sp104 - page 64

บทที่ ๕ ผลการวิจัย :: ๕๖
ภาพที่ ๕ จานวนเอกสารที่เกี่ ยวข้องกับค่านิยมไทยจาแนกตามประเภทต่างๆ ๗ ประเภท ช่วงปี พ.ศ.
๒๕๕๐-๒๕๕๔
แนวทางการวิจัยด้านค่านิยมไทยในอนาคต
รายละเอี ยดของแนวทางในการวิจัยด้ านค่านิ ยมในอนาคตในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้ทาการ
วิ เคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ผู้ทรงคุ ณวุฒิ ในสาขาต่างๆ จานวน ๑๐ ท่าน แต่ละท่านได้ให้ข้ อมูล
อันเป็นประโยชน์ ดั งรายละเอียดต่อไปนี้
ใครบ้างที่ควรจะทาวิ จัยเรื่ องค่านิ ยมไทย และกระบวนการนี้ควรทาเป็ นระบบหรือไม่ อั นนี้
แหละคืออันที่น่าคิด แน่นอนค่ ะ ข้อมูลที่ ภาครัฐออกมาทาวิจัยเรื่องค่ านิยมไทยน่าจะเป็ นคนละอย่าง
กับที่ธุ รกิจบันเทิงทาวิจัยเกี่ยวกับค่ านิยมไทย หรืออาจจะต่ างไปจากกลุ่มศาสนา หรือกลุ่มอะไรที่ทา
เรื่องค่านิยมไทย เพราะฉะนั้นที่คิดว่าน่าที่จะคุยกันก่อนที่จะทาวิจัย ก็คื อ คนที่มีอานาจที่เกี่ยวข้องมอง
ว่ า มีการประชุมกัน หารือกั น และมองไปข้างหน้าว่าอะไรคือคุ ณค่า หรือค่ านิยมที่พึงประสงค์ ที่อยาก
เห็นคนไทยเป็ น อยากเห็นสังคมไทยเป็น ตั้งแต่เกิด จนกระทั่งถึงแก่ เพราะว่ ามันจะเป็นส่วนหนึ่ งของ
วิ ถีชีวิต ที่เราต้ องยอมรับว่า วั นนี้มันไม่มี ของเก่าที่จะคงค้างอยู่ ถ้ ามันไม่มี การจิ้น (จิตนาการ) ไปแล้ว
บอกว่าเราจะส่ งเสริมให้มันโดดเด่ น หรืออาจจะมีของใหม่ที่เกิดขึ้นแล้ ว ไม่ถูกใจบางกลุ่ ม เพราะเราคิด
ว่ ามั นไม่ ใช่ แต่ในขณะที่ บางกลุ่ม อาจจะเรี ยกร้องอยากจะได้ อั นนี้ คื อความท้าทายเพราะว่ า
วัฒนธรรมมันเป็นพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้ นคิดว่าสิ่งที่สาคัญก่ อนที่จะทาวิจัยกันอย่างจริงจัง หรือจะมาสร้างระบบในการวิจัย
ว่ าด้วยเรื่ องค่านิยมไทย ควรที่จะถามผู้อานาจในการตัดสินใจ ทั้งหน่ วยงานภาครัฐ ภาคธุ รกิจเอกชน
ภาคสั งคม รวมทั้งภาคการศึกษา ว่ าอยากเห็นใครเป็นยังไงในอนาคตตั้งแต่ วัยเด็กจนกระทั่ งถึงวั ยชรา
0
5
10
15
20
25
30
1
2
3
4 5
6
7
ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