บทที่
๓
ประเพณี
แห
พระแข
งเรื
อยาวขึ้
นโขนชิ
งธง อํ
าเภอหลั
งสวน จั
งหวั
ดชุ
มพร
จากการศึ
กษาประวั
ติ
ความเป
นมา ประเพณี
ปฏิ
บั
ติ
และสภาพป
ญหาของประเพณี
แห
พระแข
งเรื
อยาว
ขึ้
นโขนชิ
งธง อํ
าเภอหลั
งสวน จั
งหวั
ดชุ
มพร โดยการศึ
กษาเอกสาร การสนทนากลุ
ม และการสั
มภาษณ
เชิ
งลึ
ก
ปรากฏผลการศึ
กษา ดั
งนี้
๑. ความเป
นมาของงานประเพณี
แห
พระแข
งเรื
อยาวขึ้
นโขนชิ
งธง อํ
าเภอหลั
งสวน จั
งหวั
ดชุ
มพร
การดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตของคนหลั
งสวนมี
ความผู
กพั
นกั
บแม
น้ํ
ามานาน โดยได
อาศั
ยน้ํ
าในแม
น้ํ
าหลั
งสวนเพื่
อ
การเพาะปลู
กเนื่
องจากอาชี
พของคนหลั
งสวนส
วนใหญ
คื
อ การทํ
าสวนผลไม
ซึ่
งจะต
องใช
น้ํ
าเพื่
อความ
เจริ
ญเติ
บโตของไม
ผล ในสมั
ยโบราณคนหลั
งสวนยั
งใช
แม
น้ํ
าเป
นเส
นทางสั
ญจรไปมา เพื่
อที่
จะไปเยี่
ยมเยี
ยนซึ่
ง
กั
นและกั
น นอกจากนี้
ยั
งใช
เป
นเส
นทางการค
าขายระหว
างชนบทกั
บในเมื
อง โดยนํ
าผลผลิ
ตทางการเกษตร
บรรทุ
กเรื
อเข
ามาขายในตลาดและกลั
บไปด
วยการซื้
อของอุ
ปโภค บริ
โภคที่
จํ
าเป
น ดั
งนั้
นแทบทุ
กครั
วเรื
อนจึ
ง
ต
องมี
เรื
อเพื่
อใช
ในการเดิ
นทางและการขนส
งผลผลิ
ตทางการเกษตร จนกลายเป
นวิ
ถี
ชี
วิ
ตที่
จะต
องผู
กพั
นอยู
กั
บ
เรื
อและแม
น้ํ
า
เมื่
อฤดู
กาลผลไม
เสร็
จสิ้
นลงในเดื
อนกั
นยายนหรื
อเดื
อนตุ
ลาคมคนหลั
งสวนก็
จะหยุ
ดพั
กผ
อนด
วยการ
ทํ
าบุ
ญในเทศกาลทอดกฐิ
น ซึ่
งมี
ขึ้
นในวั
นแรม ๑ ค่ํ
า เดื
อน ๑๑ ด
วยการนํ
าเรื
อของตนมาตกแต
งองค
กฐิ
นแล
ว
นํ
าไปทอดตามวั
ดวาอารามต
างๆ ที่
ตนนั
บถื
อศรั
ทธา ซึ่
งวั
ดโดยส
วนใหญ
ในอํ
าเภอหลั
งสวนล
วนแต
ตั้
งอยู
ริ
มฝ
ง
แม
น้ํ
าทั้
งสิ้
น ขบวนเรื
อทอดกฐิ
นจะเป
นเรื
อลํ
าใหญ
ที่
ตั้
งองค
กฐิ
น ตกแต
งด
วยธงทิ
วอย
างสวยงาม นอกจากนั้
นก็
จะมี
เรื
อขนาดรองลงมาพายนํ
าและพายติ
ดตามแห
แหนองค
กฐิ
นไปตามคุ
งน้ํ
า มี
พิ
ณพาทย
ในเรื
อองค
กฐิ
น
บรรเลงอย
างสนุ
กสนาน เสี
ยงดั
งลั่
นไปทั่
วคุ
งน้ํ
า หลั
งจากทอดกฐิ
นเสร็
จเรี
ยบร
อยจะมี
การเล
นเรื
อเพลงและลง
ท
ายด
วยการพายเรื
อแข
งกั
น การแข
งเรื
อของหลั
งสวนมี
ผู
สั
นนิ
ษฐานว
าคงจะเกิ
ดขึ้
นราว พ.ศ. ๒๓๘๗ ในสมั
ย
รั
ชกาลที่
๓ แห
งกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร
ซึ่
งช
วงนั้
นเมื
องหลั
งสวนมี
วั
ดเกิ
ดขึ้
นหลายวั
ด โดยที่
วั
ดส
วนใหญ
อยู
ริ
มแม
น้ํ
า
เมื่
อถึ
งวั
นแรมหนึ่
งค่ํ
าเดื
อนสิ
บเอ็
ด ซึ่
งเป
นวั
นออกพรรษา วั
ดต
างๆ จะแห
กฐิ
นมายั
งวั
ดหลวงคื
อ วั
ดด
าน
ประชากร ในส
วนของการแข
งขั
นเรื
อยาวนั้
น พอจะหาหลั
กฐานทางประวั
ติ
ศาสตร
ที่
สามารถอ
างอิ
งได
ว
า การ
แข
งขั
นเรื
อยาวของหลั
งสวนมี
มานานแล
ว แม
เมื่
อครั้
งพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล
าเจ
าอยู
หั
วรั
ชกาลที่
๕
แห
งกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร
ได
เสด็
จประพาสถึ
งเมื
องหลั
งสวนซึ่
งขณะนั้
นมี
ฐานะเป
นหั
วเมื
องจั
ตวาขึ้
นตรงต
อ
กรุ
งเทพมหานคร เมื่
อวั
นที่
๙ สิ
งหาคม พ.ศ. ๒๔๓๒ พระยาจรู
ญราชโภคากร (คอซิ
มเต็
ก ณ ระนอง) เจ
า
เมื
องหลั
งสวนในขณะนั้
น ได
จั
ดขบวนเรื
อรั
บเสด็
จจากปากอ
าวไทยเพื่
อนํ
าเรื
อกลไฟพระที่
นั่
งทอนิ
ครอฟต
มา
ตาม ลํ
าน้ํ
าหลั
งสวนและเสด็
จประทั
บที่
ตํ
าบลบางขั
นเงิ
น หนึ่
งในขบวนเรื
อที่
รั
บเสด็
จในคราวนั้
นคื
อ “เรื
อ
มะเขื
อยํ
า” สั
งกั
ดวั
ดดอนชั
ย ซึ่
งเป
นเรื
อยาวที่
ใช
แข
งขั
นและครองความเป
นเลิ
ศอยู
เสมอๆ ในสมั
ยนั้
น (เมื
อง
หลั
งสวน: อนุ
สรณ
๑๐๐ป
สวนศรี
๒๔๔๒-๒๕๔๒. ๒๕๔๒ : ๑๑๗-๑๑๙) ป
จจุ
บั
นเรื
อลํ
านี้
ยั
งอยู
ในสภาพดี