nt142 - page 162

148
ที่
ดี
งาม โดยการสร้
างกระบวนการต่
าง ๆที่
จะให้
คนมี
ความรู
ความชํ
านาญในวิ
ชาชี
พต่
าง ๆ จนสามารถ
ดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตได้
อย่
างเหมาะสม สามารถนํ
าไปใช้
ในทางสร้
างสรรค์
และเกื
อกู
ลแก่
สั
งคม ดั
งนั
นการพั
ฒนา
ยุ
ทธศาสตร์
เชิ
งวั
ฒนธรรมของจั
งหวั
ดพิ
ษณุ
โลก จึ
งมี
ความสํ
าคั
ญในการนํ
าไปใช้
ในการดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตและ
บํ
าเพ็
ญกิ
จกรรมแก่
สั
งคมและชุ
มชน เป็
นกระบวนการที่
ช่
วยให้
คนได้
พั
ฒนาตนเองในด้
านต่
างๆรวมทั
งการ
พั
ฒนาศั
กยภาพของตนให้
บรรลุ
ตามคุ
ณลั
กษณะที่
พึ
งประสงค์
ของประเทศคื
อการอยู
ร่
วมกั
นอย่
างสงบและ
สั
นติ
สุ
วั
ฒนธรรมเป็
นรากฐานที่
สํ
าคั
ญของการดํ
ารงอยู
และการพั
ฒนาประเทศชาติ
จะก้
าวหน้
าและมี
เสถี
ยรภาพเพี
ยงใด ก็
จะต้
องพั
ฒนาในบนรากฐานของการคํ
านึ
งถึ
งศั
กยภาพและการดํ
ารงอยู
ของ
ศิ
ลปวั
ฒนธรรม ทั
งนี
ด้
วยสาเหตุ
1. การพั
ฒนาที่
ปราศจากความเข้
าใจวั
ฒนธรรมของตนเอง จะทํ
าให้
เราขาดความภู
มิ
ใจ ขาด
กํ
าลั
งใจ ขาดความเชื่
อมั่
น ในกระบวนการพั
ฒนาเรื่
องต่
าง ๆ เหมื
อนกั
น ดั
งที่
พั
ชริ
นทร์
สิ
รสุ
นทร (17
ธั
นวาคม 2551) กล่
าวว่
า “...เป็
นวิ
สั
ยของมนุ
ษย์
ที่
ใคร่
จะรู
ตนคื
อใคร มาจากไหนเสี
ยก่
อน จึ
งจะตั
งหลั
กมั่
เพื่
อก้
าวไปข้
างหน้
าอย่
างมั่
นใจ เราต้
องเข้
าใจอดี
ตเสี
ยก่
อน แล้
วจึ
งจะสามารถรั
บมื
อกั
บปั
จจุ
บั
นและวางหลั
สร้
างอนาคตอย่
างมั่
นคง...”
2. การพั
ฒนามิ
ใช่
เพี
ยงสนใจถึ
งความเติ
บโตของเศรษฐกิ
จเท่
านั
น แต่
ต้
องคํ
านึ
งถึ
ง การเกาะ
เกี่
ยวกั
นอย่
างแน่
นแฟ้
นของสั
งคม คุ
ณภาพชี
วิ
ตที่
ดี
ของประชาชน ความสมดุ
ลของ สิ่
งแวดล้
อม การ
พั
ฒนาจะไม่
บั
งเกิ
ดผลเลย ถ้
าไม่
พั
ฒนาไปบนความเข้
าใจถึ
งวั
ฒนธรรมของตนเอง ดั
งจะเห็
นว่
า เราจะพบ
ปั
ญหาที่
ประเทศที่
มี
ความเติ
บโตทางเศรษฐกิ
จ แต่
กลั
บมี
ปั
ญหาความล่
มสลายของชุ
มชน ความแตกต่
างของ
คนในสั
งคมมี
มากขึ
น ปั
ญหาสั
งคมทวี
ความรุ
นแรงมากขึ
น ปั
ญหาสิ่
งแวดล้
อมทั
บถมมากขึ
น เป็
นต้
เมื่
อพิ
จารณาแผนพั
ฒนาทางเศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชาติ
ฉบั
บที่
10 (พ.ศ. 2550 -2555) จะเห็
นว่
เป็
นแผนปฏิ
รู
ปสั
งคม โดยเอาคนและสั
งคมเป็
นตั
วตั
ง ใช้
ความมี
ส่
วนร่
วมของทุ
กฝ่
ายในสั
งคมเป็
นเครื่
องมื
ให้
บรรลุ
จุ
ดมุ่
งหมายขั
นสุ
ดท้
าย คื
อพั
ฒนาให้
คนไทยทุ
กคน เป็
นคนเก่
งคนดี
คนมี
ความสุ
ข สามารถก้
าวทั
โลกที่
กํ
าลั
งเปลี่
ยนแปลงอย่
างรวดเร็
ว จึ
งเห็
นได้
ว่
า การพั
ฒนาที่
ท้
าทายต่
อการอยู
รอดของเศรษฐกิ
จและ
สั
งคมไทยในอนาคต คื
อการพั
ฒนาคน เพราะคนเป็
นปั
จจั
ยชี
วั
ดความสํ
าเร็
จของการพั
ฒนาทุ
กเรื่
อง จึ
งเน้
ความเป็
นศู
นย์
กลางของการพั
ฒนา และเป็
นการพั
ฒนาแบบองค์
รวม คื
อหน่
วยงานทุ
กองค์
กรจะต้
องร่
วมมื
กั
นและอย่
างต่
อเนื่
อง แผนพั
ฒนาเศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชาติ
ฉบั
บที่
10 (พ.ศ. 2550 – 2555) ยั
งคงให้
ความสํ
าคั
ญเป็
นอั
นดั
บสู
งต่
อการพั
ฒนาคุ
ณภาพคน และกระบวนการเรี
ยนรู
เพื่
อความเข้
มแข็
งทางปั
ญญา
วั
ฒนธรรมและสั
งคมตลอดจนมุ่
งส่
งเสริ
มความมี
ส่
วนร่
วมทุ
กฝ่
ายให้
เกิ
ดเครื
อข่
ายเชื่
อมโยงของชุ
มชน เพื่
นํ
าไปสู
การพั
ฒนาประเทศชาติ
ต่
อไป
1...,152,153,154,155,156,157,158,159,160,161 163,164,165,166,167,168,169,170,171,172,...262
Powered by FlippingBook