๓๖
เมื่
อรั
ฐบาลได
สั่
งการให
หยุ
ดยิ
งและปล
อยให
กองกํ
าลั
งทหารญี่
ปุ
นผ
านไปสู
พม
าได
เมื
องหลั
งสวนเป
นเมื
องหนึ่
งที่
กองทหารญี่
ปุ
นได
เข
ายึ
ดพื้
นที่
สํ
าหรั
บเป
นที่
จั
ดเตรี
ยมเสบี
ยงอาหาร เพื่
อส
งไปบํ
ารุ
งให
กั
บกองทหารของตนที่
ปฏิ
บั
ติ
การอยู
ในพื้
นที่
ต
างๆ นอกจากนั้
นยั
งได
สร
างค
ายพั
ก เรื
อนพยาบาล กระจั
ดกระจายอยู
ทั่
วไปในเมื
องหลั
ง
สวน ต
อมาเมื่
อสงครามโลกใกล
ยุ
ติ
ลง กองทั
พฝ
ายสั
มพั
นธมิ
ตรได
ระดมสรรพอาวุ
ธเข
าถล
มกองทั
พญี่
ปุ
นอย
าง
หนั
กหน
วงในทุ
กหนทุ
กแห
ง ขณะที่
สะพานข
ามแม
น้ํ
าแคว จั
งหวั
ดกาญจนบุ
รี
ได
ถู
กทํ
าลายลงโดยฝู
งบิ
นของ
กองทั
พสั
มพั
นธมิ
ตร ในขณะเดี
ยวกั
นสะพานรถไฟข
ามแม
น้ํ
าหลั
งสวนก็
ถู
กถล
มจนขาดสะบั้
นเช
นกั
นเพื่
อตั
ด
เส
นทางการลํ
าเลี
ยงเสบี
ยงอาหารและอาวุ
ธยุ
ทโธปกรณ
ของกองทั
พญี่
ปุ
นทํ
าให
สะพานรถไฟข
ามแม
น้ํ
าหลั
งสวน
มี
ลั
กษณะเด
นที่
ไม
เหมื
อนใคร ตรงที่
ลั
กษณะของโครงสะพานเหล็
กสองตอนไม
เหมื
อนกั
นและในเวลาต
อมาญี่
ปุ
น
ได
ประกาศยอมแพ
สงครามอย
างไม
มี
เงื่
อนไขเมื่
อระเบิ
ดปรมาณู
๒ ลู
กที่
ฝ
ายสั
มพั
นธมิ
ตรทิ้
งลงใส
เมื
องนางาซากิ
และฮิ
โรชิ
มา เมื่
อวั
นที่
๒ กั
นยายนพ.ศ.๒๔๘๘
ในป
พ.ศ.๒๔๙๒ กระทรวงมหาดไทยได
ยกฐานะอํ
าเภอหลั
งสวนขึ้
นเป
นอํ
าเภอชั้
นเอก โดยมี
นายอํ
าเภอ
คนแรกคื
อ ขุ
นผดุ
งแดนสวรรค
(ฟุ
ง รั
กราชการ) จะเห็
นได
ว
าอํ
าเภอหลั
งสวนได
เจริ
ญก
าวหน
าขึ้
นโดยลํ
าดั
บ
โดยเฉพาะอย
างยิ่
งในสมั
ยที่
นายพร
อม ชู
แข เป
นนายอํ
าเภอ (๑๙พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๔ – ๓พฤษภาคม พ.ศ.
๒๕๐๙) และได
รั
กษาการในตํ
าแหน
งนายกเทศมนตรี
เทศบาลตํ
าบลหลั
งสวนควบคู
ไปด
วย ได
ย
ายที่
ว
าการอํ
าเภอ
และสถานี
ตํ
ารวจภู
ธรไปสร
างในที่
ใหม
ณหมู
ที่
๑ ตํ
าบลขั
นเงิ
นและใช
พื้
นที่
เดิ
มซึ่
งเป
นพื้
นที่
บริ
เวณกํ
าแพงเมื
อง
สร
างตลาดเทศบาลและอาคารพาณิ
ชย
จากการศึ
กษาอดี
ตของเมื
องหลั
งสวนทํ
าให
ทราบถึ
งการเปลี่
ยนแปลงที่
เกิ
ดขึ้
นมาเป
นลํ
าดั
บ จากชุ
มชนเล็
กๆ ที่
ต
องขึ้
นอยู
กั
บเมื
องชุ
มพรจนมาเป
นอํ
าเภอหลั
งสวนในป
จจุ
บั
นที่
มี
ความ
เจริ
ญก
าวหน
า ชาวหลั
งสวนมี
ความภาคภู
มิ
ใจในประวั
ติ
ความเป
นมาอั
นยาวนานของเมื
อง หลั
งสวนเป
น
อย
างยิ่
ง และทํ
าให
มองเห็
นถึ
งความพยายามของบุ
คคลหลายท
านในการพั
ฒนาเมื
องหลั
งสวนในสมั
ยนั้
นให
เจริ
ญ
รุ
ดหน
ามาจนถึ
งป
จจุ
บั
นนี้
เช
นเดี
ยวกั
น
๕.๓ ด
านสั
งคม เศรษฐกิ
จ และการเมื
องการปกครอง
อํ
าเภอหลั
งสวนมี
ประชากรทั้
งสิ้
น ๕๕,๖๐๘ คน จํ
าแนกเป
น ประชากรชาย ๒๗,๖๖๓ คน และ
ประชากรหญิ
ง ๒๗,๙๔๕ คน (ข
อมู
ลป
พ.ศ. ๒๕๕๔) ประชากรในอํ
าเภอหลั
งสวนส
วนใหญ
มี
เชื้
อสายไทย และ
นั
บถื
อศาสนาพุ
ทธ ดั
งนั้
นจึ
งมี
วั
ดเป
นจํ
านวนมาก เช
น วั
ดขั
นเงิ
น วั
ดประสาทนิ
กร วั
ดโตนด วั
ดแหลมทราย
วั
ดราชบุ
รณะ เป
นต
น เมื่
อถึ
งวั
นสํ
าคั
ญทางศาสนา ประชาชนนิ
ยมไปทํ
าบุ
ญที่
วั
ดจนกลายเป
นวั
ฒนธรรมท
องถิ่
น
ที่
ดี
งาม การเป
นคนเข
าถึ
งศาสนาของคนในอํ
าเภอหลั
งสวนทํ
าให
คนหลั
งสวนอั
ธยาศั
ยดี
หน
าตายิ้
มแย
มแจ
มใส
พร
อมที่
จะเป
นมิ
ตรกั
บผู
อื่
น ด
านการประกอบอาชี
พ ประชากรของอํ
าเภอหลั
งสวนส
วนใหญ
มี
อาชี
พทางด
าน
การเกษตร โดยเฉพาะการทํ
าสวน เช
น สวนผลไม
สวนยางพารา สวนปาล
มน้ํ
ามั
น เป
นต
น และสื
บเนื่
องจาก
ลั
กษณะของที่
ตั้
งซึ่
งติ
ดกั
บอ
าวไทยทางทิ
ศตะวั
นออกทํ
าให
ประชาชนส
วนหนึ่
งมี
อาชี
พทางการประมง ดั
งนั้
นจึ
งมี
แพปลาที่
รั
บซื้
ออาหารทะเลทุ
กชนิ
ดในเขตเทศบาลปากน้ํ
าหลั
งสวนนอกจากนี้
ยั
งมี
การประกอบอาชี
พ