st127 - page 44

๓๕
เดี
ยวในมณฑลชุ
มพรที่
ทํ
าเหมื
องแร
ดี
บุ
กเป
นอาชี
พหลั
กซึ่
งกิ
จการเหมื
องแร
ดี
บุ
กในช
วงนี้
ได
มี
การสํ
ารวจพร
อม
กั
นให
สั
มปทานแก
ชาวตะวั
นตกและชาวจี
นเป
นจํ
านวนมาก
ต
อมาในพ.ศ.๒๔๔๑พระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล
าเจ
าอยู
หั
วได
เสด็
จประพาสเมื
องหลั
งสวนครั้
งที่
๒ ดั
งหลั
กฐานในจดหมายเหตุ
ของพระองค
เมื่
อครั้
งเสด็
จหั
วเมื
องในแหลมมลายู
ร.ศ.๑๑๗ ร.ศ.๑๑๘ และ ร.ศ.
๑๑๙ สรุ
ปความตอนหนึ่
งได
ว
า วั
นที่
๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๑ เวลาเช
าออกเรื
อพระที่
นั่
งประมาณหนึ่
งชั่
วโมง
ถึ
งเกาะลั
งกาจิ
ว แขวงเมื
องชุ
มพรทอดสมอเรื
อใกล
เกาะเวลาประมาณ๙นาฬิ
กา เสด็
จลงเรื
อพระที่
นั่
งกรรเชี
ยง
เรื
อไปประทั
บที่
หาดทราย ที่
เกาะนี้
มี
ถ้ํ
าเป
นที่
นกทํ
ารั
ง แต
ที่
ปากถ้ํ
าน้ํ
าทะเลท
วมลึ
กทรงเก
าอี้
หามทอดพระเนตร
รั
งนกในถ้ํ
า เวลานี้
นกทํ
ารั
งมี
ลู
กอ
อนเก็
บรั
งนกไม
ได
ได
แต
ทอดพระเนตรแล
วเสด็
จมาประทั
บที่
เชิ
งเขา ทรงจารึ
อั
กษรพระนาม จ.ป.ร. และป
ที่
เสด็
จ ร.ศ.๑๐๘ แล
วเสด็
จกลั
บลงเรื
อพระที่
นั่
งมหาจั
กรี
เวลาบ
ายสามโมงออกเรื
พระที่
นั่
งตี
กรรเชี
ยงมาเข
าปากน้ํ
าหลั
งสวนแล
วเสด็
จลงเรื
อกลไฟเล็
กลากจู
งไปตามแม
น้ํ
าจนถึ
งตํ
าบลบางยี่
โร
แล
วทรงช
างพระที่
นั่
งถึ
งบ
านพระยาจรู
ญราชโภคากร เวลาย่ํ
าค่ํ
าเสวยพระกระยาหารหลั
งจากนั้
นเสด็
ทอดพระเนตรละครของพระราชโภคากร จนถึ
ง ๕ ทุ
มเศษ และในวั
นที่
๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๒ เวลาบ
าย
สามโมง ทรงช
างพระที่
นั่
งจากที่
ประทั
บแรมถึ
งถ้ํ
าเขาเงิ
น เสด็
จไปนมั
สการพระเจดี
ย
ที่
อยู
หน
าถ้ํ
า พระเจดี
ย
ทรง
พระกรุ
ณาโปรดเกล
าฯ ให
สร
างขึ้
นเมื่
อเสด็
จประพาสคราวก
อน แล
วเสด็
จเข
าไปในถ้ํ
า มี
พระสงฆ
สวดชยั
นโตรั
เสด็
จ ทรงนมั
สการพระพุ
ทธรู
ปที่
อยู
ในถ้ํ
าและทรงจารึ
ก ร.ศ.๑๗๗ที่
อั
กษรพระนามซึ่
งจารึ
กไว
เมื่
อเสด็
จประพาส
ร.ศ.๑๐๘ แล
วเสด็
จกลั
บลงเรื
อพระที่
นั่
งล
