๒
เริ่
มต้
น ในยุ
คดั
้
งเดิ
มพวกเขานาเรื
อท่
องไปตามหมู
่
เกาะ บางครั
้
งจะขึ
้
นเกาะเพื
่
อเก็
บของป ่
า เช่
น
มะพร้
าว เผื
อก มั
นหรื
อเก็
บหอยช่
วงน
้
าลง แต่
ส่
วนใหญ่
แล้
วจะมุ่
งล่
าสั
ตว์
ทะเลเป็
นอาหาร โดยใช้
เครื
่
องมื
อง่
าย ๆ ทามาจากวั
สดุ
ที
่
หาได้
ในท้
องถิ่
น จนได้
ชื
่
อว่
าเป็
นพวกที
่
มี
ความสามารถในการ
ดาน
้
าแทงปลาจั
บกุ
้
งมั
งกรด้
วยมื
อเปล่
า และดาเก็
บหอยชนิ
ดต่
าง ๆ ขึ
้
นมาจากก้
นทะเล
เมื
่
อมี
กลุ่
มชนอื
่
น ไม่
ว่
าจะเป็
นไทยมุ
สลิ
ม ไทยจี
น ไทยพุ
ทธเข้
ามาอาศั
ยตั
้
งถิ่
นฐานแถบ
หมู
่
เกาะกั
นมากขึ
้
น ชาวเลก็
เคลื
่
อนย้
ายชุ
มชนไปอยู
่
ตามหั
วเกาะ สุ
ดปลายแหลม ซึ
่
งมั
กเป็
น
บริ
เวณที
่
คลื
่
นลมแรง เพื
่
อหนี
การรบกวนจากกลุ่
มชนอื
่
น เพราะพวกเขารั
กสงบและมั
กจะ
หวาดกลั
วคนแปลกหน้
า แต่
เมื
่
อผู
้
คนมากขึ
้
น ชาวเลก็
จาเป็
นที
่
จะต้
องติ
ดต่
อกั
บชุ
มชนภายนอก
มี
การนาส่
วนที
่
เหลื
อที
่
หาได้
จากทะเลไปแลกเปลี
่
ยนสิ่
งของเครื
่
องใช้
ที
่
ขาดแคลน เช่
น จะนา
เครื
่
องรางและสิ่
งประดั
บพวกเกร็
ดกระเบนท้
องน
้
า กาไลกระ หอยเบี
้
ย กั
ลป ั
งหา และไข่
มุ
ก ไป
แลกกั
บเสื
้
อผ้
ามานุ่
งห่
มหรื
อเอาปลาไปแลกข้
าวสาร
ต่
อมาชาวเลอู
รั
กลาโว้
ยหั
นมาปรั
บเปลี
่
ยนจากการอาศั
ยทะเลเป็
นหลั
ก เริ่
มลงมื
อทานา
ปลู
กพื
ชผั
ก โดยใช้
พื
้
นที
่
ราบบนเกาะเป็
นเรื
อกสวนไร่
นา เป็
นช่
องทางเสริ
มในการดารงชี
พ สิ่
งใด
ที
่
สามารถทาด้
วยตนเองได้
จะลงมื
อทา แต่
หากไม่
สามารถสร้
างได้
ด้
วยตนเองจึ
งจาเป็
นต้
องหาสิ่
ง
อื
่
นมาแลกเปลี
่
ยน เช่
น ถ้
วย ชาม หม้
อ เสื
้
อผ้
า เครื
่
องนุ่
งห่
มต่
าง ๆ ชาวเลไม่
สามารถหามาหรื
อ
สร้
างได้
ด้
วยตนเอง จึ
งจาเป็
นต้
องนามาแลกเปลี
่
ยน โดยใช้
สิ่
งที
่
หามาได้
เอง เช่
น สั
ตว์
ทะเล หรื
อ
แม้
กระทั
่
งที
่
ดิ
นบนเกาะ มาแลกเปลี
่
ยนกั
บสิ่
งของเหล่
านี
้
ในขณะนั
้
นสิ่
งไหนที
่
มี
ความจาเป็
น
สาหรั
บพวกเขาก็
จะหามาให้
ตามที
่
คนภายนอกต้
องการแม้
จะเป็
นสิ่
งที
่
มี
มู
ลค่
ามากในอนาคตก็
ตาม เมื
่
อกลุ่
มคนอื
่
น เข้
ามาจึ
งใช้
วิ
ธี
การเหล่
านี
้
แลกเปลี
่
ยนหรื
อขอซื
้
อที
่
ดิ
นราคาถู
กจากชาวเล
ด้
วยเห็
นความสาคั
ญของทะเลมากกว่
าที
่
ดิ
นจึ
งยอมแลกเปลี
่
ยนซื
้
อขายให้
กั
บกลุ่
มคนภายนอก
มากขึ
้
น จนต้
องย้
ายที
่
อยู
่
อาศั
ยเข้
าไปด้
านในของเกาะ บริ
เวณชายหาดจึ
งตกไปอยู
่
ในกรรมสิ
ทธิ
์
ของกลุ่
มคนที
่
เข้
ามาที
หลั
ง ไม่
ว่
าจะเป็
นไทยพุ
ทธ ไทยจี
น ไทยมุ
สลิ
ม และโดยเฉพาะนายทุ
นที
่
เข้
ามาพร้
อมกั
บธุ
รกิ
จการท่
องเที
่
ยว
๔
หลั
งเหตุ
การณ์
สึ
นามิ
ความเปลี
่
ยนแปลงของชุ
มชนทั
้
งบนเกาะลั
นตาจั
งหวั
ดกระบี
่
และ
เกาะหลี
เป๊
ะ จั
งหวั
ดสตู
ลยิ่
งก่
อตั
วเพิ่
มมากขึ
้
น สาเหตุ
หลั
กมิ
ใช่
เหตุ
การณ์
สึ
นามิ
เท่
านั
้
น แต่
เหตุ
การณ์
ที
่
นาไปสู
่
ผลกระทบจากการเปลี
่
ยนแปลงอย่
างรวดเร็
วนั
่
นคื
อ การส่
งเสริ
มนโยบายการ
ท่
องเที
่
ยวเพื
่
อให้
ทั
้
งสองเกาะในสองจั
งหวั
ดเป็
นสถานที
่
ท่
องเที
่
ยวสาคั
ญของทะเลอั
นดามั
น กลุ่
มที
่
อาภรณ์
อุ
กฤษณ์
, ๒๕ ๒. “พิ
ธี
ลอยเรื
อ: ภาพสะท้
อนสั
งคมและวั
ฒนธรรมของชาวเล กรณี
ศึ
กษา
ชุ
มชนบ้
านหั
วแหลม เกาะลั
นตา จั
งหวั
ดกระบี
่
” วิ
ทยานิ
พนธ์
ปริ
ญญามหาบั
ณฑิ
ต สาขามานุ
ษยวิ
ทยา บั
ณฑิ
ต
วิ
ทยาลั
ย มหาวิ
ทยาลั
ยศิ
ลปากร, ๒ -๒๔.
๔
สมาคมหยาดฝน, ๒๕๕ . “ผลกระทบจากสึ
นามิ
และการปรั
บตั
วของ “อู
รั
กลาโว้
ย” ชาวเลบ้
าน
คลองดาว ตาบลศาลาด่
าน อาเภอเกาะลั
นตา จั
งหวั
ดกระบี
่
” เอกสารอั
ดสาเนา,