nt142 - page 105

91
ภาคสนามทางมานุ
ษยวิ
ทยาของพั
ชริ
นทร์
สิ
รสุ
นทร (2552.หน้
า139) และศั
กดิ
ชั
ย เกี
ยรติ
นาคิ
นทร์
(2546 .
หน้
า 52) เป็
นประเด็
นในการวิ
จั
ยภาคสนาม
2. การวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลภาคสนามผู
วิ
จั
ยได้
วิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลเบื
องต้
นจากการสั
มภาษณ์
ทั
นที
ขณะเก็
ข้
อมู
ลในพื
นที่
ที่
ศึ
กษา โดยผู
วิ
จั
ยได้
ทํ
าการจดบั
นทึ
กประเด็
นสํ
าคั
ญๆ ขณะสั
มภาษณ์
ไว้
บั
นทึ
กภาพเพื่
นํ
าไปใช้
ประกอบกั
บข้
อมู
ลทั
งหมดที่
ได้
จากการสั
มภาษณ์
สอบถามรวมทั
งฟั
งจากเทปบั
นทึ
กเสี
ยงซํ
าจากการ
สั
มภาษณ์
เพื่
อเป็
นการตรวจสอบข้
อมู
ลเรื่
องเดี
ยวกั
นจากแหล่
งข้
อมู
ลหลายแหล่
งซึ
งได้
กระทํ
าภายหลั
งจาก
การสั
มภาษณ์
ทุ
กๆ ครั
งแล้
วนํ
าไปถอดเทปบั
นทึ
กคํ
าสั
มภาษณ์
แบบคํ
าต่
อคํ
าแต่
ละรายภายหลั
งจากการ
สั
มภาษณ์
แบบคํ
าต่
อคํ
าแต่
ละรายภายหลั
งกลั
บจากพื
นที่
อี
กครั
งหนึ
งผู
วิ
จั
ยได้
จั
ดหมวดหมู
สาระจากการ
สั
มภาษณ์
เพื่
อหาความสั
มพั
นธ์
เชื่
อมโยงเชิ
งเหตุ
ผลโดยผู
วิ
จั
ยได้
กํ
าหนดรหั
สหมาย (Code) แยกเป็
นหมวดหมู
(Coedmapping) และเปรี
ยบเที
ยบความเหมื
อนและความแตกต่
างหลั
งจากนั
นผู
วิ
จั
ยจึ
งเลื
อกผู
ให้
ข้
อมู
ลหลั
คนต่
อไป
การวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลขณะเก็
บรวบรวมข้
อมู
ลภาคสนาม ผู
วิ
จั
ยตรวจสอบความแม่
นตรงข้
อมู
(Validity) และความเชื่
อถื
อได้
(Reliability) ของข้
อมู
ลภาคสนามทุ
กครั
งที่
เก็
บข้
อมู
ลด้
วยการดู
ข้
อมู
ลด้
วยการ
ดู
ข้
อคํ
าถามสื่
อความหมายตรงตามที่
ต้
องการหรื
อไม่
ขณะที่
สั
มภาษณ์
คํ
าตอบที่
ได้
สอดคล้
องกั
บบริ
บทของ
ชุ
มชนข้
อมู
ลเดิ
มและข้
อสั
งเกตของนั
กวิ
จั
ยหรื
อไม่
ทดสอบกั
บสภาพแวดล้
อมและข้
อมู
ลอื่
นที่
มี
อยู
เดิ
มจาก
แหล่
งอื่
นๆ ในลั
กษณะทดสอบแบบสามเส้
า (Triangulation) ตามระเบี
ยบวิ
จั
ยเชิ
งคุ
ณภาพเพื่
อให้
ข้
อมู
ลมี
ความหมายแม่
นยํ
าและเชื่
อถื
อได้
มากที่
สุ
ด โดยเฉพาะอย่
างยิ่
งในช่
วงที่
สองเป็
นการตรวจข้
อมู
ลที่
ได้
จั
ดเป็
ดั
ชนี
แล้
ว จากการสั
งเกตพฤติ
กรรมการสนทนากั
บกลุ่
มผู
ให้
ข้
อมู
ลหลั
กกรรมการชุ
มชนและบุ
คคลทั่
วไป
โดยมี
การตรวจสอบสามเส้
าในด้
านต่
างๆดั
งนี
(สุ
ภางค์
จั
นทวานิ
ช , 2536.หน้
า 103)
1. ตรวจสอบด้
านปริ
มาณตรวจสอบข้
อมู
ลที่
สั
งเกตและบั
นทึ
กว่
าได้
ปริ
มาณเพี
ยงพอครอบทุ
กข้
กระทงในแนวคํ
าถาม และเพี
ยงพอตามวั
ตถุ
ประสงค์
หรื
อไม่
หากข้
อมู
ลไม่
เพี
ยงพอได้
ทํ
าการเก็
บข้
อมู
เพิ่
มเติ
มหลายครั
งจนสามารถสรุ
ปข้
อมู
ลที่
ตอบวั
ตถุ
ประสงค์
ของภารกิ
จของการวิ
จั
ยได้
2. ตรวจสอบแหล่
งข้
อมู
ล (Data triangulation) ตรวจสอบเรื่
องเวลา สถานที่
และบุ
คคลว่
า เมื่
อต่
าง
เวลา ต่
างสถานที่
ต่
างบุ
คคล แล้
วข้
อมู
ลยั
งเหมื
อนเดิ
มหรื
อไม่
โดยการจั
ดตารางกํ
าหนดเวลาในการสั
งเกต
พฤติ
กรรมให้
ครอบคลุ
มทุ
กช่
วงเวลา เพื่
อให้
ครอบคลุ
มมากยิ่
งขึ
3. ตรวจสอบข้
อมู
ลกั
บเจ้
าของข้
อมู
ลและผู
เกี่
ยวข้
องอื่
น (Cross check) ผู
วิ
จั
ยซั
กถามผู
ให้
ข้
อมู
ลและ
ตรวจสอบจากผู
เกี่
ยวข้
องอื่
น ว่
าข้
อมู
ลถู
กต้
องหรื
อไม่
ด้
วยการสอบถามซํ
าในประเด็
นเดี
ยวกั
น แล้
วให้
ความเห็
นกั
บผู
วิ
จั
ยในเรื่
องการตี
ความการวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ล เพื่
อเป็
นการยื
นยั
นความเชื่
อถื
อได้
ของข้
อมู
ลและ
รายงาน
1...,95,96,97,98,99,100,101,102,103,104 106,107,108,109,110,111,112,113,114,115,...262
Powered by FlippingBook