องลงมาตามลํ
าน้ํ
าถึ
งที่
ประทั
บแรมเวลาค่ํ
าเสด็
จขึ้
นจากเรื
อ เมื่
อถึ
เวลากลางคื
นเสด็
จทอดพระเนตรละครของพระยาจรู
ญราชโภคากรซึ่
งจั
ดเล
นเรื่
องเจ
าเงาะเมื่
อตี
คลี
ต
อมาในพ.ศ.๒๔๕๙พระบาทสมเด็
จพระมงกุ
ฎเกล
าเจ
าอยู
หั
ว โปรดเกล
าฯ ให
เปลี่
ยนคํ
าว
า “เมื
อง”
เป
น “จั
งหวั
ด” เมื
องหลั
งสวนจึ
งกลายเป
นจั
งหวั
ดหลั
งสวน และเมื่
อไทยตกอยู
ในภาวะเศรษฐกิ
จตกต่ํ
าอั
เนื่
องมาจากสงครามโลกครั้
งที่
๑ทํ
าให
ฐานะทางการคลั
งของประเทศอยู
ในภาวะขาดดุ
ลติ
ดต
อกั
นหลายป
จนสิ้
รั
ชกาล เป
นผลให
รั
ฐบาลประกาศยกเลิ
กมณฑลชุ
มพรในวั
นที่
๓๑ มี
นาคม พ.ศ.๒๔๖๘ ทํ
าให
จั
งหวั
หลั
งสวนมี
ฐานะเป
นอํ
าเภอหนึ่
งของจั
งหวั
ดชุ
มพรในชื่
อของอํ
าเภอขั
นเงิ
นและเปลี่
ยนเป
นอํ
าเภอหลั
งสวนเมื่
วั
นที่
๑๑พฤศจิ
กายนพ.ศ.๒๔๘๑ แม
ว
าหลั
งสวนจะมี
ฐานะเป
นอํ
าเภอแต
ก็
เป
นอํ
าเภอที่
มี
ความสํ
าคั
ในช
วงสงครามโลกครั้
งที่
๒ ซึ่
งเกิ
ดขึ้
นโดยกองทั
พของจั
กรพรรดิ
ญี่
ปุ
นได
เป
ดฉากโจมตี
ฐานทั
พเรื
อของ
สหรั
ฐอเมริ
กา ที่
อ
าวเพิ
ร
ลฮาเบอร
ตลอดจนฟ
ลิ
ปป
นส
และเมื
องโกตาบารู
ทางเหนื
อของมลายู
อย
างรุ
นแรงเมื่
วั
นที่
๗ ธั
นวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ และทางญี่
ปุ
นได
ยื่
นข
อเสนอต
อรั
ฐบาลไทยว
า ขอให
กองทั
พญี่
ปุ
นผ
านประเทศไทย
เพื่
อมุ
งหน
าสู
อิ
นเดี
ยซึ่
งเป
นอาณานิ
คมของอั
งกฤษ แต
ไม
ทั
นที่
รั
ฐบาลไทยจะได
ตอบข
อเสนอของกองทั
พญี่
ปุ
น รุ
เช
าของวั
นที่
๘ ธั
นวาคม พ.ศ.๒๔๘๔ กองทั
พญี่
ปุ
นได
ถื
อโอกาสเคลื่
อนกองกํ
าลั
งจากอิ
นโดจี
นเข
าสู
ประเทศไทย
ทางอรั
ญประเทศ ส
วนหนึ่
งเดิ
นทางโดยทางเรื
อและยกพลขึ้
นบกพร
อมกั
นทุ
กแห
ง ทางจั
งหวั
ดชายทะเลหลาย
จั
งหวั
ดในประเทศไทยเช
นที่
สมุ
ทรปราการ ประจวบคี
รี
ขั
นธ
ชุ
มพร สุ
ราษฎร
ธานี
นครศรี
ธรรมราช สงขลา และ
ป
ตตานี
หลายพื้
นที่
ได
มี
การต
อต
านกองทั
พญี่
ปุ
นทํ
าให
เกิ
ดการสู
รบกั
บฝ
ายไทย
1...,34,35,36,37,38,39,40,41,42,43 45,46,47,48,49,50,51,52,53,54,...92
Powered by FlippingBook