nt139 - page 11

การวิ
จั
ยเรื่
องรถม้
าลํ
าปางกั
บการพั
ฒนากระบวนการเรี
ยนรู้
ของนั
กเรี
ยนโรงเรี
ยนอนุ
บาลเมื
องลํ
าปาง
(ธงชั
ศึ
กษา) บ้
านต้
นธงชั
ย อํ
าเภอเมื
อง จั
งหวั
ดลํ
าปาง ผู้
วิ
จั
ยได้
รวบรวมข้
อมู
ลและนํ
าเสนอสาระสํ
าคั
ญที่
เกี่
ยวข้
องกั
งานวิ
จั
ย โดยจํ
าแนกไว้
ดั
งต่
อไปนี้
1. องค์
ความรู้
ในท้
องถิ่
นเรื่
องรถม้
าลํ
าปาง
รถม้
าที่
เข้
ามาในประเทศไทยครั้
งแรก เริ่
มตั้
งแต่
รั
ชสมั
ยของพระบาทสมเด็
จพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว เมื
องไทย
ได้
รั
บตกทอดมาจากอั
งกฤษและอิ
นเดี
ยเป็
นส่
วนใหญ่
โดยถื
อกั
นว่
ารถม้
าเป็
นพาหนะคู่
บ้
านคู่
เมื
อง ถึ
งขนาดในรั
ชสมั
ของพระบาทสมเด็
จพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ทรงสั่
งรถม้
าเข้
ามาเป็
นจํ
านวนมากโดยให้
ใช้
เป็
นราชรถหลวงและตั้
งกรม
ดู
แล ชื่
อว่
า “กรมอั
ศวราช” จนกระทั่
งรถยนต์
เริ่
มเข้
ามามี
บทบาท รถม้
าจึ
งถู
กนํ
าไปอยู่
ตามหั
วเมื
องต่
างๆ พร้
อมๆกั
พวกแขกมลายู
ที่
ช่
วงหนึ่
งเข้
ามาขั
บรถม้
าในเมื
องไทย ( นพวรรณ
ศิ
ริ
เวชกุ
ล , 2542 )
ในปี
พ.ศ. 2458 ซึ่
งตรงกั
บรั
ชสมั
ยของพระบาทสมเด็
จพระมงกุ
ฏเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว เมื
องไทยได้
วางรางรถไฟขึ้
มาถึ
งเมื
องลํ
าปาง จึ
งขนรถม้
าจากกรุ
งเทพฯขึ้
นรถไฟมาด้
วย ทั้
งนี้
เป็
นเพราะโครงการต่
อเชื่
อมถนนสาย 3 ซึ่
งเป็
นถนน
สายแรกหลั
งจากสถาปนากรมทาง โดยเป็
นสายที่
ทอดตั
วจากลํ
าปางไปถึ
งเชี
ยงราย รถม้
าจึ
งได้
เข้
ามามี
บทบาทสํ
าคั
ด้
วยการเป็
นพาหนะรั
บส่
งผู้
โดยสารจากตั
วสถานี
รถไฟนครลํ
าปางเข้
าสู่
ตั
วเมื
อง มี
ระยะทาง 2 กิ
โลเมตร รถไฟขบวน
แรกที่
รถม้
าได้
รั
บผู้
โดยสารที่
ลํ
าปางคื
อวั
นที่
1 เมษายน พ.ศ. 2459
รถม้
าคั
นแรกของลํ
าปางเป็
นของเจ้
าบุ
ญวาทย์
วงศ์
มานิ
ต เจ้
าผู้
ครองนครลํ
าปางองค์
สุ
ดท้
าย ซึ่
งได้
ซื้
อมาจาก
กรุ
งเทพฯ โดยว่
าจ้
างแขกมาเป็
นสารถี
ในการขั
บ หลั
งจากที่
รถม้
าได้
เข้
ามาวิ่
งรั
บส่
งผู้
โดยสารจากสถานี
รถไฟลํ
าปางเข้
ตั
วเมื
องมานานถึ
