bk130 - page 3

II
สามทาง (two- way and three-way ANOVA) เพื่ อศึ กษาอิ ทธิพลภายในกลุ่ มและระหว่างกลุ่ม
ส่วนการวิ เคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์พูดคุยทั้งอย่างเป็ นทางการและไม่เป็ นทางการ
ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis)
สรุปผลการวิจัย
๑) กลุ่ มตัวอย่ างนั กศึกษาชายหญิ งในมหาวิ ทยาลั ยของรั ฐและของเอกชนในเขต
กรุงเทพมหานครและปริ มณฑล จากระดับชั้นปีที่ ๑ ถึงชั้นปีที่ ๔ ขึ้นไปใน ๒ กลุ่มสาขาวิชา ส่วนใหญ่
มีเกรดเฉลี่ยสะสมอยู่ระหว่ าง ๒.๕๑-๓.๐๐ มีรายได้เฉลี่ยต่ อเดือนจากผู้ปกครองหรือจากการหามาได้
ด้วยตนเองมากกว่ า ๕,๐๐๐ บาท พักอาศัยอยู่กั บบิดามารดาของตนเองเป็นส่วนใหญ่ (๔๔%) รองลง
ไปคืออาศั ยในหอพัก (๑๘.๗%) และเช่าบ้ านพักตามลํ าพั งคนเดียว (๑๗.๘%) และบิ ดามารดาของ
นักศึกษาส่ วนใหญ่ (๗๗%) ยั งอยู่ร่ วมกันในฐานะคู่สมรส
๒) นักศึกษามากกว่าร้อยละ ๘๐ มี การเปิดรับสื่ออนาจารผ่าน internet โดยใช้บริ การผ่าน
facebook และ smartphone เป็ นส่ วนใหญ่ที่ บ้ านพั กของตนเอง ที่ หอพั ก และที่ บ้ านเพื่ อน
ตามลํ าดับ นักศึ กษาส่วนมากรู้จั กเว็บไซต์อนาจาร ๑-๓ เว็ บไซต์ ในขณะที่นั กศึกษาชายหญิงอี ก
จํานวนไม่น้อยไม่รู้ จักเว็บไซต์อนาจารเลย การเปิดรับสื่ ออนาจารของนักศึกษา ส่ วนใหญ่เปิดรับตาม
โอกาสที่อํ านวยให้ และใช้เวลาในการเปิดรับตามแต่ความสะดวกซึ่งมักจะไม่ เกินครั้งละ ๑ ชั่วโมง โดย
มี แรงจูงใจในการเปิดรับสื่ ออนาจารมาจากเพื่ อน จากสื่อประเภทต่ างๆ และจากตนเองตามลํ าดับ
นอกจากนี้ ยั งพบว่ านักศึ กษาชายหญิงเคยประกาศหาคู่ทางอิ นเทอร์เน็ ต ส่วนช่ วงอายุในการเริ่ม
เปิดรับสื่ออนาจาร พบว่านักศึกษาชายส่วนใหญ่เริ่ มรู้จักและสัมผัสสื่ออนาจารเมื่ อช่วงอายุ ๑๐-๑๓ ปี
ส่ วนนักศึกษาหญิ งเมื่อช่วงอายุ ๑๔-๑๖ ปี มากที่สุ ด โดยมีวั ตถุประสงค์ ในการเปิดรั บสื่ออนาจาร
แตกต่างกันเล็กน้อย กล่าวคือนักศึ กษาชายมีวัตถุประสงค์ ๓ อันดับแรกคือ เพื่อความบั นเทิง เพื่อผ่อน
คลายความเครียด และเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่นักศึกษาหญิงมีวัตถุประสงค์หลัก ๓
ประการแรกคือ เพื่อความบั นเทิง เพื่อสนองความอยากรู้ อยากเห็น และเพื่อศึ กษาความรู้เรื่องเพศ ซึ่ ง
เมื่อพิ จารณาตามกลุ่มสาขาวิชาพบว่า นั กศึกษากลุ่ มวิชามนุษยศาสตร์/สังคมศาสตร์ ต้ องการเปิดรับ
สื่ออนาจารเพื่อความบันเทิง เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น และเพื่ อผ่อนคลายความเครียด ในขณะ
ที่นักศึกษากลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ มี วั ตถุประสงค์เพื่ อความบันเทิง เพื่อศึกษาหาความรู้เรื่องเพศ
และเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น ตามลําดั บ
๓) ผลจากการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ ยเจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศ และการป้องกันพฤติกรรม
เสี่ ยงทางเพศของนักศึกษาได้ว่ า นักศึกษาชายและหญิ งมีเจตคติต่อพฤติ กรรมทางเพศในระดับปาน
กลางโดยนักศึกษาชายมีค่ าเฉลี่ยของเจตคติต่อพฤติ กรรมทางเพศอยู่ในระดั บที่สูงกว่านักศึกษาหญิ ง
แต่ มี ค่ าเฉลี่ยของการป้ องกั นพฤติ กรรมเสี่ยงทางเพศในระดั บต่ํากว่าเพศหญิ งอย่ างมี นัยสําคั ญ
นักศึกษากลุ่มสาขาวิชามนุ ษยศาสตร์/สังคมศาสตร์ และกลุ่มสาขาวิชาวิ ทยาศาสตร์ มี ค่าเฉลี่ยของเจต