st127 - page 45

๓๖
เมื่
อรั
ฐบาลได
สั่
งการให
หยุ
ดยิ
งและปล
อยให
กองกํ
าลั
งทหารญี่
ปุ
นผ
านไปสู
พม
าได
เมื
องหลั
งสวนเป
นเมื
องหนึ่
งที่
กองทหารญี่
ปุ
นได
เข
ายึ
ดพื้
นที่
สํ
าหรั
บเป
นที่
จั
ดเตรี
ยมเสบี
ยงอาหาร เพื่
อส
งไปบํ
ารุ
งให
กั
บกองทหารของตนที่
ปฏิ
บั
ติ
การอยู
ในพื้
นที่
ต
างๆ นอกจากนั้
นยั
งได
สร
างค
ายพั
ก เรื
อนพยาบาล กระจั
ดกระจายอยู
ทั่
วไปในเมื
องหลั
สวน ต
อมาเมื่
อสงครามโลกใกล
ยุ
ติ
ลง กองทั
พฝ
ายสั
มพั
นธมิ
ตรได
ระดมสรรพอาวุ
ธเข
าถล
มกองทั
พญี่
ปุ
นอย
าง
หนั
กหน
วงในทุ
กหนทุ
กแห
ง ขณะที่
สะพานข
ามแม
น้ํ
าแคว จั
งหวั
ดกาญจนบุ
รี
ได
ถู
กทํ
าลายลงโดยฝู
งบิ
นของ
กองทั
พสั
มพั
นธมิ
ตร ในขณะเดี
ยวกั
นสะพานรถไฟข
ามแม
น้ํ
าหลั
งสวนก็
ถู
กถล
มจนขาดสะบั้
นเช
นกั
นเพื่
อตั
เส
นทางการลํ
าเลี
ยงเสบี
ยงอาหารและอาวุ
ธยุ
ทโธปกรณ
ของกองทั
พญี่
ปุ
นทํ
าให
สะพานรถไฟข
ามแม
น้ํ
าหลั
งสวน
มี
ลั
กษณะเด
นที่
ไม
เหมื
อนใคร ตรงที่
ลั
กษณะของโครงสะพานเหล็
กสองตอนไม
เหมื
อนกั
นและในเวลาต
อมาญี่
ปุ
ได
ประกาศยอมแพ
สงครามอย
างไม
มี
เงื่
อนไขเมื่
อระเบิ
ดปรมาณู
๒ ลู
กที่
ฝ
ายสั
มพั
นธมิ
ตรทิ้
งลงใส
เมื
องนางาซากิ
และฮิ
โรชิ
มา เมื่
อวั
นที่
๒ กั
นยายนพ.ศ.๒๔๘๘
ในป
พ.ศ.๒๔๙๒ กระทรวงมหาดไทยได
ยกฐานะอํ
าเภอหลั
งสวนขึ้
นเป
นอํ
าเภอชั้
นเอก โดยมี
นายอํ
าเภอ
คนแรกคื
อ ขุ
นผดุ
งแดนสวรรค
(ฟุ
ง รั
กราชการ) จะเห็
นได
ว
าอํ
าเภอหลั
งสวนได
เจริ
ญก
าวหน
าขึ้
นโดยลํ
าดั
โดยเฉพาะอย
างยิ่
งในสมั
ยที่
นายพร
อม ชู
แข เป
นนายอํ
าเภอ (๑๙พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๔ – ๓พฤษภาคม พ.ศ.
๒๕๐๙) และได
รั
กษาการในตํ
าแหน
งนายกเทศมนตรี
เทศบาลตํ
าบลหลั
งสวนควบคู
ไปด
วย ได
ย
ายที่
ว
าการอํ
าเภอ
และสถานี
ตํ
ารวจภู
ธรไปสร
างในที่
ใหม
ณหมู
ที่
๑ ตํ
าบลขั
นเงิ
นและใช
พื้
นที่
เดิ
มซึ่
งเป
นพื้
นที่
บริ
เวณกํ
าแพงเมื
อง
สร
างตลาดเทศบาลและอาคารพาณิ
ชย
จากการศึ
กษาอดี
ตของเมื
องหลั
งสวนทํ
าให
ทราบถึ
งการเปลี่
ยนแปลงที่
เกิ
ดขึ้
นมาเป
นลํ
าดั
บ จากชุ
มชนเล็
กๆ ที่
ต
องขึ้
นอยู
กั
บเมื
องชุ
มพรจนมาเป
นอํ
าเภอหลั
งสวนในป
จจุ
บั
นที่
มี
ความ
เจริ
ญก
าวหน
า ชาวหลั
งสวนมี
ความภาคภู
มิ
ใจในประวั
ติ
ความเป
นมาอั
นยาวนานของเมื
อง หลั
งสวนเป
อย
างยิ่
ง และทํ
าให
มองเห็
นถึ
งความพยายามของบุ
คคลหลายท
านในการพั
ฒนาเมื
องหลั
งสวนในสมั
ยนั้
นให
เจริ
รุ
ดหน
ามาจนถึ
งป
จจุ
บั
นนี้
เช
นเดี
ยวกั
๕.๓ ด
านสั
งคม เศรษฐกิ
จ และการเมื
องการปกครอง
อํ
าเภอหลั
งสวนมี
ประชากรทั้
งสิ้
น ๕๕,๖๐๘ คน จํ
าแนกเป
น ประชากรชาย ๒๗,๖๖๓ คน และ
ประชากรหญิ
ง ๒๗,๙๔๕ คน (ข
อมู
ลป
พ.ศ. ๒๕๕๔) ประชากรในอํ
าเภอหลั
งสวนส
วนใหญ
มี
เชื้
อสายไทย และ
นั
บถื
อศาสนาพุ
ทธ ดั
งนั้
นจึ
งมี
วั
ดเป
นจํ
านวนมาก เช
น วั
ดขั
นเงิ
น วั
ดประสาทนิ
กร วั
ดโตนด วั
ดแหลมทราย
วั
ดราชบุ
รณะ เป
นต
น เมื่
อถึ
งวั
นสํ
าคั
ญทางศาสนา ประชาชนนิ
ยมไปทํ
าบุ
ญที่
วั
ดจนกลายเป
นวั
ฒนธรรมท
องถิ่
ที่
ดี
งาม การเป
นคนเข
าถึ
งศาสนาของคนในอํ
าเภอหลั
งสวนทํ
าให
คนหลั
งสวนอั
ธยาศั
ยดี
หน
าตายิ้
มแย
มแจ
มใส
พร
อมที่
จะเป
นมิ
ตรกั
บผู
อื่
น ด
านการประกอบอาชี
พ ประชากรของอํ
าเภอหลั
งสวนส
วนใหญ
มี
อาชี
พทางด
าน
การเกษตร โดยเฉพาะการทํ
าสวน เช
น สวนผลไม
สวนยางพารา สวนปาล
มน้ํ
ามั
น เป
นต
น และสื
บเนื่
องจาก
ลั
กษณะของที่
ตั้
งซึ่
งติ
ดกั
บอ
าวไทยทางทิ
ศตะวั
นออกทํ
าให
ประชาชนส
วนหนึ่
งมี
อาชี
พทางการประมง ดั
งนั้
นจึ
งมี
แพปลาที่
รั
บซื้
ออาหารทะเลทุ
กชนิ
ดในเขตเทศบาลปากน้ํ
าหลั
งสวนนอกจากนี้
ยั
งมี
การประกอบอาชี
1...,35,36,37,38,39,40,41,42,43,44 46,47,48,49,50,51,52,53,54,55,...92
Powered by FlippingBook