ง 39 ปี
แล้
ว ในปี
พ.ศ. 2492 ขุ
นอุ
ทานคดี
ทนายความของจั
งหวั
ดลํ
าปาง ได้
ก่
อตั้
งสมาคม
ล้
อเลื่
อนขึ้
นโดยใช้
ชื่
อว่
า สมาคมล้
อเลื่
อนจั
งหวั
ดลํ
าปาง โดยขุ
นอุ
ทานคดี
ดํ
ารงตํ
าแหน่
งนายกสมาคมคนแรกของจั
งหวั
ลํ
าปาง และได้
ร่
างกฏระเบี
ยบของสมาคมขึ้
น ต่
อมาเจ้
าบุ
ญส่
ง ณ ลํ
าปาง ได้
เข้
ามาบริ
หารกิ
จการของสมาคมแทนขุ
อุ
ทานคดี
เมื่
อปี
พ.ศ. 2495 และได้
เปลี่
ยนชื่
อเป็
นสมาคมรถม้
าจั
งหวั
ดลํ
าปาง โดยมี
ชื่
อภาษาอั
งกฤษว่
า THE
HORSE CARRIAGE IN LAMPANG PROVINCE ตั้
งแต่
นั้
นมารถม้
าของลํ
าปางก็
เจริ
ญขึ้
นอย่
างรวดเร็
จนเมื่
อปี
พ.ศ. 2501 จอมพลสฤษดิ์
ธนะรั
ชต์
ได้
มอบเงิ
นให้
แก่
เจ้
าบุ
ญส่
ง ณ ลํ
าปาง และรั
บรถม้
าเข้
าไว้
ในความอุ
ปถั
มภ์
ของรั
ฐบาล รวมถึ
งตั้
งกองทุ
นให้
สมาคมรถม้
าอี
ก 1 กองทุ
น และในวั
นที่
20 เมษายน พ.ศ. 2507
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
ว และสมเด็
จพระนางเจ้
าฯ พระบรมราชิ
นี
นาถ รวมทั้
งสมเด็
จพระบรมโอรสาธิ
ราช
สยามมกุ
ฏราชกุ
มาร ครั้
งดํ
ารงพระยศเป็
นสมเด็
จพระเจ้
าลู
กยาเธอ เจ้
าฟ้
าวชิ
ราลงกรณ์
ประพาสจั
งหวั
ดลํ
าปาง ใน
โอกาสนั้
นเจ้
าบุ
ญส่
งจึ
งได้
น้
อมเกล้
าฯถวายรถม้
า เสด็
จพร้
อมด้
วยม้
าเที
ยมรถชื่
อ “บั
ลลั
งก์
เพชร” แด่
สมเด็
จพระบรม
โอรสาธิ
ราชฯ สยามมกุ
ฏราชกุ
มาร ในนามของเจ้
าบุ
ญส่
ง ณ ลํ
าปาง และสมาคมรถม้
าจั
งหวั
ดลํ
าปาง
4
มี
เรื่
องเล่
าต่
อกั
นมาว่
า แต่
เดิ
มพวกแขกจะเป็
นคนขั
บรถม้
าในเมื
องลํ
าปาง แขกที่
ว่
านี้
คื
อชาวอิ
นเดี
ยและ
ปากี
สถานที่
เข้
ามาทํ
ามาหากิ
นตั้
งแต่
สมั
ยรั
ชกาลที่
5 ซึ่
งพระองค์
ทรงเปิ
ดเสรี
ให้
ชาวต่
างชาติ
เข้
ามาทํ
ากิ
นในแผ่
นดิ
นไทย
ได้
และแขกพวกนี้
ก็
ติ
ดตามรถม้
าไปทุ
กแห่
ง ไม่
ว่
าจะเป็
นที่
หั
วเมื
องไหน ก็
ไปตั้
งรกรากอยู่
ที่
นั่
น จนกระทั่
งช่
วงระหว่
าง
สงครามโลกครั้
งที
2 จอมพล ป. พิ
บู
ลสงคราม มี
คํ
าสั่
ง “ไล่
คนต่
างประเทศออกจากจั
งหวั
ดลํ
าปาง เชี
ยงใหม่
1...,2,3,4,5,6,7,8,9,10 12,13,14,15,16,17,18,19,20,21,...78
Powered by FlippingBook