น.229-230)
ตานานที่
4 มั
สยิ
ดกรื
อเซะสร้
างในสมั
ยต่
วนสุ
หลง (อนั
นต์
วั
ฒนานิ
กร, 2531, น. 66; อิ
บรอ
ฮี
ม ชุ
กรี
, 2549, น. 56)
ตานานที่
5 มั
สยิ
ดกรื
อเซะสร้
างในสมั
ยรายาพระองค์
หนึ่
งซึ่
งเป็
นสตรี
(เคี่
ยม สั
งสิ
ทธิ
เสถี
ยร,
2525) โดยในบั
นทึ
กนี้
ปรากฎความเกี่
ยวพั
นในเรื่
องการก่
อสร้
างมั
สยิ
ดกรื
อเซะกั
บตานานเจ้
าแม่
หลิ
กอเหนี่
ยวด้
วย
นอกจากนี้
ยั
งพบว่
าตานานมั
สยิ
ดกรื
อเซะยั
งคงมี
ความกั
งขาเรื่
องที่
มั
สยิ
ดสร้
างแล้
วเสร็
จหรื
อไม่
ซึ่
งไม่
เพี
ยงส่
งผลให้
เกิ
ดความขั
ดแย้
งในด้
านข้
อมู
ลตานานที่
ขั
ดกั
น ยั
งทาให้
เป็
นประเด็
นสาคั
ญของความ
ขั
ดแย้
งเกี่
ยวกั
บการสร้
างถมอั
ตลั
กษณ์
ของคนกลุ่
มหนึ่
งกดข่
มคนอี
กกลุ่
มหนึ่
ง ทั้
งสิ่
งที่
เห็
นเป็
นประจั
กษ์
ในปั
จจุ
บั
นคื
อมั
สยิ
ดที่
ไม่
มี
โดม ก่
ออิ
ฐเปลื
อยไร้
ปู
นหรื
อสี
ฉาบทั
บทา ยิ่
งนามาซึ่
งการค้
นหาหลั
กฐานทาง
วิ
ชาการเพื่
อยื
นยั
นความน่
าจะเป็
นไปได้
โดยไม่
สร้
างภาวะของความขั
ดแย้
งเพิ่
มเข้
าไปในพื้
นที่
อ่
อนไหว
อย่
างสามจั
งหวั
ดชายแดนภาคใต้
ได้
อี
ก การสื
บค้
นหลั
กฐานทางวิ
ชาการนี้
เป็
นการจั
ดการมรดก
วั
ฒนธรรมเรื่
องตานานมั
สยิ
ดกรื
อเซะโดยนั
กวิ
ชาการ ขณะเดี
ยวกั
นผู้
มี
ส่
วนเกี่
ยวข้
องกั
บตานาน
มั
สยิ
ดกรื
อเซะภาคส่
วนอื่
นก็
มี
การจั
ดการและใช้
ประโยชน์
จากตานานมั
สยิ
ดกรื
อเซะแตกต่
างกั
นไปซึ่
หลายครั้
งไม่
ว่
าจะมี
การจั
ดการหรื
อใช้
ประโยชน์
เช่
นใดก็
อาจเกิ
ดความขั
ดแย้
งขึ้
นได้
กรณี
การบั
นทึ
ตานานที่
ต่
างกั
นก็
เป็
นประเด็
นหนึ่
งในหลายสาขาของความขั
ดกั
นนั้
ความขั
ดแย้
งกั
นในแง่
ของตานานมั
สยิ
ดกรื
อเซะเรื่
องสร้
างเสร็
จหรื
อไม่
นั้
น ไม่
เพี
ยงทั
บซ้
อน
ปั
จจั
ยเรื่
องการแบ่
งเชื้
อชาติ
พั
นธุ์
ความไม่
ลงรอยของตานาน คาสาปแช่
งและหลั
กการศาสนาอิ
สลามที่
ไม่
เชื่
อเรื่
องอิ
ทธิ
ฤทธิ์
ปาฎิ
หาริ
ย์
อื่
นใดนอกจากพระเจ้
าแล้
ว ยั
งมี
เรื่
องบทบาทของภาครั
ฐกั
บประชาชน
ในพื้
นที่
ที่
ยั
งอ่
อนไหวและมี
ตั
วแปรของความขั
ดแย้
งอื่
นอี
ก โดยเฉพาะอั
ตลั
กษณ์
ของความเป็
นมลายู
มุ
สลิ
มกั
บการปฏิ
บั
ติ
จากภาครั
ฐ ทั้
งนี้
ความละเอี
ยดอ่
อนของความเป็
นชาติ
พั
นธุ์
มลายู
ยั
งถู
กกล่
าวถึ
1 3,4,5,6,7,8,9,10,11,12,...265
Powered by FlippingBook