sp104 - page 67

บทที่ ๕ ผลการวิจัย :: ๕๙
เนื่องจากวิจัยไปส่วนหนึ่งแล้วก็ต้ องมีคาถามที่ basic ที่สุดเลยว่า เมื องไทยเรามีค่ านิยมอะไร
แล้ วจาแนกเป็นอายุ จาแนกเป็นการศึกษา จาแนกเป็ นพื้นที่ ในเมือง นอกเมื อง คนอายุต่างๆ กั น
การศึกษาต่างๆ กัน อาชีพต่างๆ กัน รายได้ ต่างๆ กัน คือจะมี ปัจจัยพวกนี้เป็ นตัวที่ ทาให้เห็นความต่ าง
ของคาตอบ
ทีนี้ถ้าสมมุติ ว่าเราได้ออกมาในเชิงพื้ นที่ คิดว่าน่ าจะวิจัยในเชิงพื้นที่ ยกตัวอย่ างเช่น ตาบล
หมู่บ้านหนึ่ง เขามีค่านิยมอะไร ตอนนี้เราค่อนข้างชัดว่าค่ านิยมของเขาถูกกลบด้วยสื่อ ถ้าเราเข้าไปใน
อีสาน เราจะได้ ค่านิ ยมในเชิงการเมื องแบบหนึ่ง ถ้าไปภาคใต้ อีกอย่ างหนึ่ง ถ้ าค่านิยมต่ อการเมือง
ค่ านิยมในเรื่ องที่เกี่ยวกับการเมื อง ค่ านิ ยมคือ นิ ยมอะไร นิยมใคร มั นก็จะเจอความต่างตรงนั้น
เพราะฉะนั้นก็ ต้องถามว่า ถ้ าเราจะเข้าไปศึกษา qualitative เราจะได้คาตอบมานิดเดี ยว หมู่บ้านนี้
เป็นยังไง แล้วเราทาตั้ง ๗๐,๐๐๐ หมู่บ้านก็ไม่เสร็จ มันก็ต้ องถามว่าเชิงปริมาณทาได้มั๊ ย ได้ แต่ มันจะ
ได้ คาตอบไม่ลึก เพราะฉะนั้ นคาตอบแรกที่น่าจะทาคื อ basic ที่สุดเลยคื อ ในเมื องไทยมีค่านิ ยม
อะไรบ้าง ที่นี้เราก็ต้องดึงตรงนี้ออกมา
ก่อนอื่นคงต้องรวบรวมให้ได้ว่าค่ านิยมจากการสารวจ ทาวิจัยเชิงสารวจออกมาให้ได้ว่ าตอนนี้
มีค่ านิยมอะไรบ้าง แล้วก็แยกประเภทตามตัวแปร จาแนกให้ได้ ถ้าลงลึกลงไปดู ก็คือ ค่ านิยมหนึ่งตัวที่
อยู่ในพื้นที่มั นเกิดมาได้ยังไง ถ้าพอเรารู้ที่เกิดของมัน เราก็จะสามารถเปลี่ยนยังไงให้ มันเป็นค่านิยมที่ ดี
เพราะฉะนั้ นก็จะเป็นการวิจัยค่ อนข้างยาว โดยมีกระบวนการดั งนี้ คื อ
๑) เริ่มด้วยวิจัยเชิงสารวจ ด้วยการเจาะพื้นที่
๒) แล้วเข้าไปทาqualitative ก็จะได้สาเหตุชัดๆ ออกมา
๓) แนวทางที่จะปรับให้ค่านิยมเหล่านี้เป็นค่านิยมที่พึงประสงค์ เพราะตอนนี้เป็ นค่านิยม
ที่ไม่พึ งประสงค์ ทายั งไงให้เป็นพึงประสงค์ เพราะฉะนั้นงานวิจัยนี้ดิฉันมองว่าหลาย
ปี ชั่วชีวิตคนหละ
ปัญหาของเราที่เราเจอคือ การวิ จัยพวกนี้มั กไม่ค่อยประสพผลสาเร็จ ก็ คือ หนึ่งคนไม่ค่อย
เข้าใจว่าการจะสร้างอะไรให้ เกิดในตัวคน มันยาก เช่น ต้องการสร้างความซื่อสั ตย์ให้เป็นค่ านิยมที่พึง
ประสงค์หรือวินัยก็ได้ ตอนนี้เราชัดแล้วหละ ว่าในโรงเรียนจะต้องสร้างอันแรกสุ ดคือ วินัย เมื่อไรเด็ กมี
วิ นัย เด็กก็จะมีอื่น และสุ ดท้ายเด็กก็จะเก่ง เพราะฉะนั้ นที่ นั่งคุยกั น โรงเรี ยนทางเลือก มีโรงเรี ยน
อาจารย์อาจอง โรงเรียนประภาพั ทธิ์รุ่ งอรุณ โรงเรียนเพลินพัฒนา โรงเรี ยนคุณพารณ โรงเรียนคุณมี
ชัย โรงเรี ยนของเกียรติ วรรณ อมาตยกุ ล ทั้ง ๖ โรงเรี ยนที่ เข้ามาคุ ย เราได้ข้อสรุ ปเลยตรงกันว่า
“วิ นัย” แล้วสร้ างให้ได้ พอได้แล้วจะได้อื่ น แต่ทีนี้กระทรวงศึ กษาเป็นต้ นเหตุของความไม่รู้ เรื่อง เวลา
เขาทาหลักสูตรออกมา เขาต้ องการหลักสูตรที่พึงประสงค์ ๑๓ ข้อ เราก็ตั้ งคาถามว่า คุณทาไม่ได้ หรอก
คุณจะสร้ างใครสักคนขึ้ นมา มันตลอดชี วิตเขานะ มันไม่ใช่การสอนแต่เป็ นการสร้าง ที่กระทรวงศึกษา
ไม่เข้าใจว่ าการสร้างคนมันใช้เวลาต่ อเนื่อง เพราะฉะนั้นโรงเรี ยนก็จะมี ๑๓ ตัว ตั้งเป้าไว้ เลยว่าต้ องให้
เด็ กเป็ นให้ ได้ สุ ดท้ายมันก็ไม่ ได้ซั กคน เพราะว่ าครูแต่ละคนก็ ไม่เข้ าใจว่าการสร้างเด็ กคืออะไร